1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

บทสัมภาษณ์ พนม ยีรัมย์ พระเอกจากภาพยนตร์ องค์บาก

บทสัมภาษณ์ พนม ยีรัมย์ พระเอกจากภาพยนตร์ องค์บาก

องค์บาก ภาพยนตร์ไทยที่มุ่งเน้นถ่ายทอดศิลปะการต่อสู้แบบไหยๆ อุดมไปด้วยแอ๊คชั่นที่ไม่ใช่สลิง ไม่ใช้ตัวแสดงแทนและไม่มีคอมพิวเตอร์ และจากนี้ไป คือ บทสัมภาษณ์ จา - พนม ยีรัมย์ พระเอกนักบู๊จากเรื่องนี้

เป็นมาอย่างไรถึงได้มาอยู่ ณ จุดนี้ได้

"ก่อนมาทำตรงนี้ ก็ขยับมาจากสตั้นเหมือนกัน และบวกกับเป็นคนชอบดูหนัง จึงอยากจะเก่งแบบในหนังบ้าง และตัวเองชอบพวกเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ เช่นหนังเฉินหลงนะครับ และก็มีหนังไทยอีกเรื่องหนึ่งก็คือ เกิดมาลุย ของพี่พันนา ก็เลยอยากทำให้ได้เหมือนเขา ก็เลยตั้งใจมาอยู่กับพี่เขา"

ในเรื่องรับบทเป็นใคร แล้วทำไมถึงต้องไปผจญภัยมากมายด้วย

"ในเรื่องก็เป็น บุญทิ้ง เด็กหนุ่มกำพร้า อาศัยวัดอยู่กับพระครู โดยท่านได้ฝึกสอนมวยไทยสมัยโบราณให้และก็ อาสาสมัครที่จะไปตามเอานำของสำคัญ ที่ถูกโจรไปกลับมาให้ทันกำหนดก่อนถึงวันบวช พอมาถึงในเมืองก็มาเจอกับลูกผู้ใหญ่บ้านที่เรียนอยู่ที่กรุงเทพฯ คือพี่หม่ำ และผมก็โดนพี่หม่ำหลอกสารพัด เล่นการพนัน และสุดท้ายผมก็โดนพี่หม่ำหลอกให้ชกมวย โดยอ้างว่าเพื่อที่จะได้องค์บากกลับไปที่หมู่บ้าน จนในที่สุดพี่หม่ำก็ช่วยไปตามเอาองค์บากที่ถ้ำพระผุด ก็เกิดการต่อสู้ขึ้นในถ้ำ ผมบอกมากไปไหมเนี่ย"

ถ้าอย่างงั้นในเรื่องนี้ ก็ไม่ใช่เพื่อนกันสิ

"ไม่ใช่ครับ เป็นเพียงรุ่นพี่ที่คอยให้ความช่วยเหลือผมมาโดยตลอดนะครับ ก็สนุกดีนะครับ เพราะพี่หม่ำเขาเป็นคนอารมณ์ดี เขาจะมีมุขมาให้ขำตลอดทุกวันนะครับ"

พูดถึงนางเอกของเรื่องให้ฟังได้ไหม

"เป็นนักแสดงที่เก่งคนหนึ่งเลย กับเพราะผมยังใหม่อยู่ด้วยมั้งครับ จึงทำให้ผมไม่ค่อยได้คุยอะไรกับน้องเขาเพราะเข้าฉากด้วยกันโดยประมาณ 4-5 ฉากเอง ก็มีฉากเจอกันที่บ้าน ฉากตลาด ฉากปั้มน้ำมันและสุดท้ายที่เป็น...บอกหมดไม่ได้"

กับทีมงานสนิทกับใครเป็นพิเศษ

"ก็สนิทเท่าๆ กันหมดสนิทกับทีมสตั้นมากที่สุดก็ว่าได้ เพราะผมเกิดมาจากตรงนั้น ทั้งซ้อมทั้งกินและอยู่กับพวกพี่ๆ เขา"

สนิทกับผู้กำกับไหม

"สนิท แต่พี่เขาไม่ค่อยพูดกับผม ผมก็ไม่ค่อยพูด ขนาดเดินจะชนกันในบริษัทยังไม่พูดกันเลย"

