ยูอิ ประทับใจได้ร่วมงานในเรื่อง รักตะลอนออนเดอะบีช
"เลิฟซัมเมอร์ รักตะลอนออนเดอะบีช" ภาพยนตร์แนวโรดมูฟวี ผสมผสานด้วยความเป็นโรแมนติกคอมเมดี ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับมิตรภาพระหว่างเพื่อน ผลงานการกำกับของผู้กำกับชื่อสะดุดหูอย่าง "ทัน - ไตรลักษณ์ มรรคมีองค์แปด" ได้ฤกษ์เปิดตัวแถลงข่าวภาพยนตร์อย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา ณ ห้อง บีเอสซี ชั้น 5 เอสพลานาด รัชดาภิเษก ซึ่งก็มีผู้กำกับและเหล่านักแสดงนำของเรื่องที่มีทั้ง "ใบเฟิร์น - พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์" "ทัน - ธันวา สุริยจักร" "บอม - ธนา เอี่ยมนิยม" "จอห์น - โจนาธาน แซมซัน" และนักแสดงภาพยนตร์แนววาบหวิวจากญี่ปุ่น "ยูอิ ทัตสึมิ" (Yui Tatsumi) มาร่วมพูดคุยถึงเรื่องราวในภาพยนตร์กันอย่างพร้อมหน้า
ผู้กำกับเล่าถึงที่มาของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าเกิดจาก "แรงบันดาลใจที่เราอยากจะโปรโมตสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไทยเรา สู่สายตาทุกคนครับ" ซึ่งผู้ชมจะได้เห็นมุมสวยๆ จากสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ ทั้งในแหล่งที่คุ้นตาและแหล่งที่ยังไม่เคยได้เห็นกัน "แหลมพรหมเทพ ทุกคนรู้จักอยู่แล้ว แต่ว่ายังมีอีกที่นึงคือเกาะไข่ อยู่ที่พังงา จริงๆ ไปได้ทั้ง 2 ทาง ทั้งกระบี่กับภูเก็ต แต่ว่าที่เราไป เราไปที่ท่าเรือภูเก็ตแล้วข้ามไปที่เกาะไข่ เป็นเกาะที่สวยงามมาก อยู่ท่ามกลางทะเลแล้วก็ปลาเยอะมาก"
ไตรลักษณ์ บอกถึงเนื้อหาที่ต้องการสื่อให้เห็นในภาพยนตร์ว่า "คือจริงๆ เราถ่ายทอดผ่านความเป็นโรแมนติกคอมเมดี เพราะว่าเราต้องการสื่อให้วัยรุ่นทุกคนรู้ว่าการที่เราจะมีเพื่อน เราต้องเดินทางออกไปหา ไม่ใช่นั่งเล่นเฟซบุ๊ก เล่นบีบีแล้วเป็นเพื่อนกันมันไม่ใช่อย่างนั้น" ธันวา พูดถึงบทบาทที่ได้รับว่า "รับบทเป็นจอร์ชครับ ในเรื่องจอร์ชจะเป็นเด็กหนุ่มคนไทยที่ไปโตที่ต่างประเทศ แล้วก็กลับมาเจอเพื่อนสนิทคนนึงครับ แล้วก็ชวนกันไปฟูลมูนปาร์ตี้กัน"
ส่วนหนุ่มที่รับบทเป็นเพื่อนซี้ บอม ก็กล่าวว่า "รับบทเป็นแจ็คครับ เป็นเพื่อนสมัยเด็กครับ เป็นเพื่อนซี้ตอนเด็กที่ใครๆ ก็รุมแกล้ง โดนว่าเป็นไอ้เห่ย ก็เลยเหมือนกับเป็นเพื่อนรักเพื่อนซี้กัน 2 คนครับ ที่มาที่ไปเริ่มจากการที่เพื่อน 2 คนกลับมาเจอกันแล้วก็นัดกันไปฟูลมูนปาร์ตี้ แล้วระหว่างทางเราก็จะเจอตัวใบเฟิร์น เจอตัวยูอิ เจอตัวคุณบ๊อบ แล้วจะมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมาให้เราช่วยกันแก้ไขครับ"
