1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

The Kick ภาพยนตร์บู๊ครั้งยิ่งใหญ่ผสมผสานไทยและเกาหลี

The Kick ภาพยนตร์บู๊ครั้งยิ่งใหญ่ผสมผสานไทยและเกาหลี

สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล กลับมาสร้างความฮือฮากับภาพยนตร์แนวบู๊อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ยิ่งใหญ่กว่าเดิมด้วยการจับมือกับบริษัท ซีเจ เวนเจอร์ อินเวสต์เมนต์ ของประเทศเกาหลี ร่วมด้วย บางกอกฟิล์ม สตูดิโอ สร้างภาพยนตร์เรื่อง "เดอะ คิก" (The Kick) ภาพยนตร์ที่นำเอาเทควันโดมาเป็นตัวหลักในถ่ายทอดศิลปะการต่อสู้ และได้นักแสดงสาวจอมบู๊ "จีจ้า - ญาณิน วิสมิตะนันทน์" และนักแสดงตลก "เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา" หรือ "หม่ำ จ๊กมก" มาร่วมรับบทนำ ซึ่งก็ได้มีการแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์อย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2553 ณ ห้องเทวกรรมรังรักษ์ สโมสรทหารบก

ทั้งนี้ผู้สร้างและเหล่านักแสดงทั้งไทยและเกาหลี ก็ได้มาร่วมแถลงเกี่ยวกับภาพยนตร์ เริ่มจากฝั่งผู้สร้างได้แก่ "เสี่ยเจียง - สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ" แห่ง สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล "อีจองซอก" (Lee Jeong Suk) ตัวแทนจาก ซีเจ เวนเจอร์ อินเวสต์เมนต์ "สง่า ฉัตรชัยรุ่งเรือง" ผู้บริหาร บางกอกฟิล์ม สตูดิโอ รวมไปถึง "คังซองกิว" (Kang Seong Gyu) โปรดิวเซอร์ และ "ปรัชญา ปิ่นแก้ว" ผู้รับหน้าที่กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้

เสี่ยเจียง ได้พูดถึงที่มาที่ไปของการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งคาดว่าจะใช้ทุนสร้างประมาณหนึ่งร้อยล้านบาทว่า "ผมอยากจะทำหนังร่วมกับชาติอื่นมานานแล้ว ผมเลยติดต่อคุณสง่า ลองคุยกันดูว่าจะทำยังไงให้เกิดขึ้น"

ด้าน ชองซุก ตัวแทนจาก ซีเจ เวนเจอร์ อินเวสต์เมนต์ กล่าวถึงความโดดเด่นของภาพยนตร์บู๊แบบไทยคือความสมจริง เช่นภาพยนตร์เรื่อง "องค์บาก" ที่ชาวเกาหลีส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นความแปลกใหม่ "ครั้งแรกที่ชาวเกาหลีได้รู้จักภาพยนตร์แอ็กชันของไทยก็คือเรื่อง องก์บาก ซึ่งคนเกาหลีรู้สึกว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่และดูสมจริงมาก และเป็นอะไรที่ใหม่มากสำหรับชาวเกาหลี อีกอย่างหนึ่งคือภาพยนตร์แอ็กชันในแบบไทยเป็นอะไรที่มีเสน่ห์มากๆ ครับ"

ในขณะที่ ซังคยู โปรดิวเซอร์ของเรื่องนี้ก็บอกว่า ครั้งนี้จะเป็นประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์เกาหลีอีกหนึ่งครั้งที่นักแสดงนำจะเล่นฉากบู๊ด้วยตัวเอง "เมื่อก่อนที่ประเทศเกาหลีเนี่ย นักแสดงที่สามารถเล่นมาร์เชียลอาร์ตส์ได้ มีเพียงคนเดียวที่จะสามารถเล่นเทควันโด มวยไทย หรืออื่นๆ ด้วยตัวเอง ครั้งนี้ก็ถือเป็นประวัติศาสตร์ของหนังเกาหลีเหมือนกัน ที่นักแสดงนำสามารถเล่นและแสดงศิลปะป้องกันตัวด้วย ซึ่งปกติแล้วหนังเกาหลีจะเน้นในเรื่องของดราม่ามากกว่า"

