1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

อุโมงค์ผาเมือง ปลดปมปริศนาการฆาตกรรมที่ถูกซ่อนเร้น

อุโมงค์ผาเมือง ปลดปมปริศนาการฆาตกรรมที่ถูกซ่อนเร้น

"อุโมงค์ผาเมือง" ภาพยนตร์แนวฆาตกรรมเชิงสืบสวนสอบสวน กำกับและเขียนบทโดย "หม่อมน้อย - หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล" ซึ่งบทภาพยนตร์ถูกดัดแปลงมาจากเรื่อง "ราโชมอน" ที่ "พลตรีหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช" ได้เรียบเรียงจากต้นฉบับที่แต่งโดยนักเขียนชาวญี่ปุ่น "ริวโนะซุเกะ อะคุตะกะวะ" (Ryunosuke Akutagawa) และยังเคยถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อดังฝีมือการกำกับของ "อากิระ คุโรซาว่า" (Akira Kurosawa) มาแล้ว

เรื่องนี้ได้คู่พระนางศิษย์เอกอย่างหนุ่ม "อนันดา เอเวอริงแฮม" มาประกบกับ "พลอย - เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์" แสดงเป็นคู่สามีภรรยาอีกครั้ง หลังจากทั้งคู่เคยได้รับบทบาทในลักษณะเดียวกันจาก "ชั่วฟ้าดินสลาย" จนได้รับรางวัลมาแล้วในหลายๆ เวที นอกจากนั้นยังได้รวบรวมลูกศิษย์ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่อีกหลายๆ คนมาร่วมประชันฝีมือกัน ทั้ง "อ๊อฟ - พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง" "เจี๊ยบ - ศักราช ฤกษ์ธำรงค์" "โอ้ - มาริโอ้ เมาเร่อ" "นิว - ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ท" "ต๊งเหน่ง - รัดเกล้า อามระดิษ" "ดอม เหตระกูล" และ "หม่ำ จ๊กมก" หรือ "เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา"

ภายในงานเปิดตัว อุโมงค์ผาเมือง ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่ผ่านมา ณ โรงภาพยนตร์เอสเอฟเอ็กซ์ ซีเนม่า เซ็นทรัล ลาดพร้าว มีผู้กำกับและนักแสดงนำมาถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับภาพยนตร์ ยกเว้น พลอย ต๊งเหน่ง และ หม่ำ ที่ติดภารกิจไม่สามารถมาร่วมงานได้

หม่อมน้อย บอกถึงความตั้งใจที่จะสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่ตอนนั้นยังไม่ลงตัว จึงนำกลับมาสร้างใหม่เพื่อวาระพิเศษนี้แทน "เคยคิดมาเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว แต่หยุดเอาไว้ แล้วพอคุณเจียง (สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ) ถามว่าอยากทำอะไรไหมปีนี้ ก็เลยคิดว่าปีนี้เนี่ยเรื่องนี้เหมาะในวาระสำคัญ 2 วาระ ปีนี้เป็นปีที่ครบรอบ 40 ปีของสหมงคลฟิล์มฯ นะครับ แล้วก็ครบรอบ 100 ปี ชาตกาลของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เราก็เลยเลือกบทประพันธ์เรื่องนี้ เพื่อมาเฉลิมฉลองวาระสำคัญในครั้งนี้ 2 วาระ"

ผู้กำกับคนเก่งเล่าถึงการทำงานในเรื่องนี้ว่า "ก็ตื่นเต้นดีนะครับ ตื่นเต้นทุกขั้นตอนในการทำภาพยนตร์เรื่องนี้เลย ก็คิดว่าทุกคนน่าจะชอบ เพราะว่าพอได้ดูหนังในก๊อปปี้สุดท้ายแล้วเนี่ยมีหลายรสมากนะครับ ไม่ใช่จะดูยากเย็นอะไรเลย สนุกมาก ตลกดี ทุกคนตั้งใจทำงานกันหมด ครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง ทีมงานทุกๆ คน เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายตั้งใจ แม้กระทั่งตัวคุณเจียง บริษัทเอง ทุกคนก็คาดหวังที่จะให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ตัวแทนของบริษัทครบรอบ 40 ปี และ 100 ปีของคุณคึกฤทธิ์ แล้วตัวผมเองก็ตั้งใจทำเป็นพุทธบูชา เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์, อากิระ คุโรซาว่า แล้วก็ อะคุตะกะวะ คนแต่งเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นเราทำด้วยจิตศรัทธาครับ ไม่ได้คิดว่าจะทำหนังได้รางวัลหรือว่าได้เงิน เราทำเพื่อศรัทธาในพุทธศาสนาจริงๆ"

