รักเราเขย่าขวัญ ภาพยนตร์หวานที่เคลือบด้วยความสยอง

ในเดือนแห่งความรักที่กำลังจะหมดไป ผู้กำกับรวยอารมณ์ขัน "ป๊อก - พิสุทธิ์ แพร่แสงเอี่ยม" ก็ขอส่งภาพยนตร์โรแมนติกแบบสยองๆ "รักเราเขย่าขวัญ" เป็นการส่งท้าย โดยดึงเอา "ดิม - หรินทร์ สุธรรมจรัส" นักร้องนำวง "แทททู คัลเล่อร์" (Tattoo Colour) และนางเอกน้องใหม่สำหรับวงการภาพยนตร์ "ซีน - ปัณณ์ญาณัช จิรโรจน์ธนเกษม" มาประกบคู่กันครั้งแรก ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 ผู้กำกับ ป๊อก ขอพาลูกทีมมาร่วมเปิดตัวภาพยนตร์อย่างเป็นทางการ ณ โรงภาพยนตร์เอสเอฟเอ็กซ์ ซีเนม่า เซ็นทรัล ลาดพร้าว

ผู้กำกับเกริ่นเล็กๆ เกี่ยวกับแนวภาพยนตร์ว่า "หนังผีสำหรับเด็ก (หัวเราะ) ไม่ใช่ครับ มันเป็นหนังโรแมนติกฮอร์เรอร์" ป๊อก เผยสาเหตุที่เลือก ดิม มารับบท เหวิน พระเอกของเรื่อง เป็นเพราะบุคลิกตรงกับตัวละคร "ดิมเป็นคนที่บุคลิกตัวจริงใกล้กับตัวละครที่เราเขียนไว้มาก แต่อะไรไม่สำคัญเท่าว่างและค่าตัวไม่แพง อันนี้สำคัญเลย บอก 7 ล้านไม่ต่อ จบเลย (หัวเราะ) คือบุคลิกเขาตรงอยู่แล้ว ไม่ต้องไปดัดอะไรเขามากก็จะทำงานง่าย"

พระเอกของเรื่องขออธิบายเต็มที่ "จริงๆ เรื่องนี้จะดีไม่ได้ ถ้าผมไม่ได้พี่ป๊อกเป็นผู้กำกับ เพราะว่าจริงๆ แล้วทุกฉากทุกตอน คือพอเราแสดงอะไรไป มันมากไปเขาจะทอนลงมา ถ้ามันน้อยไปเขาจะบิลด์ขึ้นมา เหมือนตัดหัวตัดท้ายประมาณนี้ได้ผู้กำกับช่วย เขาเป็นแอ็กติ้งโค้ชคนหนึ่งเลยแหละ" ฟากนางเอกน้องใหม่ที่เพิ่งเคยลงจอเงินครั้งแรกอย่าง ซีน เผยถึงบทบาทที่ได้รับ "ซีน รับบทเป็น พลอย ซึ่งพลอยเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด แล้วก็จะมีตาเศร้า จะมีอะไรข้างใน จะคิดแบบว่าเศร้าๆ คือไดอะล็อกไม่มีเลยนะคะ แต่ว่าคืออยู่ทุกฉากค่ะ แล้วเวลาเหวินพูดอะไรมา คือพลอยจะตอบ แต่ว่าตอบด้วยสายตา" หนุ่ม ดิม จึงแซวว่าตอนเข้าฉากเหมือนพูดกับต้นไม้หรือเสาไฟ "เหมือนพูดคนเดียว พูดกับต้นไม้ พูดกับเสาไฟ แต่แต่งงานกันนะ"