ส่วน ปรัชญา เผยถึงความรู้สึกที่ได้มากำกับเรื่องนี้ว่า "ก็รู้สึกดีใจที่เขาเลือกให้มากำกับเรื่องนี้ แล้วก็ตอนสมัยที่ได้ไปโปรโมต องค์บาก ที่เกาหลี ก็รู้สึกว่าเกาหลีเขาสนใจเรามาก แล้วก็จีจ้าก็มีแฟนคลับเยอะมากครับ คราวนี้ทางเกาหลีเขาจะมีค่านิยมอย่างหนึ่ง คือจะไม่ค่อยยอมรับให้ใครมากำกับตรงนี้ โดยเฉพาะตำแหน่งนี้เป็นสิ่งที่ยากมากๆ แล้วการที่เขายอมรับตรงนี้ก็ถือว่าเป็นการให้เกียรติมากๆ ก็อยากทำให้ออกมาดูดี"

ข้ามมาพูดคุยกับนักแสดงในเรื่องกันบ้าง นำโดยฝั่งไทย คือ จีจ้า และ หม่ำ ส่วนฝั่งเกาหลีได้แก่ "โจแจฮยอน" (Jo Jae Hyeon) "เยจีวอน" (Ye Ji Won) รวมไปถึงพูดคุยกับผู้กำกับ ปรัชญา ด้วย เริ่มที่ถามนักแสดงของเกาหลีอย่าง แจฮยอน ถึงความยากง่ายในการแสดงเรื่องนี้ "ถือว่าเป็นหนังแอ็กชันเรื่องแรกครับ ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นละครหรือภาพยนตร์เนี่ยก็คืออาจจะมีฉากแอ็กชันบ้าง แต่ว่าถ้าเป็นหนังแอ็กชันแบบเต็มรูปแบบเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ก็รู้สึกหนักใจบ้างนิดหน่อยครับ เพราะว่าถึงแม้ผู้ชายเกาหลีจะผ่านการเป็นเทควันโด แต่ผมก็ไม่ได้เล่นมานานแล้ว เพราะฉะนั้นระหว่างที่ถ่ายก็เลยต้องฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือนเลยครับ"

ด้าน จีวอน ก็บอกว่าเรื่องนี้เป็นการบู๊เรื่องแรกเช่นเดียวกัน "เป็นภาพยนตร์แอ็กชันเรื่องแรกเหมือนกันค่ะ แล้วก็เป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสกับศิลปะป้องกันตัวอย่างเทควันโด เมื่อก่อนนี้เนี่ยจะเข้าใจว่าเทควันโดนั้นเป็นศิลปะเพื่อการต่อสู้ แต่พอได้มาสัมผัสจริงๆ แล้วเนี่ยรู้สึกว่าเทควันโดเนี่ยเป็นศิลปะที่ต้องใช้จิตใจ เป็นการฝึกจิตใจ ทุกครั้งที่ปล่อยหมัดออกไป หรือเตะออกไปเนี่ย รู้สึกว่าจิตใจค่อนข้างเบาค่ะ"

มาที่นักแสดงไทยกันบ้างกับ หม่ำ ที่เรื่องนี้ต้องมีพูดเกาหลีด้วย "จีวอนคอยบอกบ้าง ผมก็ค่อยๆ ท่อง คอยจำเอา เหมือนมั่งไม่เหมือนมั่ง เขาก็คอยบอก ก็รู้สึกดีใจครับที่ได้มาเล่นกับซูเปอร์สตาร์ของเกาหลี รู้สึกดีใจมาก ตอนที่พี่ปรัชติดต่อมาก็ จะคุยรู้เรื่องเหรอพี่ปรัช เขาบอกหม่ำก็ลองทำ เขาจะมีคนสอนคนอะไร ก็โอเค เพราะในเรื่องเป็นเพื่อนสนิทกัน เขาก็มีปัญหาที่เมืองไทย ผมก็คอยช่วยเหลือ"

