1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

เกร็ดน่ารู้สำหรับ อคาเดมี อวอร์ดส์ หรือ ออสการ์ ครั้งที่ 88

เกร็ดน่ารู้สำหรับ อคาเดมี อวอร์ดส์ หรือ ออสการ์ ครั้งที่ 88

แม้ผู้ชมอย่างเราๆ จะไม่ต้องเตรียมแต่งตัวเฉิดฉายเพื่อไปเดินพรมแดงในงานประกาศรางวัลทางภาพยนตร์สุดยิ่งใหญ่อย่าง อคาเดมี อวอร์ดส์ (Academy Awards) หรือ ออสการ์ (Oscar) และไม่ต้องเตรียมสุนทรพจน์ไปกล่าวบนเวทีตอนถูกขานชื่อว่าชนะรางวัลอย่างที่คนเบื้องหน้าและเบื้องหลังวงการภาพยนตร์จะต้องทำกัน นั่นไม่ได้หมายความว่าผู้ชมอย่างเราจะไม่ตื่นเต้นตั้งตาคอยวันจัดงานที่จะมาถึงในเช้าวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ที่จะมาถึงนี้ตามเวลาในประเทศไทย แต่การที่จะนั่งนับนิ้วรอวันเฉยๆ ก็ดูจะว่างเปล่าเกินไป จึงขอเชิญคอภาพยนตร์ทุกคนมาชมข้อสังเกตที่น่าสนใจในงานออสการ์ครั้งที่ 88 นี้กัน

  • มีการเปลี่ยนกฎให้มีภาพยนตร์เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมได้ 5-10 เรื่องตั้งแต่ปี 2011 โดย 3 ปีแรกที่เปลี่ยนกฎมีภาพยนตร์ได้เข้าชิงสาขานี้ทั้งหมด 9 เรื่อง ส่วน 2 ปีหลังมีภาพยนตร์ได้เข้าชิง 8 เรื่อง

  • "สตีเวน สปีลเบิร์ก" (Steven Spielberg) เป็นผู้อำนวยการสร้างที่ภาพยนตร์ได้เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมากที่สุด 9 ครั้ง โดยปีนี้เข้าชิงจาก "Bridge of Spies" เรื่องก่อนหน้านี้ ได้แก่ "Schindler's List" ที่ชนะรางวัลเมื่อปี 1993 "E.T. The Extra-Terrestrial" "The Color Purple" "Saving Private Ryan" "Munich" "Letters from Iwo Jima" "War Horse" และ "Lincoln"

  • ผู้เข้าชิงสาขานักแสดงครั้งแรกมีทั้งหมด 8 คน ได้แก่ "ไบรอัน แครนสตัน" (Bryan Cranston) จาก "Trumbo" "ทอม ฮาร์ดี" (Tom Hardy) จาก "The Revenant" "มาร์ก ไรแลนซ์" (Mark Rylance) จาก "Bridge of Spies" "บรี ลาร์สัน" (Brie Larson) จาก "Room" "ชาร์ลอตต์ แรมพลิง" (Charlotte Rampling) จาก "45 Years" "เจนนิเฟอร์ เจสัน ลีห์" (Jennifer Jason Leigh) จาก "The Hateful Eight" "ราเชล แมกอดัมส์" (Rachel McAdams) จาก "Spotlight" และ "อลิเซีย ไวแคนเดอร์" (Alicia Vikander) จาก "The Danish Girl"

  • ผู้เข้าชิงสาขานักแสดงที่เคยชนะรางวัลมาแล้วมี 5 คน ได้แก่ "เอ็ดดี เรดเมย์น" (Eddie Redmayne) จาก "The Danish Girl" "คริสเตียน เบล" (Christian Bale) จาก "The Big Short" "เคต บลันเชตต์" (Cate Blanchett) จาก "Carol" "เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์" (Jennifer Lawrence) จาก "Joy" และ "เคต วินสเล็ต" (Kate Winslet) จาก "Steve Jobs"

  • "เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์" (Jennifer Lawrence) ในวัย 25 ปี เป็นนักแสดงที่อายุน้อยที่สุดที่ได้เข้าชิงสาขานักแสดงถึง 4 ครั้ง โดยปีนี้เข้าชิงจากภาพยนตร์เรื่อง "Joy" และ 3 ครั้งก่อนหน้านี้ได้เข้าชิงจาก "American Hustle" "Silver Linings Playbook" และ "Winter's Bone"

