ประกาศแล้วผลรางวัล แกรมมี อวอร์ดส์ ครั้งที่ 57
งานประกาศรางวัลทางดนตรีสุดยิ่งใหญ่ "แกรมมี อวอร์ดส์" (Grammy Awards) ครั้งที่ 57 ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อค่ำวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ตามเวลาของลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา อันเป็นสถานที่จัดงานมอบรางวัลถึง 83 สาขาให้แก่เหล่าศิลปินและคนวงการดนตรี และเป็นปีที่ 4 แล้วที่นักร้องแร็ป "แอลแอล คูล เจ" (LL Cool J) มารับหน้าที่พิธีกรหลักประจำงาน
เรียกได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า "แซม สมิธ" (Sam Smith) เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งปี หลังศิลปินหน้าใหม่ชาวอังกฤษคนนี้กวาดรางวัลใหญ่ๆ ไปได้ถึง 4 รางวัล ทั้งรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม เพลงแห่งปี และบันทึกเสียงยอดเยี่ยมแห่งปีจากเพลง "Stay With Me" ส่วนผลงานเต็มชุด "In The Lonely Hour" ยังส่งให้ แซม เป็นเจ้าของรางวัลอัลบั้มเพลงป๊อปยอดเยี่ยมไปอีก แซม เผยว่า "ผมแค่อยากบอกว่าก่อนที่จะทำอัลบั้มนี้ ผมพยายามทุกวิถีทางให้คนหันมาฟังเพลงของผมครับ ผมเคยลองลดน้ำหนัก ลองทำเพลงแย่ๆ แต่ก็ยังไม่มีใครฟังเพลงของผมอยู่ดี จนกระทั่งผมเริ่มเป็นตัวของตัวเองนั่นแหละครับ ที่ผู้คนเริ่มหันมาฟังเพลงของผม"
ส่วนรางวัลอัลบั้มแห่งปีตกเป็นของศิลปินร็อก "เบก" (Beck) จากผลงานชุด "Morning Phase" ซึ่งควบรางวัลอัลบั้มเพลงร็อกยอดเยี่ยมไปอีกหนึ่งรางวัล ขณะที่ เบก ขึ้นรับรางวัลอัลบั้มแห่งปีนั่นเอง หนุ่ม "คานเย เวสต์" (Kanye West) ก็สร้างความระทึกให้ผู้ชม โดยการเดินตาม เบก ขึ้นไปบนเวที ทำท่าเหมือนจะซ้ำรอยเหตุการณ์เมื่อปี 2009 ที่เขากระโดดขึ้นเวทีเพื่อประกาศว่า "บียอนเซ โนวล์ส" (Beyonce Knowles) สมควรชนะรางวัลมากกว่า "เทย์เลอร์ สวิฟต์" (Taylor Swift) แต่ผู้ชมก็โล่งใจเมื่อรู้ว่า คานเย แค่ล้อเล่นเท่านั้น เบก จึงมีโอกาสกล่าวขอบคุณว่า "เราทำเพลงส่วนมากในอัลบั้มนี้ที่บ้านของผมครับ เพราะฉะนั้นผมจึงอยากขอบคุณลูกๆ ของผมที่ยอมให้ผมทำให้พวกเขาต้องตื่นนานกว่าปกติครับ"
ด้าน บียอนเซ ที่ปีนี้ได้เข้าชิงสูงสุด 6 สาขาเท่ากับ แซม ก็พารางวัลกลับบ้าน 3 รางวัล โดยเพลง "Drunk In Love" ที่ร่วมร้องโดย "เจย์-ซี" (Jay-Z) ควบรางวัลเพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม และการแสดงเพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม ส่วนผลงานชุด "Beyonce" ก็รั้งรางวัลอัลบั้มเพลงระบบเสียงรอบทิศทางยอดเยี่ยมไว้ได้ บียอนเซ เอ่ยว่า "เป็นเกียรติมากเลยค่ะ ขอบคุณพระเจ้า เป็นปีที่วิเศษมากค่ะ ฉันรักทุกคนนะคะ ฉันอยากขอบคุณสามีที่รักของฉัน ฉันรักคุณมากค่ะ ส่วนลูกสาวที่กำลังดูอยู่ บลู (Blue Ivy Carter) แม่รักลูกนะจ๊ะ และฉันอยากขอบคุณเหล่า บีไฮฟ์ (BeyHive ชื่อกลุ่มแฟนเพลงของ บียอนเซ) ด้วยค่ะ"
