1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

ผจญภัยทะลุจอไปกับภาพยนตร์สามมิติ เอคโค่ จิ๋วก้องโลก

ผจญภัยทะลุจอไปกับภาพยนตร์สามมิติ เอคโค่ จิ๋วก้องโลก

"เอคโค่ จิ๋วก้องโลก" ภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นเรื่องที่ 3 จาก กันตนา แอนนิเมชั่น สตูดิโอ ที่สร้างด้วยระบบ 3 มิติ สเตอริโอสโคพิก อย่างเต็มรูปแบบเรื่องแรกของเมืองไทย โดยฝีมือการกำกับของ "คำป้อน - คมภิญญ์ เข็มกำเนิด" ผู้ที่เคยร่วมงานระดับฮอลลีวูดมาแล้ว ทั้งจากภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง "Tarzan" "Ice Age" และ "Atlantis" รวมถึงยังเคยฝากฝีไม้ลายมือให้คนไทยได้ชมมาแล้ว กับภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นสัญชาติไทยเรื่อง "ก้านกล้วย"

ภาพยนตร์เรื่อง เอคโค่ จิ๋วก้องโลก เป็นเรื่องราวของการผจญภัยไปพร้อมกับการส่งเสริมให้อนุรักษ์ธรรมชาติ ผ่าน 3 ตัวการ์ตูนหลัก ได้แก่ หน่อวา ที่ให้เสียงพากย์โดย "หนูนา - หนึ่งธิดา โสภณ" จ่อเป ที่ได้เสียงของนักแสดงตัวน้อยอย่าง "ก๊อบแก๊บ - อธิพิชญ์ ชุติวัฒน์ขจรชัย" มาพากย์ให้ และ "มิกกี้ - นพพันธ์ จันทรศร" ที่มาพากย์ตัวการ์ตูนที่ชื่อว่า แซม ด้านนักแสดงและนักพากย์ฝีมือฉกาจอย่าง "ปุ๊ - มนตรี เจนอักษร" ก็ทำหน้าที่ควบคุมทีมพากย์ ซึ่งเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้มีการจัดงานเปิดตัวรอบปฐมทัศน์ ณ ลานอินฟินิซิตี้ พารากอน ซีนีเพล็กซ์

คำป้อน พูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ฟังว่า "ภาพยนตร์เรื่อง เอคโค่ จิ๋วก้องโลก เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องที่ 3 ของ กันตนา แอนนิเมชั่น เราอยากจะทำหนังออกสู่ผู้ชมเป็นระยะๆ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เรียกว่าพัฒนาขึ้นจากเดิมเยอะมากครับ จากเดิมที่เราทำเป็นหนังประวัติศาสตร์ เรื่องนี้เป็นหนังที่ร่วมสมัยแล้วก็มีความเป็นสากลมาก ตัวละครหลักก็จะเป็นเด็กจาก 2 ฝั่งโลก ฝั่งนึงก็จะเป็นเหมือนตัวแทนของเรา เป็นลูกชายประธานาธิบดีเข้าไปเจอกับอีกฝั่งนึงเป็นตัวแทนของกลุ่มคนที่รักธรรมชาติ

ตัวละครหลักก็คือจ่อเปกับหน่อวา จ่อเปเขาจะมีความพิเศษ คือเขาสามารถคุยกับธรรมชาติได้ด้วยการเอาหัวโขก น่ารักมาก ซึ่งเสียงที่ได้มาจากน้องก๊อบแก๊บ ตอนพากย์ก๊อบแก๊บอายุแค่ 3 ขวบ ให้เสียงจ่อเปแบบดีมากเลยครับ คือพอเราได้เสียงที่ดีแล้ว ก็เหมือนกับตัวละครได้มาแล้วครึ่งหนึ่ง ที่เหลือก็คือแอนิเมชั่น นั่นคือการฟังเสียงของนักพากย์ แล้วก็แอนิเมตทำให้ตัวละครมีชีวิตครับ หน่อวาก็ได้หนูนามาพากย์เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว แซมก็จะเป็นน้องมิกกี้ครับ 3 คนนี้เรียกว่าเป็นตัวละครหลักของเรื่องราวครับ"