ด้านนางเอกสาว ใบเฟิร์น เผยถึงบทที่ได้รับว่า "ในเรื่องนี้รับเป็นไข่มุกค่ะ ไข่มุกก็จะเป็นลูกสาวของเจ้าของค่ายมวย ลูกสาวของน้าค่อม (ค่อม ชวนชื่น) เป็นค่ายมวยแทนที่จะลูกชายกลับมีลูกสาว ก็เลยเป็นเหตุให้เราอยากจะทำอะไรให้พ่อของเราภูมิใจ การที่เป็นผู้หญิงห้าวๆ หรือว่ามีความสามารถซ่อมรถหรือว่าทำอะไรได้ ก็คืออยากให้พ่อรู้ว่าเราดูแลตัวเองได้นะ"
ส่วน จอห์น บอกว่า "แสดงบทเป็นบ๊อบนะครับ บ๊อบจะเป็นคนที่บ้าๆ บอๆ ชอบสร้างปัญหาให้เพื่อนๆ ครับ" ฟากนักแสดงสาวจากแดนอาทิตย์อุทัยกล่าวว่า "สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่อยูอิ (ภาษาไทย) ในเรื่องก็จะรับบทชื่อยูอิ ชื่อเดียวกับตัวเองเลยค่ะ เป็นผู้หญิงญี่ปุ่นที่มาเที่ยวเมืองไทย เป็นผู้หญิงที่มีความมั่นในตัวเองแล้วก็เซ็กซี่ค่ะ"
ผู้กำกับเล่าถึงความยากง่ายในการถ่ายทำให้ฟังว่า "เราเป็นเลิฟซัมเมอร์ที่ถ่ายตอนหน้าฝน ก็จะเจอฝนตลอดระยะทางที่เราไปถ่ายทำ นักแสดงก็เปียกปอนกัน ต้องมีความอึด อย่างบอมโดนถ่ายตั้งแต่หกโมงเช้าจนถึงตีสองหลายๆ คืนติดๆ กัน" ด้านนักแสดงแต่ละคนก็พูดถึงฉากยากของตนเอง เริ่มที่ บอม บอกว่า "ฉากที่ยากที่สุดก็คือฉากที่ผมต้องไปเข้ากับสาวประเภทสอง คือผมเขินครับก็เลยเล่นยากครับ"
ธันวา เผยว่า "ผมคิดว่าเป็นฉากที่เป็นซีนอารมณ์ระหว่างแจ็คกับจอร์ชครับ เป็นฉากที่เราต้องมาทะเลาะกับเพื่อน ก็รู้สึกหนักใจ" ด้าน ใบเฟิร์น เล่าถึงฉากหินที่กลายเป็นฉากที่ประทับใจว่า "จะมีฉากนึงที่เป็นฉากประทับใจ คือคนเขียนบทเขียนมาดี เฟิร์นอยากจะถ่ายทอดออกมาให้ดี จะเป็นฉากที่เราอยู่ที่เกาะไข่ หาดทรายขาวมาก แล้วเฟิร์นจะต้องเล่านิทานเรื่องนึง เป็นนิทานที่เกี่ยวกับความรัก ซึ่งบทยาวมากค่ะ แต่ด้วยเรื่องอารมณ์ ด้วยเนื้อเรื่องกำลังสนุกก็อยากจะถ่ายทอดออกมาให้ดีไม่สะดุดเลย บทก็ห่วง อารมณ์ก็ห่วง"
สำหรับฉากยากของ จอห์น เป็นฉากที่ต้องร้องไห้ เพราะในชีวิตจริงเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ร้องไห้ "น่าจะเป็นฉากที่บ๊อบร้องไห้ครับ ก็นึกถึงตอนที่จะถ่ายหนังเสร็จแล้ว กลัวจะไม่ได้เจอเพื่อนอีก เลยน้ำตาไหลเลยครับ" ส่วน ยูอิ บอกถึงบทโหดที่ได้รับว่า "จะเป็นฉากที่ต้องนั่งเรือไปที่เกาะไข่ เป็นฉากที่ต้องพูดบทภาษาไทยยาวมาก รู้สึกว่ายากมาก ไม่เคยต้องพูดติดๆ กันยาวขนาดนี้" ดาราสาวจากญี่ปุ่นยังพูดถึงความแตกต่างระหว่างการทำงานที่ญี่ปุ่นกับไทยว่า "การถ่ายทำที่เมืองไทย ทุกคนก็จะยิ้มแย้มแจ่มใส ในกองก็ดูมีความสุข สามารถทำให้แสดงได้อย่างเต็มที่ แล้วก็รู้สึกมีความสุขกับการทำงานค่ะ แต่ที่ญี่ปุ่นการทำงานค่อนข้างจะเร่งรีบตลอดเวลา"
