1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

รู้จักกับ แอ ภุมวารี กับบทของ หมวยเล็ก ในเรื่อง องค์บาก

รู้จักกับ แอ ภุมวารี กับบทของ หมวยเล็ก ในเรื่อง องค์บาก

เริ่มคุ้นหน้าคุ้นตาแฟนภาพยนตร์ชาวไทยกันบ้างแล้วกับ แอ – ภุมวารี ยอดกมล หรือ หมวยเล็ก ในเรื่อง องค์บาก สำหรับใครที่อยากรู้จักสาวคนนี้มากขึ้น ไม่ควรพลาดข่าวนี้แน่นอน

ประวัติส่วนตัว แอ เกิดวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2525 ขณะนี้เรียนอยู่ที่ ม.รังสิต คณะศิลปกรรม สาขาออกแบบผลิตภัณฑ์ ปี 3 ผลงานที่ผ่านมา อาทิ มิวสิกวิดีโอของ ญารินดา มิวสิกวิดีโอของ ลิฟท์ ออย และ มิวสิกวิดีโอของ เดอะ ซิส โดย แอ ได้ให้สัมภาษณ์ในฐานะที่เป็นนางเอกเรื่อง องค์บาก ดังนี้

การเริ่มต้นกับภาพยนตร์ไทยเรื่อง องค์บาก

"เข้าไปคุยกับพี่ปรัช เขาบอกว่าเห็นคาแรกเตอร์ของเราจากละครเรื่อง พี่เลี้ยงกึ่งสำเร็จรูป ใกล้เคียงกัน จะเป็นเด็กห้าวๆ หัวแข็ง ไม่ยอมใคร ซึ่งเหมือนตัว หมวยเล็ก ในองค์บาก เขาก็รู้จักกับพี่ผู้กำกับละครพี่เลี้ยงฯ ชื่อพี่บ๊วย พิเชษฐ์ ทีมงานเห็นว่าเราน่าเล่นได้ ก็เรียกมาคุยว่าสนใจไหม แล้วก็ให้ดูวิดีโอของพระเอกที่เขาเคยซ้อม เคยถ่ายมาก่อน แอเห็นว่าน่าสนใจ เห็นฝีมือเขาตอนแรกเห็นหน้าก็นี่พระเอกเหรอ แต่พอเห็นฝีมือแล้ว แอก็ภูมิใจที่ได้เล่นกับเขา เขาเป็นพระเอกคนแรกของแอ แอก็เป็นนางเอกคนแรกของเขา เป็นหนังที่สร้างชื่อเสียงของเขา ทำให้แอรู้สึกภูมิใจมากกว่าที่ได้เล่นกับพระเอกหล่อๆ อีก เพราะเขามีฝีมือ เก่งจริง มีความตั้งใจ มีความมุ่งมั่น"

ฉากที่คิดว่ายากสำหรับการถ่ายทำเรื่องนี้

"โดยส่วนตัวขี่มอเตอร์ไซด์ไม่เป็น พอตอนที่คุยกับพี่ปรัช เขาว่าจะให้ขี่มอเตอร์ไซด์ก็เลยกลัวไปเลย ที่บ้านเขาก็ไม่อยากให้แอขี่มอเตอร์ไซด์เพราะอันตราย เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย จริงๆ แอก็อยากขี่มอเตอร์ไซด์มานานแล้ว ถ้าเกิดมีคนสอนให้ก็ดี เราจะได้รู้บ้างนิดๆ หน่อยๆ เรื่องนี้จะขี่มอเตอร์ไซด์เกือบทั้งเรื่องเป็นมอเตอร์ไซด์ประจำตัว ให้พี่เงาะที่เป็นสตั้นท์ฝึกให้ ฝึกได้ประมาณ 2-3 วัน วันละ 2-3 ช.ม. ตอนแรกฝึกมอเตอร์ไซด์คันเล็กที่ผู้หญิงขี่ ฝึกประมาณ 3 ช.ม. จนเป็น พอมาเห็นตัวจริง ฝึกอีกหลายวัน เพราะมอเตอร์ไซด์ของจริงหนักมากเป็นมอเตอร์ไซด์วิบาก คันใหญ่แต่มีโช๊คขาแอเลยถึง เขานำเข้ามาจากญี่ปุ่น มีขี่แข่งกันแต่อันนั้นไม่ได้ขี่เอง ใช้สตั้นท์ช่วย ก็มีบ้างที่ต้องขี่เอง อย่างขี่รับ-ส่งพี่จาซ้อน แล้วหมวกกันน็อคเป็นแบบเปิดหน้า"

