ผลออสการ์ ครั้งที่ 86 รางวัลทางภาพยนตร์สุดยิ่งใหญ่
ถึงคราวการแข่งขันชิงความเป็นเลิศทางด้านภาพยนตร์สุดเข้มข้นประจำปี 2013 ได้บทสรุปเป็นที่เรียบร้อยในงานประกาศรางวัล "อคาเดมี อวอร์ดส์" (Academy Awards) หรือ "ออสการ์" (Oscar) ครั้งที่ 86 ที่ ดอลบี เธียเตอร์ ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเช้าวันที่ 3 มีนาคม 2014 ตามเวลาในประเทศไทย และเป็นอีกครั้งที่พิธีกรรวยอารมณ์ขัน "เอลเลน ดีเจเนอเรส" (Ellen DeGeneres) กลับมาทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการ หลังจากเคยรับหน้าที่นี้มาแล้วเมื่อปี 2007
ปล่อยให้คอภาพยนตร์ลุ้นกันอยู่เดือนกว่า ในที่สุดก็ได้รู้กันแล้วเรื่องใดคว้ารางวัลใหญ่ไปครอง และแล้ว "12 Years A Slave" ภาพยนตร์ที่ "สตีฟ แมกควีน" (Steve McQueen) ให้นิยามว่าไม่ได้เป็นแค่เรื่องราวของคนชนชาติแอฟริกันอเมริกันเท่านั้น แต่เป็นเรื่องราวของชาวอเมริกันทั้งหมด ได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งหลังคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุด ทำให้ 12 Years A Slave เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่มีผู้กำกับเป็นคนผิวสีที่ชนะรางวัลสาขานี้ โดย สตีฟ ผู้กำกับและผู้ร่วมอำนวยการสร้าง กล่าวว่า "ไม่ใช่แค่มีชีวิตรอดแต่คือการใช้ชีวิต นี่คือมรดกล้ำค่าที่ โซโลมอน นอร์ธอัป ทิ้งไว้ให้ ผมขออุทิศรางวัลนี้ให้แก่ผู้คนที่ได้ทนทุกข์กับการเป็นทาส และอีก 21 ล้านคนที่ยังทรมานจากการเป็นทาสในทุกวันนี้ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณ"
นอกจากนี้ภาพยนตร์เกี่ยวกับทาสยังส่งให้นักแสดงมากฝีมือ "ลูปิตา ยองโง" (Lupita Nyong'o) ผู้รับบททาสสาว แพตซีย์ ขึ้นครองแท่นนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม "ไม่เคยลืมแม้ชั่วขณะว่าความสุขของฉันเกิดจากความเจ็บปวดแสนสาหัสของคนอื่น ดังนั้นฉันจึงขอสดุดีจิตวิญญาณของแพตซีย์ที่คอยนำทาง และสำหรับโซโลมอน ขอบคุณที่บอกเล่าเรื่องราวของเธอค่ะ" ลูปิตา เผย "เมื่อฉันมองมายังรางวัลสีทองนี้ มันจะคอยย้ำเตือนฉันถึงเด็กเล็กๆ ทุกคน ไม่ว่าคุณจะมาจากที่ไหน ความฝันของคุณมีความหมายเสมอค่ะ" นอกจากนี้ 12 Years A Slave ยังรวบตำแหน่งบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมไปอีกหนึ่งตำแหน่ง รวมทั้งสิ้น 3 รางวัล
ส่วนภาพยนตร์ที่กวาดรางวัลเบื้องหลังล้นหลาม ทั้งกำกับภาพยอดเยี่ยม การสร้างภาพพิเศษยอดเยี่ยม ตัดต่อยอดเยี่ยม ตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม ผสมเสียงยอดเยี่ยม และ ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม รวมถึงรางวัลสำคัญผู้กำกับยอดเยี่ยม รวม 7 รางวัล จากการเข้าชิง 10 สาขา ไม่พ้นภาพยนตร์ไร้แรงโน้มถ่วง "Gravity" ซึ่ง "อัลฟองโซ คัวรอน" (Alfonso Cuaron) ผู้กำกับภาพยนตร์สุดเวิ้งว้างกล่าวว่า "เหมือนความอุตสาหะของมนุษย์คนอื่นๆ นั่นแหละครับ การสร้างภาพยนตร์ก็เป็นประสบการณ์ที่ขับเคลื่อนตัวเรา และผมอยากขอบคุณ Gravity เพราะพวกเราหลายคนที่มีส่วนในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ประสบการณ์ที่มีพลังทีเดียว และนั่นเป็นเรื่องที่ดี เพราะเราใช้เวลานานมาก หากไม่ได้เป็นแบบนั้น มันคงจะเป็นการเสียเวลาเปล่า"