ใบเฟิร์น เล่าถึงบรรยากาศในการถ่ายทำให้ฟังว่า "จริงๆ แล้วช่วงเวลาการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะไม่ได้นานมาก แต่ว่าเป็นช่วงเวลาที่เราทุกคนผ่านความเหนื่อย ผ่านความสนุก ผ่านทุกอย่างมาด้วยกัน เป็นช่วงเวลาที่เรียกว่าเป็นความผูกพัน เป็นความอบอุ่นที่พวกเราได้อยู่ด้วยกัน"
ยูอิ เผยความประทับใจที่ได้ร่วมงานกับคนไทยว่า "รู้สึกประทับใจมากกับการมาร่วมงานกับทีมงานคนไทยแล้วก็นักแสดงทุกคน ทีมงานทุกคนที่คอยดูแลช่วยเหลือ ฉันเป็นคนต่างชาติก็จะมีอุปสรรคในเรื่องของภาษา ความไม่เข้าใจต่างๆ ก็ต้องขอบคุณแล้วก็ประทับใจทุกคนมากค่ะ" ด้าน จอห์น กล่าวว่า "การที่ได้ร่วมงานกับ เลิฟซัมเมอร์ ก็สนุกนะครับ อย่างที่น้องใบเฟิร์นบอกเมื่อกี้ อยู่ด้วยกันไม่นาน แต่พออยู่ด้วยกันก็สร้างมิตรภาพ สร้างความเป็นเพื่อนด้วยกัน เราก็หวังว่าคนที่มาดูก็จะเอาความรู้สึกนี้ไปด้วยครับ พอกลับไปที่บ้านแล้วอาจจะสนิทกับเพื่อนมากขึ้น"
ผู้กำกับบอกถึงสิ่งที่คนดูจะได้รับหลังจากชมภาพยนตร์ว่า "ได้รอยยิ้มครับ แล้วก็ได้ความรู้สึกดีๆ เกี่ยวกับเรื่องเพื่อน ความสัมพันธ์ของคน เราควรจะทะนุถนอมความรู้สึกของคนใกล้ตัวเราเอง" ใบเฟิร์น ช่วยเสริมว่า "อย่างแรกเลยเฟิร์นเชื่อว่าทุกคนต้องมีเพื่อน แต่เพื่อนที่คุณเรียกว่าเพื่อนได้จริงๆ มีแค่ไหนกัน จริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนให้มาก เหมือนตามคอนเซ็ปต์หนังเราเลยค่ะ หนังเรื่องนี้ก็จะสอนให้คนเห็นคุณค่าของคำว่าเพื่อน คุณค่าของมิตรภาพ ความรักหรือว่าเรื่องราวดีๆ ความผูกพันที่เกิดขึ้นมาระหว่างคำว่าเพื่อน แล้วก็การเดินทางที่เราเดินทางไปด้วยกัน แล้วเจออะไรหลายๆ อย่างด้วยกัน"
ใบเฟิร์น ฝากทิ้งท้ายถึงภาพยนตร์ว่า "เลิฟซัมเมอร์ รักตะลอนออนเดอะบีช 6 ตุลาคม นี้ทุกโรงภาพยนตร์ รับรองว่าทุกๆ คนจะได้สัมผัสมิตรภาพ ความรัก และที่สำคัญจะได้เห็นการท่องเที่ยวของประเทศไทยสวยๆ หลายๆ ที่ในเมืองไทยเรา ต้องบอกเลยว่าพวกเราไปถ่ายกันเองยังประทับใจเลย เพิ่งเคยเห็นว่ามีมุมสวยขนาดนี้ แล้วอีกอย่างออกมาจากช่างกล้องฝีมือดีของเรา ต้องยิ่งบอกว่าประทับใจมากๆ ค่ะ" และ ธันวา กล่าวว่า "ก็อยากจะฝากด้วยนะครับ เลิฟซัมเมอร์ รักตะลอน ออน เดอะ บีช 6 ตุลาคม นี้ครับ ไม่ว่าจะเป็นวัยไหนก็ดูได้หมดครับ เพราะว่าเป็นหนังฟีลกู๊ด พวกเราทั้งห้าจะสนุก จะมัน จะฮาแค่ไหนต้องไปดูในโรงภาพยนตร์ 6 ตุลาคม นี้ครับ"