ผู้กำกับเผยถึงความยากในการสร้าง เอคโค่ จิ๋วก้องโลก ว่า "ความยากมันมีแตกต่างกันนะครับ เรียกได้ว่ายิ่งทำก็ยิ่งพบว่าเป็นหนังที่ยาก อย่าง เอคโค่ฯ ก็มีรายละเอียดหลายๆ อย่าง ซึ่งตอน ก้านกล้วย เรามั่นใจว่าเราทำได้ พอมาเจอเรื่องนี้มันมีปัญหาใหม่ๆ ยกตัวอย่างเช่น เทคนิคเราจะทำแบบสเตอริโอสโคพิก 3 มิติ เข้าไปดูในจอนี่มีรู้สึกลึกรู้สึกร่วมกับตัวละคร วิธีการทำก็คือว่าเราต้องทำเหมือนว่าเป็นหนัง 2 เรื่อง เรื่องนึงเท่ากับตาข้างซ้าย อีกเรื่องนึงเท่ากับตาขวา ซึ่งหมายความว่า 2 เรื่องนี้จะคล้ายๆ กัน แต่มันไม่เหมือนกันซะทุกอย่าง อย่างสีทั้ง 2 ภาพมันไม่ตรงกัน คนดูก็จะปวดหัวทันที เพราะฉะนั้นการทำงานต้องอาศัยความละเอียดอ่อนต่างๆ มากมาย การพากย์ก็เหมือนกันครับ เราต้องแอนิเมตกระเหรี่ยงคอยาว เราศึกษา เราให้ทีมงานเขาเอาคอยาวมาใส่ เขาจะได้มีความรู้สึกเหมือนกับว่าเวลาที่เรามีคอยาว มีน้ำหนักถ่วงตรงคอเขาจะรู้สึกยังไง ในทุกรายละเอียดเราจะต้องให้ความสนใจ"

ส่วนระยะเวลาในการถ่ายทำก็ใช้เวลาทั้งกว่า 3 ปีถึงจะเสร็จพร้อมให้ได้ชม "ทั้งหมดเราใช้เวลาทำบทประมาณปีกว่าๆ แล้วก็โปรดักชันอีก 2 ปี เบ็ดเสร็จน่าจะอยู่ที่ 3 ปีกว่านิดนึงครับ กว่าจะออกมาให้ผู้ชมได้ชมกัน" ผู้กำกับบอกความคาดหวังให้ฟังว่า "ความคาดหวังที่มีกับภาพยนตร์เรื่องนี้ คือเราตั้งใจจะทำให้หนังมันดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเรื่องนี้เรามั่นใจว่าเราทำดีที่สุดมากจริงๆ เชื่อว่าผู้ชมที่เคยชื่นชอบ ก้านกล้วย ก้านกล้วย 2 ก็จะสนุกกับเรื่องนี้มาก ความหวังของคนทำหนังก็คือได้การสนับสนุนจากคนดูครับ"

ปุ๊ เล่าถึงขั้นตอนในการพากย์ เอคโค่ จิ๋วก้องโลก ว่า "การพากย์เรื่องนี้เริ่มต้นจากที่เรายังไม่เห็นภาพ ไม่เห็นอะไรเลย จากแค่เป็นบทแล้วก็เห็นหน้าการ์ตูนให้เราเห็นเท่านั้น แล้วก็ร่วมแรงร่วมใจกันจินตนาการขึ้นมาให้ชาวแอนิเมชั่นไปทำตามเสียงของพวกนักแสดงต่างๆ นานาที่เราทำมาอย่างดีที่สุดแล้วนะครับ ก็ใช้เวลา 3 ปีกว่า แต่ไม่ได้หายไปไหน เราทำมาเรื่อยๆ ไม่ได้หมายความว่า 3 ปีแล้วหยุดไปแล้วก็มาตอนนี้ คือว่าเราทำมาเรื่อยๆ แก้ไขมาเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลา 3 ปีกว่าๆ ที่เราทำกันมาครับ"

ส่วนที่ต้องใช้เวลาในการสร้างกว่า 3 ปี ปุ๊ บอกว่าเพราะต้องการให้ภาพในการ์ตูนสวยสมจริง "โปรดักชันของการเขียนแอนิเมชั่นต้องการให้สวยที่สุด แล้วก็ต้องการให้เป็นสามมิติเรื่องแรกของประเทศไทย เราทำได้แล้วนะสามมิติ สวยงามมาก เพราะฉะนั้นลองมาดูว่าฝีมือคนไทยที่ทำสามมิติเนี่ยทำได้ยังไง ทำได้จริงๆ ครับ สวยด้วย ภาพสวยหมดเลยครับ"

ปุ๊ เผยถึงอุปสรรคในการพากย์ เริ่มจากนักพากย์ตัวจิ๋วอย่าง ก๊อบแก๊บ ว่า "ตอนที่เขาเริ่มต้นพากย์จนบัดนี้เขาก็ลืมแล้วว่าเขาทำอะไรไปบ้าง คือตอนนั้นเขาเล็กมากจนเขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไรไปบ้าง แต่เราพยายามจะขโมยสิ่งที่ดีจากเขามาไว้ในหนังเราให้ได้ ไม่ว่าจะหัวเราะ การร้องไห้ที่น่ารักเหลือเกิน หรือว่าอารมณ์ความรู้สึกของเด็ก 3 ขวบกว่า ถามว่าก๊อบแก๊บทำอะไรบ้าง จำไม่ได้ครับ แต่ว่าเราได้เก็บมาหมดแล้วในหนังเรื่องนี้ครับ"