ส่วน จีจ้า ที่เป็นนักแสดงหลักถ่ายทอดฉากบู๊ในเรื่องนี้ ก็กล่าวว่าเป็นการบู๊อย่างต่อเนื่องจากภาพยนตร์เรื่อง "จั๊กกะแหล่น" ที่กำลังถ่ายทำอยู่เช่นกัน "เหนื่อยต่อเนื่องมาก จาก จั๊กกะแหล่น มาถึงเรื่องนี้ ก็อยู่กับพี่หม่ำด้วย (หัวเราะ) ดีใจค่ะที่ได้มีโอกาสแสดงร่วมกับที่เป็นมืออาชีพมากๆ ของเกาหลี ทำให้เรารู้สึกว่าเราคนไทยได้รับการยอมรับแล้ว รู้สึกเหมือนพี่ปรัชค่ะ แต่ของจ้าจะเป็นในเรื่องของแอ็กชัน ของเกาหลีเทควันโดจะเป็นที่หนึ่งของเขาเลยใช่ไหมคะ ทีนี้จ้าก็มีโอกาสเกิดมาจากเทควันโดด้วย แล้วก็พัฒนาเป็นมวยไทย ตรงนี้ก็ขอบคุณที่เทควันโดเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้จ้ามีวันนี้มาได้"

ทางด้าน ปรัชญา บอกถึงความแตกต่างของฉากบู๊ของเรื่องนี้กับเรื่องที่ผ่านๆ มา อาทิ "จีจ้า ดื้อสวยดุ" ว่า "ของจีจ้าเนี่ยในเรื่องเป็นผู้หญิงที่รักธรรมชาติ อยู่กับป่า แล้วก็เอาศิลปะไม้ง่ามมาใช้ ซึ่งมีการออกแบบได้สวยงามมากครับ เป็นภาพลักษณ์ของจีจ้าเลยจริงๆ การันตีครับ"

นอกจากนี้ยังมีนักแสดงของเกาหลีทั้ง "นาแทจู" (Na Tae Joo) "คิมกยองซุก" (Kim Kyoung Suk) หนึ่งในสมาชิกวง "เบบี้วอกซ์" (Baby VOX) รวมถึง "อีควันฮุน" (Lee Kwan Hoon) และ "คิมอิรุ" (Kim Yi Roo) ที่จะมาร่วมประชันบทบาทกันในครั้งนี้ โดยในงาน แทจู และ กยองซุก ก็ได้วาดลีลาเทควันโดประกอบบทเพลงให้ได้ชมกันเล็กน้อยก่อนให้สัมภาษณ์

แทจู พูดถึงการแสดงเทควันโดในเรื่องนี้ด้วยว่า "ปกติแล้วถ้าเล่นเทควันโดแบบที่เป็นกีฬาก็คือจะอยู่ในโรงฝึก แล้วก็เป็นการโชว์เพื่อให้คนอื่นได้ดู แต่ว่าเนื่องจากเรื่องนี้เนี่ยเป็นภาพยนตร์แอ็กชันต้องมีการสู้จริงเจ็บจริง เพราะฉะนั้นเนี่ยก็น่าจะดึงดูดใจได้มากๆ เหมือนกัน" เช่นเดียวกันกับ กยองซุก ที่บอกว่าปกติแล้วเล่นเทควันโดแบบกีฬาเท่านั้น แต่ในเรื่องนี้นั้นได้เล่นแบบที่ต้องเตะคนจริงๆ "ปกติก็จะไม่มีการสู้จริงใช่ไหมคะ แต่ครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เตะคนจริงๆ เลยค่ะ แล้วที่ถ่ายไปก็มีเตะนักแสดงท่านหนึ่งหัวแตกด้วยค่ะ"

ด้าน อิรุ ก็เสริมในเรื่องนี้ว่า "ปกติแล้วเวลาที่ฝึกเทควันโดจริงๆ เนี่ยก็จะมีแต่ท่าทางอย่างเดียว แต่สำหรับภาพยนตร์เนี่ยก็ต้องซ้อมจนกว่าจะได้ท่าที่สวยงามหรือว่าภาพที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นเนี่ยก็รู้สึกว่าต้องใช้พลังงานมากในการซ้อมค่ะ อีกทั้งยังต้องมีการแสดงออกทางสีหน้าด้วยก็เป็นเรื่องที่ยากสำหรับฉันมากค่ะ แล้วจะต้องเซ็กซี่ก็ต้องมีการใส่รองเท้าส้นสูง แล้วก็เตะในขณะที่ใส่รองเท้าส้นสูงด้วยค่ะ"