การที่เคยเป็น สตั้นแมน มาก่อน แล้วต้องมาเล่นเป็น นักแสดง ที่ไม่ต้องแทนใคร มีความรู้สึกว่ายากไหม

"ก็ยากพอสมควร อย่างที่ผมบอกผมไม่เก่งแสดง แต่ผมเก่งที่จะเป็นตัวแทนได้ แต่อาศัยด้วยความที่เราชอบเป็นส่วนสำคัญ เราอยากนำเสนอตรงนั้นออกไปด้วย ที่ชอบการแสดงหนังบู๊และแอ๊คชั่น เหมือนเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามีฐานที่มั่นคงขึ้น ส่วนหนึ่งก็คือ ชอบและรักในสิ่งที่ทำ"

ชอบฉากไหนมากที่สุด

"คงจะเป็นฉากตลาดที่ถือว่าสุดชอบของตัวเองแล้วครับ เพราะในฉากนี้อุดมไปด้วยซีนที่สุดหินทั้งนั้น แล้วก็มีฉากหนึ่งที่ต้องกระโดดข้ามรถเก๋ง ขณะที่รถกำลังวิ่ง และก็ต้องตีลังกา ปกติท่านี้มันง่ายอยู่แล้ว แต่มันยากตอนที่ถ่ายทำตอนเคลื่อนไหว ก็ถ่ายประมาณ 3 - 4 เทค และก็มีฉากฉีกขารอดใต้ท้องรถ ในขณะที่รถเขาถอยหลังออกมา และผมก็วิ่งออกมาพอดี ก็เลยต้องฉีกขารอดเข้าไปใต้ท้องรถทันที อันนี้ใช้ความสามารถเฉพาะตัว ต้องฉีกขาประมาณ 180 องศา นอนราบกับพื้นพร้อมรอดใต้ท้องรถ"

ฉากไหนเทคบ่อยที่สุด

"ฉากไล่ล่าในตลาดกับการวิ่ง ตีลังกา กระโดดข้ามสิ่งกัดข้ามประมาณ 20 เทคได้มั้ง"

คาดหวังกับภาพยนตร์เรื่องแรกไว้อย่างไรบ้าง

"ก็พอสมควรครับ แต่ที่อยากจะให้ดู เพราะมีศิลปะการป้องกันตัวที่เป็นศิลปะของไทย อยากจะให้น้องๆ หรือคนที่ดูหนังเรื่องนี้แล้วหันกลับมาฉุกคิดว่ายังมีศิลปะป้องกันตัวของไทย ที่ยังต้องห่วงแหนและคงต้องรักษาไว้สืบต่อไปอยู่มาก"

ท้ายสุดนี้อยากจะฝากอะไรกับหนังเรื่องแรกบ้าง

"ก็ทุกๆ อย่างคือ สิ่งที่พวกเราบรรจงทำ ตั้งใจทุกฉากและทุกกระบวนการ การทำอะไรทำให้สุดๆ และดีสุด คืองานที่เราอยากจะผลิตให้สื่อทุกสื่อและคนดูหนังไทย ที่ยังไม่ได้ดูหนังไทยแอ๊คชั่นที่ขาดหายจากตลาดเมืองไทยมาแสนนาน"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • The Last Five Years - ใช้เวลา 21 วันในการถ่ายทำ และถ่ายทำฉากเพลง Goodbye Until Tomorrow ในวันสุดท้าย อ่านต่อ»
  • Mad Max: Fury Road - ฉากเทคนิคพิเศษประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ช่วย แต่เป็นของจริงโดยใช้นักแสดงแทน ฉาก และการแต่งหน้าช่วย ส่วนที่ใช้คอมพิวเตอร์ก็ใช้เพียงลบเชือก ตกแต่งพื้นที่ทะเลทรายนามิบ และสร้างแขนปลอมข้างซ้ายของ ชาร์ลีซ เธอรอน ผู้รับบท ฟิวริโอซา เท่านั้น อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

บทสรุปของตำนานอันน่าตื่นเต้นของตระกูลสกายวอร์คเกอร์ เมื่อตำนานใหม่จะถือกำเนิดและการต่อสู้ครั้งสุดท้ายเพื่ออิสรภาพกำลังจ...อ่านต่อ»