ผลออสการ์ ครั้งที่ 75 รางวัลทางภาพยนตร์สุดยิ่งใหญ่
รางวัล อคาเดมี อวอร์ด หรือออสการ์ครั้งที่ 75 สำหรับผลงานภาพยนตร์ปี 2002 ของสถาบันศิลปะและวิทยาศาสตร์การภาพยนตร์ ประกาศผลแล้วในเช้าวันจันทร์ที่ 24 มีนาคม ตามเวลาในประเทศไทย แม้ในปีนี้จะไม่ได้ถ่ายทอดสดในช่วงเรดคาร์เปต ซึ่งเป็นช่วงที่นักแสดงและบุคคลในวงการภาพยนตร์มาถึง โกดัก เธียเตอร์ สถานที่จัดงาน แต่ก็โชคดีที่ได้ชมการถ่ายทอดสดในช่วงการประกาศผลรางวัลโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้น
รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมตกเป็นของ Chicago ตามความคาดหมาย นอกจากนี้ ภาพยนตร์ที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สูงสุดยังรับรางวัล กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม เครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม บันทึกเสียงยอดเยี่ยม ตัดต่อยอดเยี่ยม และ นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (แคทเธอรีน ซีตา-โจนส์) รวมทั้งสิ้น 6 รางวัล
และอีกเช่นเคยที่ผลรางวัลมาเหนือความคาดหมาย ประหลาดใจสุดๆ เมื่อ The Pianist รับไปถึง 3 รางวัล และนำชัยให้ โรมัน โปลันสกี้ คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม (ทั้งๆ ที่รู้ว่ายังไงก็ไม่มารับรางวัลแน่นอน) อีกทั้งยังส่งให้ เอเดรียน โบรดี้ วัย 29 ปี รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม พ่วงสถิติใหม่ด้วยการเป็นนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมที่มีอายุน้อยที่สุด แบบไม่ต้องเกรงใจตัวเก็งอย่าง แดเนียล เดย์ ลูอิส และ แจ๊ก นิโคลสัน แถมยังจูบ ฮัลลี่ เบอร์รี่ ผู้เชิญรางวัลซะอย่างดูดดื่มอีกต่างหาก เอ๊ะ..ถือโอกาสจีบสาวบอนด์หรือเปล่าเนี่ย :)
แค่นี้ยังไม่พอ เพราะนับเป็นครั้งแรกของออสการ์เลยทีเดียวที่มอบรางวัล เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ให้แก่แนวเพลงแร็พ Lose Yourself จากภาพยนตร์เรื่อง 8 Mile แต่น่าเสียดายที่ เอมิเน็ม ไม่ได้มาร่วมงาน เลยไม่ได้เห็นลีลาแร็พกันแบบสดๆ ของ เอมิเน็ม บนเวทีออสการ์
เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้ที่ได้รับรางวัลทางด้านนักแสดงทั้ง 4 ท่าน ได้แก่ เอเดรียน โบรดี้, นิโคล คิดแมน, คริส คูเปอร์ และ แคทเธอรีน ซีตา-โจนส์ ล้วนเป็นหน้าใหม่บนเวทีออสการ์ทั้งสิ้น แต่ที่โดนแซวมากที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องจมูกของ นิโคล คิดแมน ในบทบาท เวอร์จิเนีย วูล์ฟ เรื่อง The Hours โดย สตีฟ มาร์ติน ผู้ดำเนินรายการปล่อยมุขเด็ดว่า "ภาพยนตร์ที่ผ่านมาทุกเรื่องของ นิโคล คิดแมน ล้วนแต่ทำจมูกปลอมขึ้นมาทั้งสิ้น มีแต่เรื่อง The Hours นี่แหละที่ใช้จมูกจริงๆ" ส่วน แคทเธอรีน ซีตา-โจนส์ ก็ใช่ย่อย เพราะต้องอุ้มท้องมาร่วมงาน แถมยังโชว์ลีลาร้องเพลง I Move On บนเวทีร่วมกับ ควีน ลาติฟาห์ ด้วย
ผิดหวังจากออสการ์มากที่สุด คงหนีไม่พ้น Gangs of New York เพราะได้เข้าชิงออสการ์ถึง 10 รางวัล แต่กลับบ้านมือเปล่า ไม่ได้แม้แต่รางวัลเดียว
ผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 75
- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม - Chicago
- ผู้กำกับยอดเยี่ยม - โรมัน โปลันสกี้ จาก The Pianist
- นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม - เอเดรียน โบรดี้ จากThe Pianist
- นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม - นิโคล คิดแมน จาก The Hours
- นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม - คริส คูเปอร์ จาก Adaptation
- นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม - แคทเธอรีน ซีตา-โจนส์ จาก Chicago
- ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม - Nowhere in Africa (Nirgendwo in Afrika) จากประเทศเยอรมัน
- บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม - โรนัล ฮาร์วูด จาก The Pianist
- บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม - เปโดร อัลโมโดวาร์ จาก Talk to Her (Hable con ella)
- ภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยม - Spirited Away โดย ฮายาโอะ มิยาซากิ
- กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม - Chicago
- กำกับภาพยอดเยี่ยม - คอนราด แอล. ฮอลล์ จาก Road to Perdition (เสียชีวิตแล้ว โดย คอนราด ดับบลิว. ฮอลล์ ลูกชาย เป็นผู้รับรางวัลแทน)
- บันทึกเสียงยอดเยี่ยม - Chicago
- ตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม - The Lord of the Rings: The Two Towers
- แต่งกายยอดเยี่ยม - Chicago
- ตัดต่อภาพยอดเยี่ยม - Chicago
- แต่งหน้ายอดเยี่ยม - Frida
- เทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม - The Lord of the Rings: The Two Towers
- ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม - เอลเลียต โกลเดนธัล จาก Frida
- เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม - เอมิเน็ม, เจฟฟ์ บาสส์ และ หลุยส์ เรสโต ในเพลง Lose Yourself จาก 8 Mile
- ภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม - ไมเคิล มัวร์ และ ไมเคิล โดโนแวน จาก Bowling for Columbine
- ภาพยนตร์สารคดีสั้นยอดเยี่ยม - บิลล์ กัตเตนแทก และ โรเบิร์ต เดวิด พอร์ต จาก Twin Towers
- ภาพยนตร์สั้นประเภทอนิเมชั่นยอดเยี่ยม - เอริก อาร์มสตรอง จาก The ChubbChubbs!
- ภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยม - มาร์ติน สเตรน์จ-แฮนเซน และ มีอา แอนเดรียเซน จาก This Charming Man (Der Er En Yndig Mand)
- รางวัลเกียรติยศ - ปีเตอร์ โอ'ทูล