สำหรับ "ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์" (Pharrell Williams) ก็มีค่ำคืนที่แสนสุขไม่แพ้ศิลปินคนไหน เมื่อเพลง "Happy" ส่งให้เขาคว้าสองรางวัล ทั้งการแสดงเพลงป๊อปยอดเยี่ยมจากศิลปินเดี่ยว และมิวสิกวิดีโอขนาดสั้นยอดเยี่ยม รวมถึงรางวัลอัลบั้มเพลงเออร์เบินร่วมสมัยยอดเยี่ยมจากผลงานชุด "Girl" โดย ฟาร์เรลล์ ไม่ได้เตรียมตัวมาชนะรางวัล จึงพูดสั้นมากขณะรับรางวัล "นี่เป็นช่วงเวลาที่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงสุดๆ แล้วครับ ผมอยากจะมูนวอล์กลงจากเวทีเดี๋ยวนี้เลย" ฟากนักร้องแร็ป "เอมิเนม" (Eminem) ไม่ได้กลับบ้านมือเปล่า พกเอารางวัลเพลงแร็ปยอดเยี่ยมจากการร่วมงานของศิลปินในเพลง "The Monster" ที่ร่วมงานกับ "ริอานนา" (Rihanna) และรางวัลอัลบั้มเพลงแร็ปยอดเยี่ยมจากผลงานชุด "The Marshall Mathers LP2"
เช่นเคยที่เวทีจะลุกเป็นไฟด้วยการแสดงดนตรีจากหลายศิลปิน อาทิ รุ่นใหญ่อย่าง "มาดอนนา" (Madonna) ที่มาพร้อมกับเพลงใหม่ "Living for Love" จากอัลบั้ม "Rebel Heart" ด้าน "มิแรนดา แลมเบิร์ต" (Miranda Lambert) เจ้าของอัลบั้มเพลงคันทรียอดเยี่ยม ก็มาในเพลง "Little Red Wagon" ขณะที่ "จอห์น เลเจนด์" (John Legend) และ "คอมมอน" (Common) รวมพลังส่งเพลง "Glory" ทาง "เซีย เฟอร์เลอร์" (Sia Furler) ก็เขย่าเวทีด้วยเพลง "Chandelier" และสองครูฝึกจาก เดอะวอยซ์ "เกวน สเตฟานี" (Gwen Stefani) กับ "อดัม เลอวีน" (Adam Levine) ครองเวทีแสดงเพลง "My Heart Is Open"
สรุปรางวัลสำคัญ Grammy Awards 2015
- บันทึกเสียงยอดเยี่ยมแห่งปี: Stay With Me จาก Sam Smith
- อัลบั้มแห่งปี: Morning Phase จาก Beck
- เพลงแห่งปี: Stay With Me จาก Sam Smith แต่งโดย James Napier, William Phillips และ Sam Smith
- ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม: Sam Smith
- การแสดงเพลงป๊อปยอดเยี่ยมจากศิลปินเดี่ยว: Happy จาก Pharrell Williams
- การแสดงเพลงป๊อปยอดเยี่ยมจากศิลปินคู่หรือกลุ่ม: Say Something จาก A Great Big World ร่วมร้องโดย Christina Aguilera
- อัลบั้มเพลงป๊อปยอดเยี่ยม: In The Lonely Hour จาก Sam Smith
- อัลบั้มเพลงป๊อปดั้งเดิมยอดเยี่ยม: Cheek To Cheek จาก Tony Bennett และ Lady Gaga
- เพลงแดนซ์ยอดเยี่ยม: Rather Be จาก Clean Bandit ร่วมร้องโดย Jess Glynne
- อัลบั้มเพลงอิเล็กทรอนิกหรือแดนซ์ยอดเยี่ยม: Syro จาก Aphex Twin
- การแสดงเพลงฮาร์ดร็อกหรือเมทัลยอดเยี่ยม: The Last In Line จาก Tenacious D
- การแสดงเพลงร็อกยอดเยี่ยม: Lazaretto จาก Jack White
- เพลงร็อกยอดเยี่ยม: Ain't It Fun จาก Paramore แต่งโดย Hayley Williams และ Taylor York
- อัลบั้มเพลงร็อกยอดเยี่ยม: Morning Phase จาก Beck
- อัลบั้มเพลงอัลเทอร์เนทีฟยอดเยี่ยม: St. Vincent จาก St. Vincent
- การแสดงเพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม: Drunk In Love จาก Beyonce ร่วมร้องโดย Jay-Z
- การแสดงเพลงอาร์แอนด์บีแบบดั้งเดิมยอดเยี่ยม: Jesus Children จาก Robert Glasper Experiment ร่วมร้องโดย Lalah Hathaway & Malcolm-Jamal Warner
- เพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม: Drunk In Love จาก Beyonce ร่วมร้องโดย Jay-Z แต่งโดย Shawn Carter, Rasool Diaz, Noel Fisher, Jerome Harmon, Beyonce Knowles, Timothy Mosely, Andre Eric Proctor และ Brian Soko
- อัลบั้มเพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม: Love, Marriage & Divorce จาก Toni Braxton & Babyface
- อัลบั้มเพลงเออร์เบินร่วมสมัยยอดเยี่ยม: Girl จาก Pharrell Williams
- การแสดงเพลงแร็ปยอดเยี่ยม: I จาก Kendrick Lamar
- เพลงแร็ปยอดเยี่ยมจากการร่วมงานของศิลปิน: The Monster จาก Eminem ร่วมร้องโดย Rihanna
- เพลงแร็ปยอดเยี่ยม: I จาก Kendrick Lamar แต่งโดย K. Duckworth & C. Smith
- อัลบั้มเพลงแร็ปยอดเยี่ยม: The Marshall Mathers LP2 จาก Eminem
- การแสดงเพลงคันทรียอดเยี่ยมจากศิลปินเดี่ยว: Something In The Water จาก Carrie Underwood
- การแสดงเพลงคันทรียอดเยี่ยมจากศิลปินคู่หรือกลุ่ม: Gentle On My Mind จาก The Band Perry
- เพลงคันทรียอดเยี่ยม: I'm Not Gonna Miss You จาก Glen Campbell แต่งโดย Glen Campbell และ Julian Raymond
- อัลบั้มเพลงคันทรียอดเยี่ยม: Platinum จาก Miranda Lambert
- อัลบั้มเพลงแจ๊ซยอดเยี่ยม: Beautiful Life จาก Dianne Reeves
- อัลบั้มเพลงแจ๊ซบรรเลงยอดเยี่ยม: Trilogy จาก Chick Corea Trio
- อัลบั้มเพลงแจ๊ซที่รวมตัวศิลปินเยี่ยม: Life In The Bubble จาก Gordon Goodwin's Big Phat Band
- เพลงแจ๊ซเดี่ยวยอดเยี่ยม: Fingerprints จาก Chick Corea
- อัลบั้มเพลงลาตินแจ๊ซยอดเยี่ยม: The Offense Of The Drum จาก Arturo O'Farrill & The Afro Latin Jazz Orchestra
- อัลบั้มเพลงบลูส์ยอดเยี่ยม: Step Back จาก Johnny Winter
- อัลบั้มเพลงโฟล์กยอดเยี่ยม: Remedy จาก Old Crow Medicine Show
- อัลบั้มเพลงเรกเก้ยอดเยี่ยม: Fly Rasta จาก Ziggy Marley
- อัลบั้มเพลงลาตินป๊อปยอดเยี่ยม: Tangos จาก Ruben Blades
- อัลบั้มเพลงนิวเอจยอดเยี่ยม: Winds Of Samsara จาก Ricky Kej & Wouter Kellerman
- อัลบั้มเพลงระบบเสียงรอบทิศทางยอดเยี่ยม: Beyonce จาก Beyonce
- ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม: The Grand Budapest Hotel แต่งโดย Alexandre Desplat
- โปรดิวเซอร์แห่งปี: Max Martin
- มิวสิกวิดีโอขนาดสั้นยอดเยี่ยม: Happy จาก Pharrell Williams
- มิวสิกวิดีโอขนาดยาวยอดเยี่ยม: 20 Feet From Stardom จาก Darlene Love, Merry Clayton, Lisa Fischer และ Judith Hill