ด้าน "แมตธิว แม็กคอนาเฮย์" (Matthew McConaughey) รั้งรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก "Dallas Buyers Club" ภาพยนตร์ 3 รางวัลออสการ์ในปีนี้ ทั้งยังส่งข้อความน่าจดจำไว้ขณะรับรางวัลด้วย "มี 3 สิ่งที่ผมต้องมีในหนึ่งวัน หนึ่งคือคนที่ผมเคารพ สองคือคนที่ผมรอคอย และสามคือคนที่ผมต้องไล่ตาม" ซึ่งคนที่ แมตธิว เคารพคือพระเจ้า ที่มอบโอกาสให้เขามากมาย และคนที่เขาตั้งตาคอยคือครอบครัวของเขา ส่วนคนที่เขาต้องไล่ตามคือตัวเขาเองใน 10 ปีข้างหน้า "ทุกๆ สัปดาห์ ทุกๆ เดือน ทุกๆ ปี ฮีโร่ของผมจะห่างจากผม 10 ปี ผมไม่มีทางเป็นฮีโร่คนนั้นได้แน่ ผมรู้ว่าผมเป็นไม่ได้แน่ๆ แต่นั่นเป็นสิ่งที่ดีเพราะนั่นทำให้ผมมีใครสักคนให้ไล่ตามครับ"
ส่วนเพื่อนนักแสดงผู้ร่วมลดน้ำหนักสุดโต่งเพื่อรับบทผู้ป่วยเชื้อเอดส์จากภาพยนตร์เรื่องเดียวกับ แมตธิว อย่าง "จาเรด เลโต" (Jared Leto) ผู้เคยคิดว่าชีวิตตัวเองในฐานะนักแสดงพังลงไปตั้งแต่ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากการรับบทบาทในภาพยนตร์ "Chapter 27" เมื่อปี 2007 ก็กอบกู้ความมั่นใจในความสามารถของตัวเองด้วยการรวบตำแหน่งนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมไปได้ ซึ่งเจ้าตัวกล่าวขอบคุณคุณแม่ที่คอยสนับสนุนและพี่ชายที่ร่วมผจญภัยด้วยกันเสมอมา โดยไม่ลืมให้กำลังใจกับผู้ที่ประสบชะตากรรมเช่นเดียวกับในภาพยนตร์ "รางวัลนี้สำหรับคน 36 ล้านคนที่แพ้การต่อสู้ให้กับเอดส์ และสำหรับใครที่ตามที่รู้สึกถึงความอยุติธรรม เพราะสิ่งที่คุณเป็น หรือเพราะคนที่คุณรัก คืนนี้ผมยืนอยู่ที่นี่ ต่อหน้าโลกทั้งใบกับพวกคุณและเพื่อพวกคุณ ขอบคุณมากครับ"
ฟาก "เคต บลันเชตต์" (Cate Blanchett) ผู้เคยชนะรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมเมื่อปี 2005 จาก "The Aviator" มาแล้ว ทำให้ปีนี้รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจาก "Blue Jasmine" เป็นรางวัลออสการ์รางวัลที่ 2 ของเธอ "ฉันอยู่ตรงนี้ เพื่อรับรางวัลจากบทภาพยนตร์สุดอัศจรรย์ของ วูดดี อัลเลน (Woody Allen) ขอบคุณมากค่ะวูดดี ที่เลือกฉันมาแสดง ฉันรู้สึกประทับใจมากค่ะ ฉันภูมิใจมากที่ Blue Jasmine เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ได้นานเท่าที่จะทำได้ และขอบคุณ โซนี่ คลาสสิก สำหรับความกล้าหาญและฉลาดที่จัดจำหน่ายภาพยนตร์ให้ผู้ชมได้ดูเรื่องนี้"
นอกจากนี้ภาพยนตร์แอนิเมชัน "Frozen" ยังครองรางวัลภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม แถมเพลงดัง "Let It Go" ประกอบภาพยนตร์ที่ "อีดีนา เมนเซล" (Idina Menzel) นำมาขับร้องในงาน ก็รวบรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปอีกรางวัล ส่วน "สไปก์ จอนซ์" (Spike Jonze) ผู้กำกับและผู้เขียนบท "Her" ถือรางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมไปด้วย ขณะที่ "The Great Gatsby" ก็พารางวัลออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยมและออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยมกลับบ้านไป ส่วน "American Hustle" ที่เข้าชิงรางวัลถึง 10 สาขา กลับต้องคอตก คว้ารางวัลใดๆ ไม่ได้เลยอย่างน่าเสียดาย
