1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

ประกาศผลรางวัลภาพยนตร์จาก AFI และ NYFC ปี 2003

ประกาศผลรางวัลภาพยนตร์จาก AFI และ NYFC ปี 2003

The Lord of the Rings: The Return of the King ภาพยนตร์มหากาพย์แฟนตาซีจากนวนิยายเรื่องดังของ เจอาร์อาร์ โทลคีน ได้รับการโหวตให้เป็น ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2003 จากสองสถาบันใหญ่ในอเมริกา ได้แก่ สมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์แห่งนิวยอร์ก หรือ NYFC และ สถาบันภาพยนตร์อเมริกันหรือ AFI ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน โดย AFI ประกาศรายชื่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี 10 เรื่อง เมื่อวันศุกร์ที่ 12 ธ.ค. และ NYFC ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ 15 ธ.ค.

ในส่วนของรางวัลจากสถาบันภาพยนตร์อเมริกัน ซึ่งมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 13 รายประกอบด้วย นักวิชาการ นักแสดง นักวิจารณ์และผู้เกี่ยวข้องในวงการภาพยนตร์อเมริกันได้ลงมติคัดเลือก ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนี้ 10 เรื่องโดยไม่ตัดสินเป็นลำดับว่าเรื่องใดที่เป็นอันดับ 1 หรือ 2 แต่ยกให้เป็นสุดยอดทั้งหมด ดังนี้

  • American Splendor
  • Finding Nemo ภาพยนตร์การ์ตูนดิสนีย์ที่ทำรายได้ถล่มทลาย
  • In America
  • Lost In Translation ภาพยนตร์ขวัญใจงานเทศกาลฝีมือกำกับเรื่องที่สองของ โซเฟีย คอปโปล่า ทายาทคนสวยของ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า ผู้สร้างตำนานภาพยนตร์ Godfather ไตรภาคนั่นเอง
  • Master and Commander: The Far Side of the World ภาพยนตร์แนวผจญภัยแฟนตาซี นำแสดงโดย รัสเซล โครว์
  • Monster
  • Mystic River เจ้าของรางวัลภาพยนตร์เยี่ยมจากสมาคมนักวิจารณ์แห่งชาติอเมริกา
  • The Human Stain นำแสดง โดย นิโคล คิดแมน
  • The Last Samurai ภาพยนตร์มหากาพย์ซามูไร นำแสดงโดย ทอม ครูซ
  • The Lord of the Rings: The Return of the King

นับเป็นปีที่สองที่สถาบันภาพยนตร์อเมริกันใช้นโยบายยกให้ทั้ง 10 เรื่อง เป็นสุดยอดภาพยนตร์แห่งปี ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา

"เราไม่จัดอันดับก็เพราะเราต้องการสดุดีการสร้างสรรค์งานที่ผ่านการประสานงานทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังกล้อง จึงทำให้หนังเสร็จสิ้นออกมาได้" จีน พิคเกอร์ เฟิร์สเตนเบิร์ก ผู้อำนวยการและผู้บริหารสถาบัน AFI ชี้แจง

อย่างไรก็ตาม สำหรับรางวัลสมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์แห่งนิวยอร์ก บรรดานักวิจารณ์ทางสื่อสิ่งพิมพ์ในเมืองนิวยอร์กจำนวน 34 คน ได้ลงมติคัดเลือก ภาพยนตร์มหากาพย์ชิงแหวนของผู้กำกับ ปีเตอร์ แจ๊กสัน ชาวนิวซีแลนด์เป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี ขณะที่ โซเฟีย คอปโปล่า จาก Lost in Translation คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมไปครอง

ภาพยนตร์ตลกแหวกแนวจากค่ายเล็กๆ ในนาม โฟกัส ฟีตเจอร์ ก็ครองใจนักวิจารณ์ทั้ง AFI และ NYFC นอกจากรางวัลผูกำกับแล้ว Lost In Translation ยังได้รางวัลดารานำชายยอดเยี่ยม นำแสดงโดย บิล เมอเรย์ อีกด้วย

รางวัล NYFC ปีนี้เริ่มฮือฮาขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากสมาคมนี้ในช่วงสองปีที่ผ่านมาอย่าง Far From Heaven (2002) และ Mullholland Drive (2001) ถูกเมินจากเวทีออสการ์อย่างสิ้นเชิง ทั้งๆ ที่ในปี 2001 Traffic หนังที่ NYFC ยกย่องประสบความสำเร็จอย่างสูงในเวทีออสการ์ คว้ารางวัลใหญ่ๆมากมายรวมทั้งรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ สตีเวน โซเดอร์เบิร์ก ก็ได้ผู้กำกับยอดเยี่ยมไปด้วย

