ประกาศแล้วผู้ได้รับรางวัล บาฟตา อวอร์ดส์ ปี 2008

งานประกาศรางวัลของสถาบันศิลปะภาพยนตร์และโทรทัศน์แห่งสหราชอาณาจักร (British Academy of Film and Television Arts) หรือเรียกชื่อย่อว่า "BAFTA" (บาฟตา อวอร์ดส์) ที่ถือว่ามีความสำคัญพอๆ กับรางวัลออสการ์ของทางอเมริกา ได้ประกาศรายชื่อผู้คว้ารางวัลประจำปี 2008 นี้ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นที่ โรงละคร เดอะ รอยัล โอเปร่า เฮาส์ ที่ คัฟเวนต์ การ์เด้น ในกรุงลอนดอน

อนึ่งรางวัลบาฟตาได้จัดแบ่งการประกาศรางวัลออกเป็น 4 หมวดใหญ่ๆ คือ ด้านภาพยนตร์ ด้านโทรทัศน์ ด้านวิดีโอเกม และ ด้านรางวัลบันเทิงสำหรับเยาวชน โดยในส่วนของภาพยนตร์นั้น ภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลไปกอดมากที่สุดถึง 4 สาขา คือ "La Vie en Rose" หนึ่งในนั้นเป็นสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม "มาริยง โคติยาร์" เธอได้กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้เล่นเรื่องนี้ว่า เหมือนกับการผจญภัยที่สุดจะเหลือเชื่อ เธอรู้สึกสนุกไปกับการถ่ายทำในทุกๆ ฉาก และรักทุกคนที่สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อเธอ

"No Country for Old Men" ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเต็งที่กวาดไปถึง 3 รางวัล ซึ่งรวมถึงสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม และนักแสดงสมทบยอดเยี่ยม โดย "ฮาเวียร์ บาร์เดม" นักแสดงหนุ่มเลือดลาติน กล่าวอย่างภาคภูมิว่า เขารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มายืนอยู่ในดินแดน ที่ขึ้นชื่อว่ามีประวัติการแสดงอันยาวนาน และอยากขอบคุณนักแสดงชาวยุโรปทุกคน ที่ได้มาร่วมเป็นเกียรติให้กับในค่ำคืนนี้ ทั้งเขายังได้หยอดมุขแถมท้ายเป็นการกล่าวขอบคุณ พ่อและแม่ ซึ่งไม่ใช่ของเขาแต่หมายถึงของสองพี่น้องโคเอนต่างหาก

ภาพยนตร์สายเลือดอังกฤษ ที่สร้างจากนวนิยายของนักเขียนชาวอังกฤษ "เอียน แมกอิวาน" (Ian McEwan) อย่าง "Atonement" ก็ไม่น้อยหน้าคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม พ่วงรางวัลออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม เสียงจากหนึ่งในผู้อำนวยการสร้าง "พอล เวบสเตอร์" ได้กล่าวว่า "ปีนี้เป็นปีทองของภาพยนตร์ และคิดว่ารางวัล บาฟตา ก็คือทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเรา" นอกจากนี้ยังมีเรื่อง "The Bourne Ultimatum" ที่ได้รับรางวัลถึง 2 สาขาเช่นกัน

สำหรับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมตกเป็นของ "แดเนียล เดย์-ลูอิส" จาก "There Will Be Blood" ขณะที่รางวัลนักแสดงสมทบหญิงก็ตกเป็นของ "ทิลด้า สวินตัน" จาก "Michael Clayton" มากันที่รางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมบ้าง คราวนี้ "ไดอาโบล โคดี้" นักเขียนบทภาพยนตร์รุ่นใหม่ก็สามารถพา "Juno" ขึ้นรับรางวัลนี้ไป ขณะที่รางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงเป็นของ "The Diving Bell And The Butterfly" จากฝีมือการเขียนบทของ "โรนัลด์ ฮาร์วูด"

