เปิดตัว รักจัดหนัก ภาพยนตร์สะท้อนสังคมชีวิตรักวัยรุ่น
"รักจัดหนัก" หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า "Love, Not Yet" ผลงานจากค่ายภาพยนตร์น้องใหม่ ออกไปเดิน ในเครือ ไบโอสโคป พลัส นำเสนอเนื้อหาเน้นประเด็นให้คนในสังคมได้ขบคิด โดยแบ่งออกเป็น 3 ตอน คือ "ไปเสม็ด" กำกับโดย "ป้อง - ไพรัช คุ้มวัน" และ "ภาส พัฒนกำจร" ตอน "เป็นแม่ เป็นเมีย" กำกับโดย "อนุชิต มวลพรม" และตอน "ทอมแฮ้ง" กำกับโดย "ชาคร ไชยปรีชา" และ "ทราย - อินทิรา เจริญปุระ" อีกทั้งยังมีตอนพิเศษอีกหนึ่งตอน คือ "ก่อน" เขียนบทและกำกับโดย "เท็น - เมธัส ฉายชยานนท์"
งานเปิดตัว รักจัดหนัก มีขึ้นเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2554 ที่โรงภาพยนตร์ เอสเอฟเอ็กซ์ ซีเนม่า เซ็นทรัล ลาดพร้าว อุ่นหนาฝาคั่งไปด้วยทีมงาน พ่วงด้วยนักแสดงหลักอย่าง "ฟลุ๊ค - ศิครินทร์ ผลยงค์" และ "ปลายฟ้า - ศิตา มหารวิเดชากร" จากตอน ไปเสม็ด "มิวสิค - รัชพล แย้มแสง" และ "ชะเอม - วรรณิศร เลาหมนตรี" ในตอน เป็นแม่เป็นเมีย และ "แพรว - อริสสรา เลอมวณ" และ "ครีม - นภัสสร เอี่ยมเจริญ" จากตอน ทอมแฮ้ง
ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ "หมู - สุภาพ หริมเทพาธิป" หรือที่รู้จักกันในนามของบรรณาธิการบริหารนิตยสารไบโอสโคป ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแนวความคิดในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "เราเคยทำงานกับองค์กรที่ทำเรื่องประเด็นทางสังคม จริงๆ แล้วมันมีตั้งหลายเรื่องที่เราไม่มีโอกาสได้รู้มาก่อนหน้านี้ พอเราไปทำงานแล้วเราเจอประเด็นต่างๆ ที่เรารู้สึกว่าโอ้โหเรื่องนี้มันแบบว่าโคตรจะหนังเลย ถ้าเราคิดอย่างนี้ไปแล้ว ก็น่าที่จะมีมุมในการที่จะนำเสนอเรื่องทำนองนั้น ให้กลายเป็นหนังได้จริงๆ อย่างเรื่องนี้ก็ได้ยินข้อมูลต่างๆ มาจากทางมูลนิธิเรื่องสุขภาพผู้หญิง (มูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง) ว่าเรื่องอย่างนี้ (เรื่องเพศ) ทำไมยังไม่มีใครพูด ถ้าเราหยิบมาพูดมันก็เป็นเรื่องที่ดีนะ เพราะถ้าไม่พูดเราก็ไม่รู้"
หมู กล่าวเสริมว่า "จริงๆ แล้วทุกคนอาจจะผ่านอะไรมาบ้าง แต่ก็ถือว่ามือใหม่ด้วยกันทั้งสิ้น สิ่งที่เราทำก็คือความพยายามที่จะพูดคุยกับคนในสังคมเรา ยกประเด็นที่เราคิดว่า ถ้าเราพูดคุยกันแล้วเนี่ยจะทำให้สังคมเราดีขึ้น เราก็มาคุยกัน จริงๆ แล้วตัวหนังทำหน้าที่ได้ประมาณหนึ่ง แต่ทุกคนสามารถเก็บเอาประสบการณ์ของตัวเอง ที่เกาะเกี่ยวอยู่กับหนังเนี่ย ไปตั้งวงพูดคุยกันต่อ แล้วถ้าเราพูดคุยกันเบื้องต้นเลยนะ ผมว่าสังคมคงจะดีขึ้น"