  • "ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน" (Sylvester Stallone) ผู้เข้าชิงสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากบท ร็อกกี ใน "Creed" เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากบทเดียวกันใน "Rocky" เมื่อปี 1976 ทำให้ ซิลเวสเตอร์ เป็นนักแสดงคนที่ 6 ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขานักแสดงจากการรับบทเดิมในภาพยนตร์เรื่องใหม่ นักแสดงคนก่อนหน้านี้ ได้แก่ "บิง ครอสบีย์" (Bing Crosby) ผู้รับบท คุณพ่อโอ'มอลลีย์ ใน "Going My Way" และ "The Bells of St. Mary's" "พอล นิวแมน" (Paul Newman) เจ้าของบท เอ็ดดี เฟลสัน ใน "The Hustler" และ "The Color of Money" "ปีเตอร์ โอ'ทูล" (Peter O'Toole) ในบท พระเจ้าเฮนรีที่ 2 ใน "Becket" และ "The Lion in Winter" "อัล ปาชิโน" (Al Pacino) ผู้สวมบท ไมเคิล คอร์เลโอเน ใน "The Godfather" และ "The Godfather Part II" และ "เคต บลันเชตต์" (Cate Blanchett) ผู้รับบท สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 ใน "Elizabeth" และ "Elizabeth: The Golden Age"

  • "โรเจอร์ เดียกินส์" (Roger Deakins) เป็นบุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่ที่เข้าชิงสาขาผู้กำกับภาพยอดเยี่ยมมากที่สุด โดยเข้าชิงเป็นครั้งที่ 13 จาก "Sicario" ส่วนคนที่ถือสถิติเข้าชิงสาขานี้สูงสุด คือผู้กำกับภาพผู้ล่วงลับ "ชาร์ลส์ บี. แลง, จูเนียร์" (Charles B. Lang, Jr) และ "ลีออน แชมรอย" (Leon Shamroy) ด้วยจำนวน 18 ครั้งเท่ากัน

  • "แซนดี พาวเวลล์" (Sandy Powell) คือบุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่ที่เข้าชิงสาขาออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยมมากที่สุด โดยเข้าชิงครั้งที่ 12 จาก "Carol" โดย "อีดิธ เฮด" (Edith Head) ผู้ล่วงลับเป็นเจ้าของสถิติสูงสุดที่ 35 ครั้ง

  • "จอห์น วิลเลียมส์" (John Williams) ผู้เข้าชิงสาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก "Star Wars: The Force Awakens" ยังคงรักษาสถิติบุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่ที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์มากที่สุดที่ 50 ครั้ง โดยเข้าชิงสาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาแล้วทั้งหมด 45 ครั้ง และสาขาเพลงประกอบยอดเยี่ยม 5 ครั้ง ส่วนผู้ที่เข้าชิงรางวัลสูงสุดในประวัติศาสตร์ยังคงเป็นของ "วอลท์ ดิสนีย์" (Walt Disney) ที่เข้าชิง 59 ครั้ง

  • "โธมัส นิวแมน" (Thomas Newman) ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งที่ 13 จาก "Bridge of Spies" ในสาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ทำให้ครอบครัว นิวแมน ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก ได้แก่ "อัลเฟรด นิวแมน" (Alfred Newman) "ไลโอเนล นิวแมน" (Lionel Newman) "เอมิล นิวแมน" (Emil Newman) "เดวิด นิวแมน" (David Newman) "แรนดี นิวแมน" (Randy Newman) และ โธมัส ได้เข้าชิงรางวัลรวมแล้วมากถึง 89 ครั้ง เป็นครอบครัวที่ได้เข้าชิงออสการ์มากที่สุด

  • สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเป็นเพลงที่มาจากภาพยนตร์สารคดี 2 เรื่อง ได้แก่เพลง "Til It Happens To You" จากเรื่อง "The Hunting Ground" และเพลง "Manta Ray" จากภาพยนตร์ "Racing Extinction"

  • "แอนดี เนลสัน" (Andy Nelson) ได้เข้าชิงสาขาผสมเสียงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์ 2 เรื่องในปีนี้ คือ "Bridge of Spies" และ "Star Wars: The Force Awakens" ทำให้ แอนดี ถือสถิติเข้าชิงสาขานี้สูงสุดที่ 20 ครั้งเท่ากับ "เควิน โอ'คอนเนล" (Kevin O'Connell)