โอ้ บอกความรู้สึกที่ได้รับเลือกให้มาแสดงเรื่องนี้ว่า "รู้สึกว่าเป็นเกียรติมาก เพราะเป็นบทประพันธ์ที่ทรงคุณค่ามากๆ ที่หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ท่านแปลมาครับ แล้วก็เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกับอาจารย์อย่างหม่อมน้อย แล้วก็ได้ทำงานกับไอดอลผมหลายๆ คน อย่าง อาอ๊อฟ พงษ์พัฒน์ พี่อนันดา และพี่ๆ อีกหลายคนที่เล่นในหนังเรื่องนี้มีแต่รุ่นใหญ่ทั้งนั้นเลย ความรู้สึกโอ้ตื่นเต้นมากๆ เพราะว่าไม่เคยเล่นหนังที่เป็นพีเรียดเลยครับ เป็นเรื่องแรกแล้วก็ต้องมาเล่นเป็นบทพระด้วย ทั้งตื่นเต้นและดีใจที่ได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ครับ"

แม้ว่าจะกลับมาร่วมงานกับสาว พลอย ในบทบาทที่มีความใกล้เคียงกันอีกครั้ง แต่ อนันดา ยืนยันว่าบทของทั้ง 2 เรื่องมีความแตกต่างกัน "บทบาทไม่ได้มีความใกล้เคียงกันเลยครับ อย่าง ชั่วฟ้าฯ ก็คือเป็นหนังรัก อันนี้เป็นหนังฆาตกรรมสืบสวนสอบสวน ก็เป็นคนละฟีล จริงๆ แล้วที่อาจจะคล้ายกับ ชั่วฟ้าฯ ก็คือเล่นเป็นสามีภรรยากัน เป็นหนังคนละม้วนจริงๆ ไม่เหมือนกันเลยครับ" เจ้าตัวยังพูดถึงความยากของบทว่า "จริงๆ ทุกวันที่เข้าถ่ายก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เราเริ่มต้นใหม่สำหรับการแสดง อันนี้ก็เป็นบทที่ค่อนข้างยากหน่อย เพราะว่าอาวุธการแสดงผมถูกจำกัดไปเยอะ คือถูกผูกตัวไว้ ถูกผ้ามัดตัวขยับไม่ได้ ถูกปิดปากพูดไม่ได้ ก็เลยยากเป็นพิเศษ ก็ต้องหาเทคนิคใหม่ๆ กับอาจารย์เพื่อที่จะสื่อสารกับคนดูครับ"

ด้านนักแสดงรุ่นใหญ่ อ๊อฟ เล่าถึงบทบาทที่ได้รับว่า "เล่นเป็นสัปเหร่อ คือ อุโมงค์ผาเมือง เป็นบ้านของผม เป็นบ้านของสัปเหร่อ ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นทุกอย่างจะไปสรุปอยู่ในอุโมงค์ บ้านผมเลยครับ" ส่วน ดอม พูดถึงความแปลกใหม่ของบทบาทที่ได้รับว่า "สำหรับเรื่องนี้ก็รับบทเป็นโจรป่าสิงห์ เป็นโจรโหด ปล้น ฆ่า ข่มขืน ทำหมดทุกอย่างเลย"

อนันดา กล่าวความรู้สึกที่ได้กลับมาร่วมงานกับ หม่อมน้อย อีกครั้งว่า "หม่อมเป็นคนที่กำกับหนังเรื่องแรกของผม อันดากับฟ้าใส ตอนนั้นผมอายุ 13 ตอนนี้ 29 แล้วครับ ผมรู้สึกว่าหม่อมมีความสามารถพิเศษที่จะดึงความสามารถที่ดีที่สุดของนักแสดงออกมาได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมว่าน้อยคนในวงการที่จะทำได้ ทุกครั้งที่ทำงานกับหม่อมก็จะแอบกลัวด้วยแต่ในเวลาเดียวกันก็ดีใจมาก เพราะผมรู้ว่าจะมีคนที่ทั้งผลักทั้งดันให้ผมเป็นนักแสดงที่ดีขึ้น เป็นสุขทุกครั้ง สนุกทุกครั้ง แล้วก็ได้เรียนรู้ทุกครั้งที่ได้ร่วมงาน"

