จา ไม่ได้หนีทหาร ยืนยันผ่านการรับใช้ราชการมา 4 ปีแล้ว
สำหรับกรณีที่มีการรายงานว่า จา - พนม ยีรัมย์ พระเอกภาพยนตร์ไทยเรื่อง องค์บาก หนีทหาร บัดนี้ได้การแถลงข่าวออกมาเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า จา ไม่ได้หนีทหารแต่อย่างใด และได้ผ่านการเข้ารับใช้ราชการในฐานะพลทหารเป็นที่เรียบร้อยแล้วในปี 2542 สาเหตุของความเข้าใจผิดในครั้งนี้คาดว่ามาจากการที่มีการเปลี่ยนชื่อจากวรวิทย์ ยีรัมย์ มาเป็น พนม ยีรัมย์ จึงทำให้เกิดความสับสนขึ้น
"คือก่อนหน้านี้ชื่อเดิมของผม คือ นายวรวิทย์ ยีรัมย์ แล้วในปี พ.ศ. 2540 ได้รับหมายเรียกให้เข้าเกณฑ์ทหารแต่ได้ทำการผ่อนผันไปก่อน เนื่องจากยังอยู่ในระหว่างการศึกษา ซึ่งในขณะนั้นเรียนอยู่ที่วิทยาลัยพลศึกษามหาสารคาม
ต่อมาในวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 ก็ไปยื่นเรื่องขอเปลี่ยนชื่อเป็น พนม ยีรัมย์ เพราะพ่อฝันว่ามีคนแก่ในชุดขาวมาทักว่าถ้าเราเปลี่ยนชื่อเป็น พนม ยีรัมย์ จะดีกว่า ก็เลยไปยื่นเรื่องเปลี่ยนชื่อจนปี 42 ก็ได้เข้ารับราชการทหารกองเกินเข้าประจำสังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดสุรินทร์รับราชการทหารอยู่ประมาณ 1 ปี
กรณีสับสนว่าผมหนีทหาร อาจเป็นเพราะเรื่องชื่อในเอกสารซึ่งในบัตรประจำตัวข้าราชการทหารของผมเป็นชื่อ พนม ยีรัมย์ แต่ในเอกสารสด.8 ยังเป็นชื่อ วรวิทย์ ยีรัมย์ จึงอาจทำให้เกิดการเข้าใจผิดในส่วนตรงนี้ก็เป็นได้"
พระเอกหนุ่มองค์บากยอมรับว่าเป็นเพราะตัวเองไม่ละเอียดพอทำให้เกิดกรณีดังกล่าวขึ้น แต่ตอนนี้เรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้วและรู้สีกโล่งใจที่ได้อธิบายทุกคนว่าตนเองบริสุทธิ์ใจและไม่ได้หนีทหาร โดยได้แสดงเอกสารสำคัญที่ยืนยันในการเข้ารับราชการทหารต่างๆ อาทิ สด.8 ซึ่งเป็นหนังสือประจำตัวสำหรับผู้ที่ได้รับการปลดประจำการหลังจากที่ผ่านการรับราชการทหารแล้ว สด.43 ใบเอกสารยืนยันในการรับรองผล การตรวจเลือกทหารกองเกินให้เข้ารับราชการทหารประจำการ ณ ปีพ.ศ.2542 ที่ตนเข้ารับราชการทหาร ใบเอกสารยืนยันการเปลี่ยนชื่อจากนายวรวิทย์มาเป็น พนม ยีรัมย์
ล่าสุด พนม ยีรัมย์ กำลังอยู่ในช่วงเตรียมตัวประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์องค์บากในต่างประเทศ โดยเฉพาะเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ซึ่งปีนี้จะมีการจัดไทยไนท์อย่างยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะเตรียมตัวเริ่มงานในโครงการ ต้มยำกุ้ง ที่เป็นการร่วมงานกันอีกครั้งกับ ปรัชญา ปิ่นแก้ว ในช่วงมิถุนายนปีนี้