  • "Inside Out" เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องที่ 9 ที่ได้เข้าชิงสาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ถัดจาก "Toy Story" "Finding Nemo" "The Incredibles" "Ratatouille" "WALL-E" "Up" "Toy Story 3" และ "Shrek" แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีเรื่องไหนชนะ และนี่เป็นการเข้าชิงสาขาบทภาพยนตร์ครั้งที่ 4 ของ "พีต ด็อกเตอร์" (Pete Docter) ทำให้เขาและ "แอนดรูว์ สแตนทัน" (Andrew Stanton) ครองสถิติผู้เข้าชิงสาขาบทภาพยนตร์จากภาพยนตร์แอนิเมชันสูงสุดเท่ากัน

  • "แบรด พิตต์" (Brad Pitt) เข้าชิงออสการ์ทั้งหมด 6 ครั้ง และเป็นครั้งที่ 3 ที่ได้เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในฐานะผู้อำนวยการสร้างจากเรื่อง "The Big Short" ภาพยนตร์ของ แบรด ที่ได้เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเรื่องก่อนหน้า คือ "12 Years a Slave" ที่ชนะรางวัลไปเมื่อปี 2014 และ "Moneyball" อีกทั้ง แบรด ยังเคยเข้าชิงสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจาก "12 Monkeys" และสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก "The Curious Case of Benjamin Button" และ "Moneyball"

  • ผู้กำกับ 4 คนจากทั้งหมด 5 คนคือผู้กำกับที่ได้เข้าชิงสาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเป็นปีแรก ได้แก่ "อดัม แมกเคย์" (Adam McKay) จาก "The Big Short" "จอร์จ มิลเลอร์" (George Miller) จาก "Mad Max: Fury Road" "เลนนี อับราฮามสัน" (Lenny Abrahamson) จาก "Room" และ "ทอม แม็กคาร์ธี" (Tom McCarthy) จาก "Spotlight" โดยมี "อเลฮันโดร กอนซาเลซ อินาร์ริตู" (Alejandro Gonzalez Inarritu) จาก "The Revenant" เป็นผู้กำกับเพียงคนเดียวที่เข้าชิงสาขานี้ทั้งหมด 3 ครั้ง โดยชนะรางวัลนี้จาก "Birdman" เมื่อปี 2015 และเคยเข้าชิงจาก "Babel"

  • "ริดลีย์ สก็อตต์" (Ridley Scott) เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมครั้งแรกในฐานะผู้อำนวยการสร้างจาก "The Martian" จากที่เคยเข้าชิงสาขาผู้กำกับมาก่อนจากภาพยนตร์เรื่อง "Thelma & Louise" "Gladiator" และ "Black Hawk Down"

  • "ลีโอนาร์โด ดิคาพริโอ" (Leonardo DiCaprio) เข้าชิงสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมเป็นครั้งที่ 4 จาก "The Revenant" เรื่องอื่นๆ ก่อนหน้านี้ คือ "The Aviator" "Blood Diamond" และ "The Wolf of Wall Street" อีกทั้งยังเคยได้รับการเสนอชื่อในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม 1 ครั้งจาก "What's Eating Gilbert Grape" และได้เข้าชิงในฐานะผู้อำนวยการสร้างจาก "The Wolf of Wall Street"

  • "เคต บลันเชตต์" (Cate Blanchett) เข้าชิงสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมเป็นครั้งที่ 4 จาก "Carol" เรื่องก่อนหน้านี้ ได้แก่ "Elizabeth" "Elizabeth: The Golden Age" และ "Blue Jasmine" และเคยเข้าชิงสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม 3 ครั้ง จาก "The Aviator" "Notes on a Scandal" และ "I'm Not There" ซึ่ง เคต ชนะรางวัลจากทั้ง "The Aviator" และ "Blue Jasmine"

  • "มาร์ก รัฟฟาโล" (Mark Ruffalo) เข้าชิงสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมเป็นครั้งที่ 3 จาก "Spotlight" หลังจากเคยเข้าชิงใน "The Kids Are All Right" และ "Foxcatcher"

  • "คริสเตียน เบล" (Christian Bale) จาก "The Big Short" เข้าชิงสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมเป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกคือ "The Fighter" ที่เขาชนะรางวัลดังกล่าวเมื่อปี 2011และยังเคยเข้าชิงสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก "American Hustle"

  • แม้ "แมตต์ เดมอน" (Matt Damon) จาก "The Martian" จะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมปีนี้เป็นครั้งที่ 2 เท่ากับ "เอ็ดดี เรดเมย์น" (Eddie Redmayne) จาก "The Danish Girl" แต่ แมตต์ ยังเคยเข้าชิงสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจาก "Invictus" และเคยชนะรางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมจาก "Good Will Hunting" มาก่อน ส่วน "ไมเคิล ฟาสส์เบนเดอร์" (Michael Fassbender) คู่แข่งสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก "Steve Jobs" ก็เคยเข้าชิงสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจาก "12 Years A Slave" มาก่อน