ที่ผ่านมา ซีน เคยเล่นละคร พอมาแสดงภาพยนตร์หนักใจไหม "หนักใจมากค่ะ เพราะว่าเดิมเนี่ยเรามาจากซิตคอมมาก่อน ซิตคอมแล้วก็ละครทุกอย่างต้องเล่นใหญ่มาก แล้วคือพอมาแคสต์หนังค่ะ พอดูมอนิเตอร์ แล้วคือมันเล่นยากมากค่ะ เพราะว่าแคปซีนอยู่แค่นี้ (ช่วงบริเวณศีรษะ) ใกล้มาก แล้วอีกอย่างหนึ่งคือพลอยก็เป็นอีกคาแรกเตอร์หนึ่งซึ่งไม่ใช่แบบซีนเลย แล้วตัวผีก็เป็นอีกคาแรกเตอร์หนึ่งก็ไม่ใช่ซีนเหมือนกันค่ะ ก็เลยใช้เวลาปรับนิดนึง ซึ่งก็ได้แอ็กติ้งโค้ชเนี่ยค่ะที่สอน ยังไม่พอค่ะแอ็กติ้งโค้ช ผู้กำกับ เขียนบท ตากล้อง แบบว่าถ่ายใต้เตียงค่ะ พี่ดิมจำได้ป่ะ ภาพตอนที่พี่ป๊อกมุดอยู่ใต้เตียงอ่ะ แล้วคือแบบไซส์มินิมากแล้วอยู่ใต้เตียง งานนี้คือบรรจงสร้างค่ะ" ดิม ได้ทีไม่รอช้ายิงมุกกระทบผู้กำกับต่อเลยว่า "จริงๆ จะบอกว่าพี่ป๊อกอ้วนว่างั้นเถอะ"

อีกอย่างที่นางเอกของเรื่องรับหน้าที่หนัก นั่นก็คือการแต่งหน้าเป็นผี ซึ่ง ซีน เล่าว่าใช้เวลาแต่งหน้าอย่างน้อยสองชั่วโมง "แต่งเอฟเฟ็กต์อย่างต่ำสองชั่วโมงค่ะ จะมีแต่งเอฟเฟ็กต์เลเวลหนึ่ง เอฟเฟ็กต์เลเวลสอง สาม และก็สี่ค่ะ คือมันไม่เหมือนกันเลย มันไม่ง่ายเลยค่ะ แล้วก็อีกอย่างหนึ่งสมมติว่าถ่ายฉากนี้อยู่ ตอนนี้เป็นคน พอเหวินหันแวบหนึ่งเป็นผี พอเป็นคนปุ๊บเราก็ต้องไปแต่งเป็นผี คือทุกอย่างมันคอนทินิวกันหมด ก็เลยยากในเรื่องของอารมณ์ แต่ว่าไม่เป็นไรเนอะ พี่ดิมทำได้อยู่แล้ว สบายมาก" เมื่อถูกถามว่าช่วงเวลารอ ซีน แต่งหน้า ทำไมหนุ่ม ดิม ใช้เวลากินกับนอนไม่ได้ท่องบท เจ้าตัวเตรียมคำตอบไว้แล้วว่า "บทอยู่ที่เขา (ผู้กำกับ) อยู่แล้ว คือบทอยู่ในหัวเขาอีก เราก็ไม่สามารถไปรู้ได้ว่าพระเอกจะพูดว่าอะไร พอเข้าฉากปุ๊บ คนนี้ถึงเพิ่งคายบทออกมา แล้วพูดว่าอะไรบ้าง ถึงแม้ว่าน้องเขาจะสลับแต่งผีแต่งคน แต่น้องเขากลับมาได้แบบว่าเป๊ะตลอด"

นักแสดงอีกคนของเรื่องที่มาสร้างสีสันให้กับภาพยนตร์ คือ "เทพ - พงษ์เทพ อนุรัตน์" ตัวละครตัวนี้มีความสำคัญอย่างไร ป๊อก ผู้กำกับ เผยว่า "เขาเรียกว่าเป็นเพื่อนบ้านที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการสอดรู้สอดเห็นชีวิตของเพื่อนบ้าน ก็เป็นบทสำคัญมากเลยนะ เป็นตัวละครที่สำคัญนะ กุมความลับของหนังเอาไว้" เทพ เลยกล่าวเสริมให้กับตัวเองว่า "ผมรับบทเป็น คมศร เป็นเพื่อนกับดิมครับ เป็นแก๊ง ถ้าเป็นเด็กบ้านนอกก็จะมีเด็กโข่งเด็กอะไรรวมๆ กัน เพื่อนมีเมียก็จะไปแอบดูว่าทำอะไรกัน"