ถัดมาก็เป็นการพูดคุยกับผู้กำกับภาพยนตร์ เริ่มจากตอน ก่อน ซึ่งไม่ได้มีให้เห็นในตัวอย่างภาพยนตร์เลย ซึ่ง เท็น เล่าให้ฟังว่า "คือจริงๆ แล้วไอเดียนี้มันมาทีหลังครับ จริงๆ แล้วหนัง 3 เรื่องนี่คือถ่ายเสร็จแล้ว แล้วมีไอเดียว่าอยากจะเอาตัวละครทั้ง 3 เรื่อง มาเจอกันในสถานที่เดียวกัน ประมาณนั้นครับ" ส่วน ป้อง ผู้กำกับตอน ไปเสม็ด พูดถึงการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่สนุก เพราะว่าเวลาเราไปถ่ายอะไรที่มันควบคุมลำบาก อย่างเช่นที่ชายทะเลอะไรอย่างนี้ครับ แต่ว่าก็ผ่านไปได้ด้วยดี เพราะว่าน้องๆ ค่อนข้างจะเต็มที่กันด้วย และด้วยความที่ตัวหลักในเรื่องมีช่วงวัยที่พอดีกับน้องๆ ที่เล่นก็เลยคุยกันง่ายครับ"
ฟากผู้กำกับตอน เป็นแม่ เป็นเมีย เล่าว่า "จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เกิดจากโจทย์ที่ให้มาครับ (หัวเราะ) ก็คือโจทย์ที่ได้มาเนี่ย ค่อนข้างเป็นประเด็นทางสังคมครับ แล้วก็เป็นเรื่องที่หนัก เราก็เลยมาคิดต่อยอดว่าจะทำอะไรที่คุยกับวัยรุ่น ก็คือเป็นหนังที่เราอยากให้วัยรุ่นดู และก็เป็นหนังครอบครัว ก็เลยเกิดตัวละครมากมายขึ้นมา และได้เรื่องนี้ขึ้นมา"
ส่วนจุดเริ่มต้นในตอน ทอมแฮ้ง คือ "พอได้รับโจทย์ปุ๊บ ไอเดียเรื่องน้องทอมเป็นไอเดียจากพี่ทรายว่าจะเป็นยังไงถ้าเกิดวันดีคืนดี ทอมที่ชอบผู้หญิงเกิดไปพลาดกับน้องผู้ชาย" ชาคร กล่าว และถึงแม้ว่าผู้กำกับ ทราย จะได้ไม่มาร่วมงาน แต่ก็มีภาพวีทีอาร์มาบอกเล่าถึงการกำกับเรื่องนี้ด้วย "การเข้ามากำกับเนี่ย ตอนแรกเราก็มีความกังวลว่าเออเราจะทำได้ไหม แต่จริงๆ แล้ว ความยากคือการต้องรวบรวมความกล้าและเดินไปบอกใครสักคนว่า อันนี้ไม่เอา ที่เล่นอย่างนี้ไม่เอา ไฟอันนี้ไม่เอา มุมกล้องอันนี้ไม่เอา คือการพูดว่า ไม่ มันยากจริงๆ ทำให้เรารู้แล้วว่ามันเครียด หลังจากนี้เราจะไม่ทำอะไรกับใครอีก (หัวเราะ) ก็เรียกว่าเป็นการรับรู้ความรู้สึกของอีกฝั่งบ้าง หลังจากที่เอาแต่ใจตัวเองมานานแล้ว ก็ถือว่าหนักที่สุดแล้วค่ะ"
หลังจากนั้นก็คั่นรายการด้วยการแสดงเพลงประกอบภาพยนตร์ "ข้างๆ กัน" ที่ร้องโดย มิวสิค ซึ่งก็ได้วง "ปัจฉิมลิขิต" ที่รับหน้าที่แต่งเนื้อร้อง ทำนอง และเรียบเรียงมาเล่นดนตรีให้อีกด้วย เมื่อการแสดงจบลง การพูดคุยกับนักแสดงนำก็เริ่มต้นขึ้น