หมวยเล็ก มีส่วนคล้ายกับ แอ บ้างไหม

"คาแรกเตอร์ที่คล้ายตัวจริง คือ หมวยเล็กเป็นคนที่รักครอบครัว รักการเรียนตรงนี้ตรงกับแอ เพราะแอเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับครอบครัวแอมาก แล้วแอก็ไม่ทิ้งการเรียน การจัดคิวแอจะไม่ให้ชนกับการเรียน เรื่องนี้ถ่ายทำประมาณ 8 เดือน จะถ่ายทำวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แอก็คุยกับอาจารย์ แต่ที่ต่างกันคือ หมวยเล็กเล่นการพนัน แต่แอไม่เล่น แอเล่นเป็น แต่ให้เล่นไม่เล่น ตัวหมวยเล็กจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจะเกลียดมาก ทำให้ทะเลาะกับพี่สาวบ่อย"

การร่วมงานกับนักแสดงชื่อดังอย่าง หม่ำ จ๊กมก

"แอยังใหม่มาก พอมาเจอกับพี่หม่ำตั้งตัวไม่ทัน ชอบน้าหม่ำเพราะเขาตลกดี มีหลุดแต่ฉากที่หลุดไม่เป็นไรคุยเล่นสนุกสนานนอกบทได้ กับพี่จาเขาใจดีเป็นคนสนุก โชคดีที่เขาเป็นคนที่ไม่หงุดหงิดขี้โมโห ไม่งั้นเขาจะเตะแอเอา ในกองก็สนิทเหมือนๆ กันกับพี่โอ๋ก็มีๆ ไปดูหนัง เดินเที่ยวด้วยกัน เพราะเล่นเป็นพี่น้องกันแล้วเรื่องนี้ผู้หญิงน้อย มีแอ พี่โอ๋ หญิง แต่เราจะเจอเขาท้ายเรื่องเลย"

กับผู้กำกับภาพยนตร์

"พี่ปรัชใจดี จริงๆ การทำงานจะสนุกหรือไม่สนุกอยู่ที่ทีมงาน ถ้าทีมงานใจดี สนุก ไม่เครียด ก็น่าทำ มีอยู่ฉากหนึ่งเป็นฉากมวยเถื่อนที่นั่นร้อนมาก เพราะเขาเซตฉากขึ้นมา พี่ปรัชเขาก็มีเต็นท์สีฟ้าที่ข้างในเปิดแอร์ได้ แอก็เข้าไปนอนอยู่ในนั้นตลอด"

ความแตกต่างระหว่างงานหนังและงานละคร

"งานละครกับงานหนังความแตกต่างกันจริง ก็มีส่วนที่ทีมงานด้วย แอเคยฟังเขาคุยกัน การถ่ายหนังเขาจะถ่ายกล้องเดียว อารมณ์ต้องต่อเนื่อง แต่แอว่าไม่เป็นไร เพราะถึงเวลาเปลี่ยนมุมกล้อง เขาก็จะคอยบอกว่าอันนี้ต่อจากตรงไหน เราต้องเริ่มจากตรงไหน เขาจะคอยจัดให้อยู่แล้ว หนังจะคัทสั้น ยิ่งหนังแอ็คชั่นจะใช้หลายมุมกล้องเลือกเยอะมากๆ ขนาดบทบู๊ เขาเอามา 2-3 กล้องก็ยังคัทเลย ก็เหนื่อยตรงนี้เหมือนกัน บางทีเราเล่นจนเหนื่อยแล้ว ไม่มีแรงโดดแล้ว งานทุกชิ้นแอทำได้หมด คือแอไม่เกี่ยงงาน แต่ละงานมันมีข้อดีข้อเสียแต่ละอย่าง สมมติว่าทำงานแล้วสบายใจแอก็โอเค บทที่แอเล่น ไม่เคยเล่นบทเรียบร้อย มีแต่ทอมๆ ห้าวๆ แก่นๆ ซนๆ ในหนังแอไม่ค่อยมีบู๊ แอจะเป็นวิ่งหนี แล้วโดนตบบ้างมีหลุดคิวบ้าง กับพี่บ๊วยจะสาธิตให้ดูว่าเขาตบสตั้นท์แล้ว สตั้นท์จะหันยังไง หันหน้าหันตัว ล้มท่าไหน แอไปยืนข้างหลัง โดนแอเต็มๆ เจ็บจมูก ซีนอารมณ์ก็หนักใจเหมือนกัน กลัวร้องไห้ไม่ได้ เพราะปกติแอเป็นคนร้องไห้ยาก เขามีน้ำตาปลอมให้พอเอาจริงแอว่าแอร้องเอง บทที่ถนัดเล่นง่ายคงเป็นบทที่นอกบท"

กับการแสดงที่เล่นมาแล้ว พอใจมากน้อยเพียงใด

"น่าสนใจ เจ๋งดี ไม่ได้บู๊พละกำลังโอเวอร์เกินไป เรื่องนี้นอกจากได้ความมันกับคิวบู๊แล้ว มันก็ได้เกี่ยวกับเรื่องศิลปวัฒนธรรมไทย เรื่องมวยไทย ทีมงานเตรียมงานมานานหลายปี เรื่องศิลปมวยไทยแท้ๆ ถ้าเขาเปิดโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้มวยไทย แอก็สนใจเพราะมันได้ที่ร่างกายเราด้วย"

