สตีเว่น สปีลเบิร์ก จับมือ ปีเตอร์ แจ็กสัน ร่วมสร้าง Tintin
สองผู้กำกับใหญ่แห่งฮอลลีวูด "สตีเว่น สปีลเบิร์ก" และ "ปีเตอร์ แจ็กสัน" วางแผนที่จะกำกับภาพยนตร์โดยแบ่งกันกำกับคนละหนึ่งเรื่องจากภาพยนตร์ซีรี่ส์ 3 ตอน ที่ดัดแปลงมาจากเรื่องราวแนวผจญภัย "Tintin" อันเป็นหนังสือชุดภาพประกอบ ที่เล่าถึงการผจญภัยรอบโลกของนักข่าวคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผลงานของ "จอร์จส์ เรมี" ที่ตีพิมพ์ภายใต้นามปากกาว่า แอร์เช (Herge) ซึ่งนำเอาตัวอักษรแรกของชื่อและนามสกุลมาสลับตำแหน่งกัน และออกเสียงแบบภาษาฝรั่งเศส
"มาร์วิน เลวี่" โฆษกส่วนตัวของ สตีเว่น ได้เผยข้อมูลว่าภาพยนตร์ที่มี 3 ตอนที่จะคัดเลือกมาจากหนังสือ 24 เล่มในชุด Tintin นี้ ผู้กำกับทั้งสองคนจะแบ่งกันกำกับในภาค 1 และ 2 คนละ 1 ตอน ส่วนในภาคที่ 3 นั้น จะมีการตัดสินใจในภายหลังอีกครั้งว่าจะให้ สตีเว่น หรือว่า ปีเตอร์ เป็นคนกำกับ ส่วนตารางการทำงานหรือวันกำหนดฉายก็ยังไม่ได้กำหนดเช่นกัน
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นการสร้างโดยใช้เทคโนโลยีแบบ โมชั่น-แคปเชอร์ อันเป็นการจำลองตัวละครโดยอาศัยนักแสดงที่มีชีวิตจริงๆ ช่วยสร้างภาพ ผสานกับการใช้เทคนิคคอมพิวเตอร์มาซ้อนเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อก่อให้เกิดตัวละครที่ดูราวกับมีชิวิตจริงๆ โดยที่ ปีเตอร์ ก็เคยใช้เทคนิค โมชั่น-แคปเชอร์ ในการสร้างภาพคิงคองยักษ์ของเขามาก่อนในภาพยนตร์ "King Kong" รวมทั้งตัวละคร กอลลั่ม ใน "The Lord of the Rings" ของเขาทั้ง 3 ภาคอีกด้วย
"พวกเราต้องการให้การผจญภัยของ Tintin สมจริงดูมีชีวิตมากที่สุด ซึ่งตัวผมและ ปีเตอร์ ก็รู้สึกว่าการถ่ายทำในเทคนิคแบบดั้งเดิมดูจะง่ายเกินไปและถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติโลกและตัวละครอันมีเอกลักษณ์ที่ แอร์เช เป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้น" สตีเว่น กล่าว
ฟาก ปีเตอร์ ก็บอกว่า "เราจะถ่ายทอดภาพของ แอร์เช ที่เป็นแบบต้นฉบับออกมาเลย แต่ว่าจะไม่ได้ทำให้ดูเป็นการ์ตูนหรือเป็นตัวละครแอนิเมชั่นแบบทั่วๆ ไป เพราะว่าเราจะสร้างพวกมันให้ดูเหมือนจริงมาก ไม่ว่าจะเป็นเส้นใยของเสื้อผ้าที่ตัวละครสวมใส่ รูขุมขน เส้นผมต่างๆ เหล่านี้จะต้องดูแล้วคล้ายกับเป็นมนุษย์ แต่จริงๆ แล้วตัวละครเหล่านี้เป็นมนุษย์ของ แอร์เช อย่างแท้จริงต่างหากล่ะ"
ทั้งนี้ยังมีผู้อำนวยการสร้างคู่หูของ สตีเว่น คือ "แคธลีน เคนเนดี้" ที่จะมาร่วมในทีมสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้กับ สตีเว่น และ ปีเตอร์ ด้วย ซึ่งการประกาศที่จะสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ออกมาเพียงแค่ 1 สัปดาห์ก่อนการฉลองครบรอบวันเกิด 100 ปีของ แอร์เช ซึ่งเสียชีวิตเมื่อตอนปี 1983 อีกด้วย