ตามธรรมเนียมเดิมของสมาคมนักวิจารณ์นิวยอร์กที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1935 แล้ว มักจะเลือกภาพยนตร์นอกกระแสเข้าวินเป็นส่วนใหญ่ แม้กระทั่งในปีนี้ภาพยนตร์ที่ได้รางวัลต่างๆ ของสมาคมฯ ก็เป็นภาพยนตร์ดราม่าฟอร์มเล็กอย่าง Mystic River, American Splendor, The Secret Lives of Dentists และ Elephant มีภาพยนตร์ในกระแสอย่าง The Return of the King โผล่มารายเดียว

แอนดรูว์ จอห์นสัน นักวิจารณ์ภาพยนตร์จากนิตยสาร เรดาร์ ประธาน NYFC คนปัจจุบัน ชี้แจงเหตุผลที่ทางสมาคมฯ เลือก The Lord of the Rings ภาคนี้เป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมว่า

"ก็เป็นหนังที่ดีที่สุดของไตรภาคชุดนี้นี่ครับ เป็นผลงานสร้างหนังมหากาพย์ที่มหัศจรรย์มาก ปีนี้ NYFC เลือก ก็เพราะเป็นมหากาพย์ของการสร้างสรรค์เลยน่ะครับ มันมีทุกอย่าง มันเป็นมหากาพย์ที่มีทั้งอารมณ์ดราม่า มีฉากรบอลังการ มีอารมณ์สะเทือนใจ มีเนื้อในที่ซับซ้อน ตัวละครก็ถูกจัดวางอย่างดี แถมด้วยจังหวะเบรคที่ถูกที่ถูกทางอย่างที่คนดูต้องการ"

การที่ The Return of the King คว้ารางวัลในปีนี้ไปครอง จึงปลุกกระแสลุ้นออสการ์ของภาพยนตร์แหวนเรื่องดัง ซึ่งวืดรางวัลใหญ่ในเวทีออสการ์มาแล้วสองปีซ้อน ทั้ง The Fellowship of the Ring (2001) และ The Two Towers (2002)

สำนักข่าวเอพีรายงานตามสถิติแล้วกว่า 40% ของภาพยนตร์ที่คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากสถาบันและสมาคมนักวิจารณ์ต่างๆ มักจะชนะรางวัลออสการ์ด้วย

The Lord of the Rings ไตรภาคเป็นผลงานสร้างของ ปีเตอร์ แจ๊กสัน ผู้กำกับชาวนิวซีแลนด์ ที่ได้ทุนสนับสนุนและการจัดจำหน่ายโดยนิวไลน์ซีนีม่า ภาคแรก The Fellowship of the Ring คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก AFI และได้ชิงออสการ์ 13 สาขาในปี 2002 แต่ชวดรางวัลใหญ่ๆ อย่าง ผู้กำกับยอดเยี่ยม ดาราสมทบชายยอดเยี่ยม และรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมให้กับ A Beautiful Mind

ต่อมาต้นปี 2003 The Two Towers ภาคสองของไตรภาค เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอีก แต่พ่ายให้กับภาพยนตร์เพลง Chicago ไป แต่ทั้งสองภาคก็กวาดรางวัลในสายเทคนิคไปเกือบทั้งหมด

ปีนี้ The Lord of the Rings The Return of the Kings มาแรงกว่าใคร แต่จะลบล้างอาถรรพ์ภาพยนตร์แฟนตาซีไม่รุ่งในเวทีออสการ์ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์คลาสสิกขึ้นหิ้งอย่าง The Wizard of Oz ในช่วงทศวรรษ 1930 หรือ E.T. the Extra-Terrestrial ของ สตีเวน สปีลเบิร์กในปี 1982

ขณะที่ภาพยนตร์แหวนทั้งสองภาคทำรายได้ทั่วโลกรวมกันมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยภาคสองทำได้กว่า 930 ล้านเหรียญ และหลายฝ่ายเชื่อว่าภาคสุดท้ายของไตรภาคที่จะออกฉายในสัปดาห์นี้จะทำลายสถิติภาคเก่าอย่างแน่นอน

ภาพยนตร์ทำเงินถล่มทลายเรื่องล่าสุดยังเป็น Titanic โดย เจมส์ คาเมรอน ที่คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากออสการ์ปี 1999 และเป็นแชมป์ภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดตลอดกาลทั่วโลกด้วยยอดตัวเลข 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐอยู่ในขณะนี้

The Return of the King จะโค่นบัลลังก์ของ Titanic สำเร็จหรือไม่ต้องรอกันอีกสองเดือน เมื่อภาพยนตร์ออกฉายและรางวัลออสการ์ประกาศผลในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2004

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Predestination - สร้างจากเรื่องสั้น All You Zombies ของ โรเบิร์ต เอ. ไฮน์ไลน์ อ่านต่อ»
  • The Riot Club - สร้างมาจากบทละครเรื่อง Posh เขียนโดย ลอรา เวด อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

จุดเริ่มต้นของทีม เจี่ยซือ ทีมอีสปอร์ตระดับพระกาฬ ที่ขับเคลื่อนด้วยสองขุนพลอย่าง ซูมู่ซิว (Bian Jiang) และ เยี่ยซิว (Ji...อ่านต่อ»