ฉากที่ประทับใจ

"ฉากที่พี่จาบวช แอไม่เคยไปงานบวชอย่างนั้นจริงๆ ไม่เคยเห็นบรรยากาศต่างจังหวัดว่าเป็นไง เคยเห็นแต่ผ่านหน้าบ้านเป็นขบวนใหญ่ แต่ไม่เคยเห็นที่เรียบง่ายแบบนี้ แอเป็นคนถือพานดอกไม้ ที่หลายเทคเล่นยาก ก็คงเป็นซีนขี่มอเตอร์ไซด์ไปรับพี่จา เรื่องนี้แอไม่มีเลิฟซีนกุ๊กกิ๊กเลย จะมีก็กับน้าหม่ำกินผัดไทกัน พระเอกเขาจะตามหาองค์บากอย่างเดียว"

สิ่งที่วาดหวังไว้ในอนาคต

"แอดูหนังหลายเรื่อง ส่วนมากถ้าแอจะเลือกแอจะดูเนื้อเรื่องและความน่าสนใจมากกว่า ดูได้ทุกแนว ผู้กำกับที่ชอบที่อยากร่วมงานด้วยคงเป็น อ๊อกไซด์ แปง เพราะหนังของเขาเนื้อเรื่องค่อนข้างแปลก แต่ว่าน่าสนใจมีมุมมองต่างจากผู้กำกับคนอื่นๆ พอตอนเริ่มอย่างโรแมนติกก็ธรรมดา แต่ความธรรมดาของเขามีอย่างอื่น ชอบการนำเสนอของเขา"

ฝากถึงภาพยนตร์ไทยเรื่อง องค์บาก สักหน่อย

"หนังเรื่องนี้เป็นของทุกคน ทุกคนตั้งใจทำงานใครก็คาดหวังที่จะให้ได้ออกสู่สายตาคน และประสบความสำเร็จทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถึงแม้ว่าจะเป็นศิลปมวยไทยเป็นของไทย คนไทยเองก็ลืม ขนาดคนไทยยังไม่เคยเห็นยังว่าใหม่ คนต่างประเทศก็ยิ่งให้ความสนใจ ด้วยความสามารถของพี่จาจริงๆ ไม่ใช่สตั้นท์ ไม่ใช้สลิง คอมพิวเตอร์ไม่มีอะไรช่วย อยากบอกว่าเรื่องนี้มีความพิถีพิถันมากการเตรียมงานหลายปีมาก พระเอกเตรียมตัวเป็นสิบปี ข้อมูลของหนังเรื่องนี้เป็นความจริงมาก ตัวแอจากไม่เคยสนใจเรื่องผาดโผน การต่อสู้ ตอนนี้แอชอบบทบู๊อยากเก่งแบบนี้บ้าง ถึงเป็นผู้หญิงก็อยากเป็นแบบนั้นบ้าง"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ในอดีต

  • รักแห่งสยาม
    เข้าฉายปี 2007
    แสดง มาริโอ้ เมาเร่อ, วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล, กัญญา รัตนเพชร์
  • Harry Potter and the Chamber of Secrets
    เข้าฉายปี 2002
    แสดง Daniel Radcliffe , Emma Watson , Rupert Grint
  • ตีสาม 3D
    เข้าฉายปี 2012
    แสดง กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า, โทนี่ รากแก่น, ชาคริต แย้มนาม

เกร็ดภาพยนตร์

  • The Hobbit: The Battle of Five Armies - นักแสดงหลายคนเก็บอุปกรณ์การแสดงกลับบ้านไปด้วยหลังจากถ่ายทำเสร็จ อาทิ มาร์ติน ฟรีแมน ผู้สวมบท บิลโบ เก็บดาบและหูปลอมของตัวเองกลับไป ริชาร์ด อาร์มิเทจ ผู้รับบท ธอริน นำดาบออร์คริสต์กลับ ส่วน ลี เพซ ผู้รับบท ธรันดูอิล นำดาบเอล์ฟไป อ่านต่อ»
  • Stonehearst Asylum - สร้างจากเรื่องสั้นเมื่อปี 1844 เรื่อง The System of Doctor Tarr and Professor Fether เขียนโดย เอดการ์ แอลลัน โพ อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

เรื่องราวของ เบลลีย์ (จอช แกด) ที่กำลังใช้ชีวิตแสนสุขอยู่ในฟาร์มในมิชิแกนของ อีธาน (เดนนิส เควด) เด็กน้อย ของเขา และฮัน...อ่านต่อ»