หลังจากนั้นนักแสดงสาวจากญี่ปุ่น ยูอิ ยังได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงการมาแสดงภาพยนตร์ที่เมืองไทยอีกว่า
มาเมืองไทยกี่ครั้งแล้ว
"มาเป็นครั้งที่ 3 แล้วค่ะ ครั้งแรกมาเที่ยวเองส่วนตัว ส่วนอีก 2 ครั้งมาถ่ายภาพยนตร์ค่ะ"
ชอบอะไรมากที่สุด
"ชอบอาหารไทยแล้วก็นวดแผนไทยค่ะ"
ได้ไปเที่ยวที่ไหนในเมืองไทยแล้วหรือยัง
"มาครั้งนี้ได้อยู่แค่ในกรุงเทพฯ เพราะว่าตารางงานค่อนข้างจะแน่น แต่ก็ได้ไปชอปปิ้งที่เซ็นทรัลเวิลด์ ก็รู้สึกสนุกที่ได้เห็นของหลายสิ่งหลายอย่าง แล้วก็ไปนวดแผนไทยมาด้วยค่ะ"
ทำไมถึงตัดสินใจรับเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้
"ก่อนหน้านี้ โซระ อาโออิ (Sora Aoi) เคยมาเล่นหนังที่เมืองไทย โซระก็บอกว่าการมาเล่นหนังที่เมืองไทยได้ประสบการณ์ที่ดีมาก เห็นจากโซระแล้วก็รู้สึกว่าถ้าสักวันนึงมีโอกาสก็อยากมาแสดงหนังในเมืองไทย พอทางทีมงาน เอ็ม พิคเจอร์ส ติดต่อไปก็เลยตัดสินใจเล่นทันทีเลยค่ะ"
เคยดูภาพยนตร์ไทยมาก่อนบ้างไหม
"เคยดูเรื่อง องค์บาก ค่ะ ถ้าพูดถึงหนังไทยก็จะเป็นมวยไทย คิกบ็อกซิง พอได้ดูแล้วรู้สึกว่าคนไทยทำไมแสดงบทบู๊ได้เก่งขนาดนี้ ก็รู้สึกประทับใจ สงสัยว่าคนไทยอาจจะมีภาพพจน์บู๊เก่งหรือเปล่า มีความรู้สึกอย่างนี้หลังจากที่ดูหนังบู๊แล้ว"
ความรู้สึกที่ได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้
"การร่วมงานกับคนไทย ตอนแรกไม่เข้าใจในเรื่องของภาษา วัฒนธรรมไทย หรือการทำงานในกองถ่ายของไทยเลย แต่ก็ต้องขอขอบคุณทีมงานไทย ดาราทุกคนในหนังเรื่องนี้ที่คอยค่อยๆ บอกไม่ใช่แค่ในเรื่องของภาษา ในเรื่องการทำงาน จุดนั้นจุดนี้ที่มีข้อแนะนำ ทุกคนก็จะค่อยๆ บอก คอยสนับสนุน คอยดูแลว่าเป็นยังไงบ้าง คอยช่วยสอน รู้สึกประทับใจมาก ต้องฝากขอบคุณทุกคนด้วยค่ะ"
แสดงภาพยนตร์ไทยยากไหม
"ด้วยบทบาทไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อนยากมาก แต่ความยากจะอยู่ที่การใช้ภาษาไทยมากกว่าค่ะ"
ต้องฝึกภาษาไทยมากน้อยแค่ไหน
"พอได้รับบทมาแล้ว ในแต่ละวันที่จะเข้าฉากก็จะมาดู แล้วก็ท่องบทตอนนั้นก่อนที่จะเข้าฉาก ก็จะทำให้จำบทได้ไวขึ้น เพราะรู้สึกว่าเดี๋ยวจะต้องไปถ่ายแล้วนะ ต้องรีบจำให้ได้ค่ะ"
เทคนิคในการท่องบทภาษาไทย
"ก็จะมีน้องใบเฟิร์นหรือว่าทีมงานผู้หญิงคนอื่น จะพูดบท อ่านบทใส่เครื่องบันทึกเสียงให้ฟัง ก็จะฟังแล้วก็ออกเสียงตาม แล้วก็จำบทตามนั้นค่ะ แล้วก็จะมีล่ามคนนึงที่อยู่ในกอง ระหว่างที่ถ่ายทำก็จะคอยแปลบทภาษาไทยเป็นภาษาญี่ปุ่นให้ แล้วก็สอนออกเสียงด้วยว่าจะออกเสียงแบบไหน ใช้อารมณ์แบบไหน ก่อนที่จะเข้าฉากก็จะทำแบบนี้ค่ะ"