ขยับมาที่ มิกกี้ ก็มีปัญหาในเรื่องช่วงวัยที่อาจจะทำให้เสียงเปลี่ยน "เรากลัวเขาโตมากเลย เพราะว่าเราต้องการเสียงที่ยังไม่แตกเนื้อหนุ่ม เป็นเสียงที่เข้มแข็ง จะเป็นวัยที่อีกนิดนึงจะเสียงแตก เราจะกลัวมากเลยว่าเขาจะเสียงแตก แต่ว่าดีมากเลยคือเสียงแตกเมื่อเรามาเรียกซ่อมวินาทีสุดท้าย พอไม่ได้เราต้องเอาเสียงที่แอบเก็บๆ ไว้มาซ่อมแซมแทน เพราะว่าสุดท้ายเสียงแตกแล้ว"

ปุ๊ พูดถึง หนูนา ว่า "คนนี้เขาฝากมาเลย ทั้งๆ ที่เขายังนอนป่วยอยู่ บอกว่าช่วยพูดถึงหนูหน่อยว่าหนูภูมิใจกับแอนิเมชั่นเรื่องนี้มาก ตอนนี้เขาป่วยอยู่เขาเลยมาไม่ได้ เราก็ได้เสียงเขามาซึ่งก็เป็นเสียงที่น่ารักมากๆ เลย ก่อนเล่น กวน มึน โฮ อีก เสียงนี่น่ารัก อาจจะต้องบีบนิดนึง เพราะว่าเขาโตเกินตัวละครไปแล้ว บีบเสียงให้ดูน่ารักแล้วก็ใสขึ้น มีชีวิตชีวาขึ้น"

ปุ๊ ฝากถึงภาพยนตร์ว่า "มีความรู้สึกตั้งแต่เราทำ ก้านกล้วย 1 คนก็อยากดูว่าคนไทยทำแอนิเมชั่นได้แล้ว ไปดูกันหน่อย ไปเชียร์กันหน่อย ไปช่วยกันหน่อย ตอนนี้คนไทยทำสามดีได้แล้ว แล้วก็ถ้าดูกันมันทะลุจอจริงๆ ผมอยากจะได้ความรู้สึกสมัยที่ ก้านกล้วย 1 มาช่วยเชียร์คนไทยกันเถอะ แล้วจะมีความสุขร่วมๆ กันทุกคน เพราะว่าจะสร้างความยิ้มแย้มแจกทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่มาดูภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ" ด้านผู้กำกับก็บอกว่า "ก็ฝากถึงแฟนๆ นะครับ อยากให้มาชมกันในโรงภาพยนตร์กันนะครับ ถ้าชอบฝากบอกต่อครับ เพราะว่าแอนิเมชั่นไทยต้องการความอุดหนุนจากทุกท่านครับ 2 สิงหาคม ทุกโรงภาพยนตร์ครับ"

ร่วมผจญภัยไปภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นสามมิติเรื่อง เอคโค่ จิ๋วก้องโลก เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ตั้งแต่ 2 สิงหาคม นี้เป็นต้นไป

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15
  • รูปภาพ 16
  • รูปภาพ 17
  • รูปภาพ 18
  • รูปภาพ 19
  • รูปภาพ 20
  • รูปภาพ 21
  • รูปภาพ 22
  • รูปภาพ 23
  • รูปภาพ 24
  • รูปภาพ 25
  • รูปภาพ 26
  • รูปภาพ 27
  • รูปภาพ 28
  • รูปภาพ 29
  • รูปภาพ 30
  • รูปภาพ 31
  • รูปภาพ 32

ความคิดเห็น

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Still Alice - ตอนที่ได้อ่าน Still Alice ฉบับหนังสือครั้งแรก ริชาร์ด แกลตเซอร์ และ วอช เวสต์มอร์แลนด์ ผู้กำกับทั้งสองคนรู้สึกว่าเรื่องราวของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับโรคสมองเสื่อมชนิดเกิดเร็วเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว เพราะก่อนที่ทั้งคู่จะกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ริชาร์ด ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเอแอลเอส ที่เป็นสาเหตุให้พูดแล้วลิ้นพันกัน ซึ่งเป็นทำให้ทั้งสองคนต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ เหมือนตัวละคร อลิซ ที่แสดงโดย จูเลียนน์ มัวร์ อ่านต่อ»
  • Song One - สก็อตต์ อาเวตต์ จากวง ดิ อาเวตต์ บราเธอร์ส เคยมาทดสอบบท เจมส์ โดย สก็อตต์ เล่าว่า เขาอ่านบทกับ แอนน์ แฮตธาเวย์ ผู้รับบท แฟรนนี ในฉากสะเทือนอารมณ์ และ แอนน์ เริ่มน้ำตาคลอ ตอนนั้นผมรู้สึกว่า โอ้ พระเจ้า เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร และมันก็ชัดเจนเลยว่านี่ไม่ใช่ที่ของผม ซึ่งภายหลังบท เจมส์ นี้ก็ตกเป็นของ จอห์นนี ฟลินน์ อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

ในอดีตการถ่ายภาพคือวาระพิเศษของชีวิต และหลายครั้งมันถูกใช้เพื่อบันทึกภาพสุดท้ายของใครบางคนด้วยหวังว่าจะเก็บภาพนั้นไว้นอ...อ่านต่อ»