ส่วนรางวัลภาพยนตร์อังกฤษยอดเยี่ยมนั้น "This Is England" ภาพยนตร์จากฝีมือการสร้างของ "มาร์ก เฮอร์เบิร์ต" และ "เชน มีโดว์" เป็นผู้คว้าไปครอง ทางด้านสาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม ซึ่งแน่นอนแล้วว่าเป็นอีกหนึ่งงานที่ "Ratatouille" ของค่าย วอลท์ ดิสนีย์ พิคเจอร์ส และ พิกซาร์ แอนิเมชั่น ไม่ยอมหลุดโผเลยจริงๆ

นอกจากนี้ยังมีรางวัลที่น่าจับตามองอีกหนึ่งรางวัล คือ "ดิ ออเรนจ์ ไร้ซิ่ง สตาร์" หรือรางวัลที่มอบให้กับนักแสดงดาวรุ่งหน้าใหม่ขวัญใจมหาชน ซึ่งปีที่แล้วตกเป็นของ "อีวา กรีน" ส่วนในปีนี้ได้ดาราดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง "ไชอา ลาบัฟฟ์" ที่ใครๆ ต่างก็จดจำเขาได้จากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ "Transformers" มาเบียดเอาชนะคู่แข่งอีกสี่คน คือ "เอลเลน เพจ" "เซียนน่า มิลเลอร์" "แซม ไรลี่ย์" และนักแสดงสาวชาวจีน "ทัง เหว่ย" คว้ารางวัลนี้ไปครอง

รายชื่อผู้ได้รับรางวัล BAFTA ประจำปี 2008

• ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม: Atonement
• ภาพยนตร์อังกฤษยอดเยี่ยม: This Is England
• ผู้กำกับยอดเยี่ยม: โจเอล โคเอน (Joel Coen) และ อีธาน โคเอน (Ethan Coen) จาก No Country for Old Men
• บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม: Juno โดย ไดอาโบล โคดี้ (Diablo Cody)
• บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม: The Diving Bell And The Butterfly โดย โรนัลด์ ฮาร์วูด (Ronald Harwood)
• ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม: The Lives Of Others
• ภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม: Ratatouille โดย แบรด เบิร์ด (Brad Bird)
• นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม: แดเนียล เดย์-ลูอิส (Daniel Day-Lewis) จาก There Will Be Blood
• นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม: มาริยง โคติยาร์ (Marion Cotillard) จาก La Vie en Rose
• นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม: ฮาเวียร์ บาร์เดม (Javier Bardem) จาก No Country for Old Men
• นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม: ทิลด้า สวินตัน (Tilda Swinton) จาก Michael Clayton
• ดนตรียอดเยี่ยม: La Vie En Rose
• กำกับภาพยอดเยี่ยม: No Country for Old Men
• ตัดต่อยอดเยี่ยม: The Bourne Ultimatum
• ออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม: Atonement
• ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม: La Vie En Rose
• บันทึกเสียงยอดเยี่ยม: The Bourne Ultimatum
• เทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม: The Golden Compas
• แต่งหน้าและออกแบบทรงผมยอดเยี่ยม: La Vie En Rose
• ภาพยนตร์แอนิเมชั่นขนาดสั้นยอดเยี่ยม: The Pearce Sisters
• ภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยม: Dog Altogether
• รางวัล ดิ ออเรนจ์ ไรซิง สตาร์ สำหรับนักแสดงดาวรุ่งยอดนิยม: ไชอา ลาบัฟฟ์ (Shia LaBeouf)
• รางวัล คาร์ล โฟร์แมน สำหรับผู้กำกับ นักเขียนบทภาพยนตร์ หรือ ผู้สร้าง ชาวอังกฤษ กับผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก: นักเขียนบท แมตต์ กรีนฮอล์ช (Matt Greenhalgh) จาก Control
• ชาวอังกฤษผู้อุทิศตัวแก่ภาพยนตร์: แบร์รี่ วิลคินสัน (Barry Wilkinson)
• รางวัล อะคาเดมี เฟลโลว์ชิป สำหรับผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต: แอนโธนี ฮอปกินส์ (Anthony Hopkins)