ท้ายสุดกับหนุ่ม ควันฮุน ที่เคยเป็นทหารหน่วยพิเศษมาก่อนนั้นก็ได้นำประสบการณ์มาใช้ในภาพยนตร์ด้วย "ด้วยความที่ผมเคยเป็นทหาร ก็จะได้ทำหลายสิ่งหลายอย่างที่คนทั่วไปไม่ได้ทำเช่น กระโดดลงมาจากฟ้า เรื่องของการดำน้ำลึก หรือว่าปีนในที่สูง เหล่านี้ก็เลยมีส่วนช่วยในเรื่องของการแสดงฉากแอ็กชันครับ"

นอกจากนี้ภายในงานยังมี "พิมล ศรีวิกรม์" นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย "โค้ชเช" หรือ "ชเวยองซอก" (Choi Young Seok) ผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย รวมไปถึง "หยิน - สริตา ผ่องศรี" และ "แม็กซ์ - ชัชวาล ขาวละออ" สองนักกีฬาทีมชาติไทยที่เพิ่งคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ปี 2010 ที่ประเทศจีน ก็เดินทางมาร่วมงานด้วย

The Kick ภาพยนตร์จากการร่วมมือกันของยักษ์ใหญ่จากไทยและเกาหลี ที่ถ่ายทอดด้วยศิลปะการต่อสู้อย่างเทควันโด ยังอยู่ในระหว่างการถ่ายทำ และคาดว่าจะพร้อมฉายในเดือนพฤษภาคม ปี 2554

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15
  • รูปภาพ 16
  • รูปภาพ 17
  • รูปภาพ 18
  • รูปภาพ 19
  • รูปภาพ 20
  • รูปภาพ 21
  • รูปภาพ 22
  • รูปภาพ 23
  • รูปภาพ 24
  • รูปภาพ 25
  • รูปภาพ 26
  • รูปภาพ 27
  • รูปภาพ 28
  • รูปภาพ 29
  • รูปภาพ 30
  • รูปภาพ 31
  • รูปภาพ 32
  • รูปภาพ 33
  • รูปภาพ 34
  • รูปภาพ 35
  • รูปภาพ 36
  • รูปภาพ 37
  • รูปภาพ 38
  • รูปภาพ 39
  • รูปภาพ 40
  • รูปภาพ 41
  • รูปภาพ 42
  • รูปภาพ 43
  • รูปภาพ 44
  • รูปภาพ 45
  • รูปภาพ 46
  • รูปภาพ 47
  • รูปภาพ 48
  • รูปภาพ 49
  • รูปภาพ 50
  • รูปภาพ 51
  • รูปภาพ 52
  • รูปภาพ 53
  • รูปภาพ 54
  • รูปภาพ 55
  • รูปภาพ 56
  • รูปภาพ 57
  • รูปภาพ 58
  • รูปภาพ 59
  • รูปภาพ 60
  • รูปภาพ 61
  • รูปภาพ 62
  • รูปภาพ 63
  • รูปภาพ 64
  • รูปภาพ 65
  • รูปภาพ 66
  • รูปภาพ 67
  • รูปภาพ 68
  • รูปภาพ 69
  • รูปภาพ 70
  • รูปภาพ 71
  • รูปภาพ 72
  • รูปภาพ 73
  • รูปภาพ 74
  • รูปภาพ 75
  • รูปภาพ 76
  • รูปภาพ 77
  • รูปภาพ 78

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • The Last Five Years - ใช้เวลา 21 วันในการถ่ายทำ และถ่ายทำฉากเพลง Goodbye Until Tomorrow ในวันสุดท้าย อ่านต่อ»
  • Mad Max: Fury Road - ฉากเทคนิคพิเศษประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ช่วย แต่เป็นของจริงโดยใช้นักแสดงแทน ฉาก และการแต่งหน้าช่วย ส่วนที่ใช้คอมพิวเตอร์ก็ใช้เพียงลบเชือก ตกแต่งพื้นที่ทะเลทรายนามิบ และสร้างแขนปลอมข้างซ้ายของ ชาร์ลีซ เธอรอน ผู้รับบท ฟิวริโอซา เท่านั้น อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

บทสรุปของตำนานอันน่าตื่นเต้นของตระกูลสกายวอร์คเกอร์ เมื่อตำนานใหม่จะถือกำเนิดและการต่อสู้ครั้งสุดท้ายเพื่ออิสรภาพกำลังจ...อ่านต่อ»