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ไปถ่ายทำไกลถึง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ทำไมถึงเลือกไปถ่ายทำที่นี่ ผู้กำกับเผยว่า "มันเป็นอำเภอที่ผมมีญาติพี่น้องอยู่เยอะ แล้วก็จะรู้จักคนในพื้นที่ ที่สำคัญคือที่อำเภอพร้าว กลางวันมันสวย สวยมากยิ่งช่วงหน้าหนาวที่เราไปถ่าย แต่พอกลางคืนนี้มันก็หลอนมากด้วย คือโลเคชันตรงหนังด้วย กลางวันสวยกลางคืนหลอน มันเอาตั้งแต่โลเคชันเลย ตัวโลเคชันเองอย่างเราขับรถไปเรื่อยๆ ไม่มีเสาไฟแล้วมีสุสานอยู่ริมถนนเลย กลางวันมันก็จะเย็นๆ หน่อย มีหลุมศพ พอกลางคืนก็ตัวใครตัวมัน"

ซีน เพิ่มเติมว่า "คือที่อำเภอพร้าว ตอนกลางวันจะเป็นวิวเหนือ หมอกสวยทุกอย่างค่ะ แต่คือพอตอนกลางคืนแล้ว ไฟถนนยังไม่มี" ดิม จึงขอย้ำถึงสถานที่นี้อีกครั้ง "ทุ่มหนึ่งนี้เลิกออกจากบ้านแล้ว คือไม่มีใครขับรถ ไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์พวกร้านเหล้าไม่มี ก็คือทำกับข้าวกินเองแล้วก็นอนแค่นั้น ก็คือทุ่มหนึ่งเขาอยากจะทานอะไรเนี่ย เขาซื้อตั้งแต่บ่าย เพราะว่าทุ่มหนึ่งจะไปขอเขาซื้อไม่ได้ละ ก็คือเขาปิดหมดแล้ว เงียบกริบ ก็คือถ้าสมมติสั่งแอ็กชั่น คือถ้าไม่มีไดอะล็อกพูดก็คือเงียบเลย เงียบแบบกริบๆ มองไปทางไหนก็อยากจะหลับตา กลัวจะเห็นอะไรบางอย่าง น่ากลัวมาก"

ก่อนจากกันผู้กำกับขอฝากภาพยนตร์ไว้ว่า "หนังสนุกครับ หนังดีดนตรีเพราะ ช่วงนี้ก็จะเครียดๆ หน่อยนะ บรรยากาศบ้านเมือง ก็ 95 นาทีของหนังเนี่ยจะทำให้คุณผ่อนคลาย หนังอโรมาครับ" ถัดมาคือ ซีน ที่ยืนยันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีครบทุกรส "ภาพยนตร์เรื่องนี้เรียกได้ว่าบรรจงสร้างแล้วก็มีครบทุกรสจริงๆ ผู้ใหญ่ดูได้เด็กดูดี แล้วก็คู่รักหลายๆ คน ถ้าเกิดใครกำลังง้องแง้งๆ อยู่ รับรองดูเรื่องนี้แล้วจะแข็งแรงในความรักมากยิ่งขึ้น ก็ฝากด้วยนะคะ เพราะว่าเต็มที่จริงๆ รักเราเขย่าขวัญ ค่ะ" จากนั้น ซีน ก็อวดเสียงหวานๆ ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า "ความรัก" จากต้นฉบับเดิมของนักร้องสาว "ปุ๊ - อัญชลี จงคดีกิจ" มาขับกล่อมให้ได้ฟังกัน

ความรักที่วนเวียนอยู่รอบตัวและความน่ากลัวที่ซ่อนอยู่ กำลังจะถูกเผยในภาพยนตร์ รักเราเขย่าขวัญ ค้นหาคำตอบของสิ่งที่ซุกซ่อนไว้ได้วันที่ 27 กุมภาพันธ์ นี้ เป็นต้นไป ที่โรงภาพยนตร์