ส่วนนักแสดงที่เพิ่งจะมาร่วมงานกับ หม่อมน้อย เป็นครั้งแรก อย่าง ดอม บอกว่า "เป็นครั้งแรกที่ได้มาร่วมงานกับหม่อมน้อย ประทับใจในเรื่องของศิลปะและศาสตร์ต่างๆ ที่หม่อมน้อยได้เทรนมานะครับ และการได้ร่วมงานกับลูกศิษย์ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใหญ่อย่างพี่อ๊อฟ พี่เจี๊ยบ อนันดา มาริโอ้ น้องนิว ผมถือว่าผมเป็นคนที่ใหม่มากในทีมนี้ทั้งหมด ต้องขยับตัวนิดนึงให้ทันกับเขา แล้วผลที่ออกมาคือเราคิดว่าทุกๆ คนร่วมงานเข้าขากันเร็วดีนะครับ เราก็เลยไม่แปลกใจว่าผลงานเมื่อปีที่แล้วที่ผ่านมา ทำไมถึงประสบความสำเร็จอย่างสูง อบอุ่นมากๆ ที่ได้ร่วมงานด้วยครับ"

ด้าน นิว ที่เพิ่งมาแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกก็เผยถึงการทำงานกับ หม่อมน้อย ว่า "ตอนกำกับก็จะค่อยๆ อธิบายตัวละครให้เราเข้าใจ เพราะหม่อมเคยบอกว่าถ้าเกิดดุไปหรือพูดเสียงดังไป ก็จะทำให้นักแสดงเสียขวัญหรือว่าแสดงออกมาได้ไม่เต็มที่ จะตกใจ ก็จะค่อยๆ อธิบายให้เราเข้าใจ"

เจี๊ยบ พูดถึงฉากและองค์ประกอบศิลป์ในเรื่องว่า "สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้มีฉากที่สวยงามหลายๆ ฉาก อย่างเช่น วัดถ้ำเชียงดาว แต่ผมอยากจะพูดถึงฉากสำคัญคือฉากใหญ่ของภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งผมรับบทเป็นเจ้าหลวง ก็คือสร้างจะเสร็จแล้ว ถึงกำหนดถ่ายทำแล้ว แต่ไม่ทันได้ถ่าย พายุเข้า ก็ 2 วันสำหรับการสร้างให้กลับมาใหม่ ก็ขอขอบคุณฝ่ายฉาก เก่งมากแล้วเวลาเราก็จำกัดด้วย ถ้าไม่ได้ฝ่ายฉาก ฉากสวยๆ งามๆ พวกนี้ก็จะไม่มี"

หม่อมน้อย กล่าวถึงสิ่งที่คนดูจะได้รับหลังจากชมภาพยนตร์ "อย่างน้อยที่สุดคุณก็จะได้รับความบันเทิง คราวนี้ไม่ต้องคิดมาก หนังดูง่ายๆ สบายๆ อย่าไปคิดถึง ราโชมอน หนังญี่ปุ่นเก่าๆ อย่าไปคิดอย่างนั้น อันนี้คือ อุโมงค์ผาเมือง เป็นหนังที่ให้ความบันเทิง มีทุกอย่างมีทั้งตื่นเต้น ตลก ผีๆ ก็มี รวมไปถึงการฆาตกรรมก็มี เป็นหนังที่ดูกันสบายๆ แต่ว่าในตอนจบของเรื่องทุกคนจะได้รับการชำระล้างจิตใจโดยพระมาริโอ้นะครับ"

โอ้ ฝากถึงภาพยนตร์ว่า "โอ้ก็ขอฝากให้ทุกคนได้ไปดูหนังเรื่องนี้ ทุกคนตั้งใจทำงานกันมากๆ ครับ ผมว่าเป็นหนังที่ให้คำสอนและก็มีหลักธรรมหลายๆ อย่างอยู่ในเรื่องสอดแทรกอยู่ ทุกคำพูดของตัวละครมีความหมายหมด อยากให้ทุกคนได้ดูครับ เป็นหนังที่โอ้ภูมิใจมากๆ ครับ ที่ได้เล่นกับหม่อมแล้วก็ได้เล่นพี่ๆ ทุกคน ยังไงก็ฝากด้วย อยากให้ทุกคนได้ดู 8 กันยา ครับ"