ฟลุ๊ค บอกความรู้สึกที่ได้มาแสดงในตอน ไปเสม็ด ว่า "ก็รู้สึกดีนะครับ เพราะว่ามันเป็นหนังที่สะท้อนสังคม ไม่เหมือนหนังวัยรุ่นอื่นๆ รู้สึกขอบคุณพี่หมูที่ให้โอกาส ขอบคุณ พี่ป้อง พี่ภาส นะครับที่เลือกให้มาเล่น ก็พอได้มาเล่นก็ไม่ผิดหวัง พอถึงวันนี้ก็ยังรู้สึกดี แฮปปี้มากครับ จริงๆ แล้วตอนถ่ายตอนแรก พูดตามตรงก็คือไม่คิดว่าจะประสบผลสำเร็จขนาดนี้ พอมาถึงจุดๆ นี้ปุ๊บ เราก็รู้สึกดีใจกันทุกคน เพราะทุกคนก็ต่างตั้งใจกันเต็มที่ครับ ทั้งผู้กำกับและนักแสดงเองด้วย" ด้าน ปลายฟ้า ได้กล่าวขอบคุณเพื่อนนักแสดงอย่าง ฟลุ๊ค และเผยความรู้สึกว่า "ดีใจค่ะได้เล่นหนังเรื่องนี้ ก็ตื่นเต้นค่ะ"
ชะเอม ได้พูดถึงตอน เป็นแม่เป็นเมีย ว่า "ต้องไปดูเอาค่ะ ว่าเป็นแม่หรือเป็นเมีย" และ มิวสิค ได้พูดขำๆ ปนแซวว่า "ก็มีมิวสิคกับชะเอมครับ มิวเล่นเป็นม่อนครับ ชะเอมเล่นเป็นอิ๋ง ก็จะเป็นหนังนักเรียนที่ยังไม่จบม.6 แต่จริงๆ จบปีหกแล้ว (หัวเราะ)"
แพรว เล่าถึงตอน ทอมแฮ้ง ว่า "เล่นเป็นนัทค่ะ จริงๆ แล้วก็อย่างที่เห็นค่ะ ไม่ได้เป็นทอมค่ะ (ยิ้ม)" ส่วน ครีม พูดเสริมว่า "มันก็เหมือนกับทุกๆ โรงเรียน มันก็มีทอมใช่ไหมค่ะ หนูก็เป็นเพื่อนทอม แล้วแบบเล่นบาสเป็นนักกีฬาบาสโรงเรียน แล้วที่นี้แบบปิดเทอมก็ไปกินเหล้าอะไรอย่างนี้กัน แล้วก็แบบมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น" ซึ่ง แพรว ได้ฝากผลงานว่า "ก็คือตอนนี้ไม่ใช่เป็นทอมเท่านั้นถึงจะดูได้นะคะ เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่แบบวัยรุ่นทั่วไปหรือว่าคนทำงานแล้ว คือเงินเดือนออกไปฉลอง ปิดเทอมไปฉลอง ยังไงทุกคนก็ต้องไปฉลองกัน ถ้าได้ไปฉลองก็ดูเรื่องนี้รู้เรื่องค่ะ"
มิวสิค พูดถึงตอนที่ตัวเองแสดงไว้ว่า "ก็สำหรับ เป็นแม่เป็นเมีย นะครับ หลายคนอาจจะงงว่าเป็นแม่เป็นเมียคืออะไรชื่องงๆ จริงๆ แล้วคือผู้หญิงคนนึงเนี่ย อยู่ในสถานะทั้งแม่และทั้งเมียในเวลาเดียวกัน เธอจะเจอความลำบากอะไรบ้างนะครับ แสนเข็ญขนาดไหน และก็จัดหนักเหมือนที่ได้ดูในทีเซอร์ (หัวเราะ) ยังไงก็เต็มๆ แน่นอนครับ ในโรงครับผม"
ส่วน ฟลุ๊ค ฝากทิ้งท้ายว่า "ก็ฝากรักจัดหนักตอนไปเสม็ดด้วยนะครับ เป็นตอนที่ว่าด้วยเรื่องของการที่วัยรุ่นไปเสม็ดครับ ก็ไปเล่นทะเล แล้วก็ตามชื่อเล่าของเกาะเนี่ย เวลาไปเสม็ดมันต้องมี จุด จุด จุด ก็ไปต่อกันเอาเองแต่ว่าในหนังมันจะเป็นยังไง ไปเสม็ดแล้วเราจะเกิดอะไรขึ้น ก็ติดตามกันในโรงละกัน"
รักจัดเต็ม จะคุยกับวัยรุ่นด้วยลีลาและภาษาของคนรุ่นเดียวกันมากน้อยแค่ไหน พิสูจน์ได้ในโรงภาพยนตร์ วันที่ 1 กันยายน นี้เป็นต้นไป