สำหรับบรรยากาศภายในงาน สาวเท่ เอลเลน สร้างความเป็นกันเองให้ได้กล่าวถึงอยู่ไม่น้อย อาทิ การชวน "เมอรีล สตรีป" (Meryl Streep) ถ่ายรูป เพื่อสร้างสถิติใหม่ให้มีจำนวนคนรีทวีตในทวิตเตอร์มากที่สุด โดยมีเหล่าดารา อาทิ "จูเลีย โรเบิร์ตส์" (Julia Roberts) "เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์" (Jennifer Lawrence) "แบรดลีย์ คูเปอร์" (Bradley Cooper) "แบรด พิตต์" (Brad Pitt) "แองเจลินา โจลี" (Angelina Jolie) และ "เควิน สเปซีย์" (Kevin Spacey) มาร่วมถ่ายรูปกันอย่างครื้นเครง กลายเป็นรูปประวัติศาสตร์ที่มีการรีทวีตสูงสุดมากกว่า 3 ล้านครั้งภายในเวลา 1 วัน หรือการถามผู้ชมว่ามีใครหิวบ้าง แล้วสั่งพิซซ่าเข้ามาทานกันเอร็ดอร่อยภายในงานจริงๆ
สรุปผลรางวัล ออสการ์ ครั้งที่ 86
- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม: 12 Years a Slave
- ผู้กำกับยอดเยี่ยม: Alfonso Cuaron - Gravity
- นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม: McConaughey - Dallas Buyers Club
- นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม: Cate Blanchett - Blue Jasmine
- นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม: Jared Leto - Dallas Buyers Club
- นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม: Lupita Nyong'o - 12 Years a Slave
- บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม: Spike Jonze - Her
- บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม: John Ridley - 12 Years a Slave
- ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม: The Great Beauty
- ภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม: Frozen
- ภาพยนตร์แอนิเมชันขนาดสั้นยอดเยี่ยม: Mr. Hublot
- ภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม: 20 Feet from Stardom
- ภาพยนตร์สารคดีขนาดสั้นยอดเยี่ยม: The Lady in Number 6: Music Saved My Life
- ภาพยนตร์ขนาดสั้นยอดเยี่ยม: Helium
- ออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม: The Great Gatsby
- กำกับภาพยอดเยี่ยม: Gravity
- ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม: The Great Gatsby
- ตัดต่อยอดเยี่ยม: Gravity
- แต่งหน้าและทำผมยอดเยี่ยม: Dallas Buyers Club
- ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม: Gravity
- เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม: Let It Go - Frozen
- ตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม: Gravity
- ผสมเสียงยอดเยี่ยม: Gravity
- การสร้างภาพพิเศษยอดเยี่ยม: Gravity