ด้าน อ๊อฟ กล่าวว่า "มีภาพยนตร์แค่ไม่กี่เรื่องที่มีทั้งความบันเทิงแล้วก็เป็นปรัชญา และภาพยนตร์ที่ถูกสร้างมาขึ้นมาเป็นพุทธบูชา น้อยเรื่องมากครับ อย่าพลาด" ฟาก อนันดา บอกว่า "ถ้าอยากรู้ว่าความจริงเป็นยังไงนะครับ อย่าพลาดเลย วันที่ 8 กันยา นี้ต้องไปดูกันนะครับ อุโมงค์ผาเมือง" และปิดท้ายที่ หม่อมน้อย พูดว่า "ไม่ต้องซีเรียสนะครับ ตรงไหนหัวเราะได้หัวเราะเลยนะครับ หนังเรื่องนี้จะพลิกคนที่ตลกจะไม่ตลกเลยในหนังเรื่องนี้ และคนที่ไม่ตลกเลยก็จะตลกมากในภาพยนตร์เรื่องนี้ ตรงไหนขำได้หัวเราะเลย ไม่ต้องเกรงใจ"

เมื่อต่างฝ่ายต่างก็ยอมรับสารภาพว่าตนเองเป็นผู้กระทำผิด ไม่เว้นแม้แต่คนที่ตายไปแล้ว ใครคือผู้ที่พูดความจริง ใครโกหก ใครกำลังปิดบังอะไรอยู่ แล้วใครคือผู้ที่ลงมือตัวจริงกันแน่ ต้องติดตามและร่วมคลายเงื่อนงำคดีฆาตกรรมนี้ไปพร้อมๆ กับภาพยนตร์ อุโมงค์ผาเมือง แล้วความจริงจะเริ่มปรากฏตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน นี้ในโรงภาพยนตร์

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15
  • รูปภาพ 16
  • รูปภาพ 17
  • รูปภาพ 18
  • รูปภาพ 19
  • รูปภาพ 20
  • รูปภาพ 21
  • รูปภาพ 22
  • รูปภาพ 23
  • รูปภาพ 24
  • รูปภาพ 25
  • รูปภาพ 26
  • รูปภาพ 27
  • รูปภาพ 28
  • รูปภาพ 29
  • รูปภาพ 30
  • รูปภาพ 31
  • รูปภาพ 32
  • รูปภาพ 33
  • รูปภาพ 34
  • รูปภาพ 35
  • รูปภาพ 36
  • รูปภาพ 37
  • รูปภาพ 38
  • รูปภาพ 39
  • รูปภาพ 40
  • รูปภาพ 41

ความคิดเห็น

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Still Alice - ตอนที่ได้อ่าน Still Alice ฉบับหนังสือครั้งแรก ริชาร์ด แกลตเซอร์ และ วอช เวสต์มอร์แลนด์ ผู้กำกับทั้งสองคนรู้สึกว่าเรื่องราวของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับโรคสมองเสื่อมชนิดเกิดเร็วเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว เพราะก่อนที่ทั้งคู่จะกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ริชาร์ด ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเอแอลเอส ที่เป็นสาเหตุให้พูดแล้วลิ้นพันกัน ซึ่งเป็นทำให้ทั้งสองคนต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ เหมือนตัวละคร อลิซ ที่แสดงโดย จูเลียนน์ มัวร์ อ่านต่อ»
  • Song One - สก็อตต์ อาเวตต์ จากวง ดิ อาเวตต์ บราเธอร์ส เคยมาทดสอบบท เจมส์ โดย สก็อตต์ เล่าว่า เขาอ่านบทกับ แอนน์ แฮตธาเวย์ ผู้รับบท แฟรนนี ในฉากสะเทือนอารมณ์ และ แอนน์ เริ่มน้ำตาคลอ ตอนนั้นผมรู้สึกว่า โอ้ พระเจ้า เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร และมันก็ชัดเจนเลยว่านี่ไม่ใช่ที่ของผม ซึ่งภายหลังบท เจมส์ นี้ก็ตกเป็นของ จอห์นนี ฟลินน์ อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

ในปี 2003 ยุคที่สหรัฐอเมริกาและอังกฤษหาทางก่อสงครามอิรัก เจ้าหน้าที่สำนักข่าวกรองของอังกฤษได้รับอีเมลเป็นเอกสารลับที่เผ...อ่านต่อ»