  • "เคต วินสเล็ต" (Kate Winslet) ได้รับการเสนอชื่อในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมเป็นครั้งที่ 3 จาก "Steve Jobs" เธอเคยเข้าชิงรางวัลครั้งก่อนหน้านี้จาก "Sense and Sensibility" และ "Iris" รวมถึงชิงรางวัลสาขานักแสดงนำยอดเยี่ยมจาก "Titanic" "Eternal Sunshine of the Spotless Mind" "Little Children" และ "The Reader" ที่ เคต ชนะรางวัลเมื่อปี 2009

  • "เซอร์ชา โรแนน" (Saoirse Ronan) ผู้เข้าชิงสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจาก "Brooklyn" เคยเข้าชิงสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมมาก่อนจาก "Atonement" ส่วน "รูนีย์ มารา" (Rooney Mara) ผู้เข้าชิงสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจาก "Carol" ก็เคยเข้าชิงสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจาก "The Girl with the Dragon Tattoo"

  • "โจเอล โคเอน" (Joel Coen) และ "อีธาน โคเอน" (Ethan Coen) เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้วมากมาย ทั้งสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม ตัดต่อยอดเยี่ยม บทภาพยนตร์ดั้งเดิมและบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม ปีนี้ทั้งคู่ร่วมเข้าชิงรางวัลในสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมจาก "Bridge of Spies" โดยผลงานด้านการเขียนบทนั้น พวกเขาเคยชนะรางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมมาแล้วเมื่อปี 1997 จาก "Fargo" ทั้งสองคนยังเคยเข้าชิงสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมอีกจาก "A Serious Man" อีกทั้งยังเคยเข้าชิงสาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมจาก "True Grit" กับ "O Brother, Where Art Thou? " และเคยชนะรางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมมาแล้วเมื่อปี 2008 จาก "No Country for Old Men" ที่ทั้งคู่ชนะรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยมควบมาด้วย

  • "Mustang" เป็นภาพยนตร์ที่ได้เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมจากประเทศฝรั่งเศสเรื่องที่ 37 ซึ่งภาพยนตร์จากประเทศฝรั่งเศสเคยชนะรางวัลสาขานี้มาทั้งหมด 9 เรื่องจาก "My Uncle" "Black Orpheus" "Sundays and Cybele" "A Man and a Woman" "The Discreet Charm of the Bourgeoisie" "Day for Night" "Madame Rosa" "Get Out Your Handkerchiefs" และ "Indochine"

  • "Son of Saul" เป็นภาพยนตร์จากประเทศฮังการีเรื่องที่ 9 ที่ได้เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม และเคยชนะสาขานี้จาก "Mephisto" เมื่อปี 1981

  • "A War" เป็นภาพยนตร์จากประเทศเดนมาร์กเรื่องที่ 11 ที่ได้เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม และเคยชนะรางวัลสาขานี้ 3 ครั้งจาก "Babette's Feast" "Pelle the Conqueror" และ "In a Better World"

  • "Theeb" เป็นภาพยนตร์จากประเทศจอร์แดนเรื่องแรกที่ได้เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม

  • "พีต ด็อกเตอร์" (Pete Docter) ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขาภาพยนตร์แอนิเมชันและสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมจาก "Inside Out" เคยชนะรางวัลภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยมมาแล้วเมื่อปี 2010 จาก "Up" และเคยเข้าชิงสาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยมจาก "Monsters, Inc." นอกจากนี้ยังเคยเข้าชิงสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมจาก "Toy Story" "WALL-E" และ "Up" และยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขาภาพยนตร์แอนิเมชันขนาดสั้นยอดเยี่ยมจาก "Mike's New Car" มาแล้วด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Predestination - สร้างจากเรื่องสั้น All You Zombies ของ โรเบิร์ต เอ. ไฮน์ไลน์ อ่านต่อ»
  • The Riot Club - สร้างมาจากบทละครเรื่อง Posh เขียนโดย ลอรา เวด อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

จุดเริ่มต้นของทีม เจี่ยซือ ทีมอีสปอร์ตระดับพระกาฬ ที่ขับเคลื่อนด้วยสองขุนพลอย่าง ซูมู่ซิว (Bian Jiang) และ เยี่ยซิว (Ji...อ่านต่อ»