ยังจำบทที่พูดในภาพยนตร์ได้ไหม
"คิดดีแล้วเหรอที่ทำแบบนี้ (ภาษาไทย)"
ต้องพูดภาษาไทยเยอะไหม
"เยอะค่ะ เป็นบทภาษาไทยล้วนๆ เลย ต้องพูดตลอดเลยค่ะ ยากมากค่ะ"
คำไหนที่พูดยากที่สุด
"คำว่า เหมือน ค่ะ ตัวสะกดในภาษาไทยกับภาษาญี่ปุ่นจะไม่เหมือนกัน ในภาษาญี่ปุ่นเวลาออกเสียงจะมีพยางค์ลง แต่ในภาษาไทยจะมีตัวสะกดลงเป็นคำหนึ่งพยางค์ อย่างจะพูดคำว่า คิด ก็จะออกเป็น คิดโดะ ออกเสียงยากค่ะ"
ก่อนหน้านี้เคยเรียนภาษาไทยมาก่อนไหม
"ก็มีซื้อหนังสือฝึกพูดภาษาไทยมาอ่าน แต่ว่าในหนังสือจะไม่มีซีดีตัวอย่างสอนพูดให้ฟัง ก็ลองอ่าน ฝึกออกเสียงตามในหนังสือ แต่พอมาเล่นหนังจริงๆ ก็ลองให้ล่ามพูดบทที่เป็นภาษาไทยในสำเนียงของคนไทย พอได้ยินก็ เอ๊ะ ทำไมไม่เหมือนกันเลย ทำยังไงดี ที่เรียนมาเหมือนไม่มีประโยชน์ อุตสาห์ฝึกมาค่ะ"
มีภาษาไทยคำไหนที่พูดได้บ้าง
"รู้จักคำว่า ขอบคุณค่ะ"
ระยะเวลาในการถ่ายทำ
"ในส่วนของตัวเองที่จะต้องเข้าฉาก มีไปถ่ายทำที่ภูเก็ตก็ใช้เวลาอาทิตย์กว่าๆ ค่ะ"
สถานที่ท่องเที่ยวที่ภูเก็ตเป็นยังไงบ้าง
"เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ภูเก็ตแล้วก็ไปถ่ายทำหนังด้วยนะคะ โรงแรมที่พักก็จะอยู่ใกล้กับทะเล ก็ได้ไปเดินเล่น ทะเลบริเวณใกล้ๆ โรงแรมก็ว่าสวยแล้ว แต่ว่าฉากโลเกชันที่ไปถ่ายที่เกาะไข่ น้ำทะเลสวยมาก ระหว่างทางที่นั่งเรือก็จะเห็นปลาตัวเล็กๆ โดดไปโดดมา รู้สึกประทับใจมาก ทะเลไทยสวยมากเลยค่ะ"
ถ้ามีโอกาสอยากกลับมาแสดงภาพยนตร์ไทยอีกไหม
"ในหนังเรื่องนี้มีโอกาสได้พูดภาษาไทยเยอะ ใช้ภาษาไทยเยอะ ก็เริ่มชินกับการออกเสียงกับการฟังภาษาไทย ถ้าเกิดมีโอกาสมีหนังเรื่องไหนติดต่อเข้ามา ก็คิดว่าในครั้งหน้าน่าจะพูดภาษาไทยได้ดีขึ้น แล้วก็น่าจะแสดงให้ดีขึ้น น่าจะพูดได้ไม่มีปัญหา คือครั้งแรกจะติดปัญหานิดนึง แต่ว่าตอนนี้เริ่มชินกับภาษาไทยแล้วค่ะ"
อยากแสดงบทอะไร
"ถ้ามีโอกาสและเป็นไปได้ก็อยากจะแสดงบทบู๊ เพราะว่าหนังบู๊ของไทยเป็นหนังบู๊ที่มีชื่อเสียง"
บทบาทที่ได้รับเหมือนหรือแตกต่างกับตัวเองยังไง
"ไม่เหมือนค่ะ ถึงในเรื่องจะพูดบทไทยก็จริง แต่ว่าจะเล่นเป็นคนญี่ปุ่นที่มาเที่ยวเมืองไทย ในบทหนังกับยูอิตัวจริง ยูอิในหนังแบ็กกราวนด์เรื่องครอบครัวจะโตขึ้นมาแบบโดดเดี่ยว เหงา ไม่มีเพื่อน ในขณะที่ตัวเองโตขึ้นมาก็มีพ่อแม่ มีเพื่อนฝูงอยู่ล้อมรอบตัวครบเลย ชีวิตไม่ได้เงียบเหงาหรือโดดเดี่ยวเหมือนในหนังค่ะ ก็มีความสุขเหมือนคนทั่วๆ ไป แล้วอีกจุดนึงก็คือยูอิในหนังจะเป็นคนที่มีความมั่นใจสูงมาก มั่นใจว่าตัวเองเซ็กซี่นะ แต่คิดว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนเซ็กซี่ ไม่ได้มั่นใจขนาดนั้นค่ะ"
นิสัยส่วนตัวเองเป็นยังไง
"จะเป็นคนร่าเริง แจ่มใส มองในแง่ดี แล้วก็ชอบที่จะรู้จักพบปะกับผู้คน เพื่อนใหม่ๆ เวลาออกไปไหนก็สามารถที่จะมีเพื่อนใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา เป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีค่ะ"
มีแฟนแล้วหรือยัง
"ไม่มี ทำไมก็ไม่รู้"
ชอบผู้ชายแบบไหน
"ผู้ชายที่แข็งแรง ล่ำๆ มีกล้ามเนื้อ แมนๆ ที่ชอบผู้ชายแข็งแรงมีกล้าม เพราะว่าตัวเองก็เป็นคนที่ค่อนข้างจะตัวใหญ่นิดนึง อยากได้คนที่สามารถมาปกป้องตัวเองได้ ขอผู้ชายที่ตัวใหญ่กว่าตัวเองหน่อย จะได้ดูแลฉันได้ค่ะ"
2 หนุ่ม บอม กับ ธันวา ที่ได้ร่วมงานด้วยเป็นยังไงบ้าง
"อย่างธันวาเวลาถ่ายหนังด้วยกัน ก็จะมีรอยยิ้มส่งมาให้ประจำ พอได้รับรอยยิ้มแล้วก็จะมีกำลังใจ ส่วนบอมเวลาสังเกตเห็นบอมทำนู่นทำนี่ ทำอะไรก็น่ารักไปหมดเลย บอมหน้าตาน่ารัก ตัวสูงแต่ผอม แต่สำหรับตัวเองขอเป็นผู้ชายที่มีกล้ามตัวใหญ่ๆ หน่อย"
ระหว่างผู้ชายไทยกับผู้ชายญี่ปุ่นใครหล่อกว่ากัน
"ผู้ชายไทยจะเป็นหนุ่มหน้าเข้มๆ ตาโต ส่วนตัวแล้วก็ชอบผู้ชายหน้าตาแบบนี้ค่ะ"
เวลาว่างจะทำอะไร
"ก็จะไปเดินชอปปิ้งซื้อของ เป็นคนที่ชอบทำอาหาร มีเวลาว่างก็จะพักผ่อนโดยการดูภาพยนตร์ ดูดีวีดีค่ะ"
ฝากผลงาน
"ก็ขอฝากภาพยนตร์เรื่อง เลิฟซัมเมอร์ ไว้กับทุกคนด้วยนะคะ หนังอาจจะดูเป็นหนังวัยรุ่น แต่อยากให้ผู้ชมมีหลากหลายตั้งแต่วัยรุ่นไปถึงวัยผู้ใหญ่ วัยผู้ใหญ่ถ้ามาดูหนังเรื่องนี้ก็ทำให้ย้อนไปถึงสมัยที่ตัวเองยังเป็นวัยรุ่นสมัยที่เด็กอยู่ จะทำให้มีความสุขกับการดูหนังเรื่องนี้ค่ะ หนังเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องแรกที่แสดงในเมืองไทย ก็อาจจะมีแฟนกลุ่มนึงที่รู้จักฉันอยู่แล้วในเมืองไทย ก็อยากแฟนกลุ่มนี้ให้การสนับสนุน แล้วก็อยากให้ทุกคนรู้จักฉันมากขึ้นในความเป็นตัวของตัวเอง ในหนังเรื่องนี้จะได้เห็นมุมในหลายๆ มุมที่เป็นตัวฉันเองทั้งหมด จะทำให้ได้รู้จักกันมากขึ้น ยังไงก็ขอฝากหนังเรื่องนี้ไว้กับทุกคนด้วยค่ะ"
ติดตามเรื่องราวความรักและมิตรภาพระหว่างความเป็นเพื่อนไปพร้อมๆ กับการเดินทางของ 3 หนุ่ม และ 2 สาว ได้ใน เลิฟซัมเมอร์ รักตะลอนออนเดอะบีช เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ วันที่ 6 ตุลาคม นี้
