ผลรางวัลทางดนตรี ลาติน แกรมมี อวอร์ดส์ ครั้งที่ 12
ผ่านไปอีกหนึ่งงานมอบรางวัลของคนดนตรี "ลาติน แกรมมี อวอร์ดส์" (Latin Grammy Awards) ครั้งที่ 12 ซึ่งปีนี้จัดตรงกับวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตามเวลาที่ มันดาเลย์ เบย์ อีเวนต์ส เซ็นเตอร์ ในลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยครั้งนี้ไม่มีใครแซงหน้าไปมากกว่าสองหนุ่มฮิปฮอปจากเปอโตริโก "กาเย เตรเซ" เพราะปีนี้พวกเขาคือผู้กวาดรางวัลสูงสุดในงานไปถึง 9 รางวัลด้วยกัน ซึ่งรวมไปถึงรางวัลน่าภาคภูมิอย่างรางวัลแผ่นเสียงแห่งปีกับเพลงแห่งปีจากเพลง "Latinoamerica" และรางวัลอัลบั้มแห่งปีจากอัลบั้ม "Entren Los Que Quieran"
"มันคือชัยชนะเพื่อดนตรีและศิลปะครับ" หนึ่งในตัวแทนของวง "เรเน เปเรซ" เป็นผู้กล่าวขณะรับรางวัล โดยภายในอัลบั้ม Entren Los Que Quieran มีเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมือง ซึ่งพวกเขาร้องแร็ปวิจารณ์รัฐบาล ใช้ถ้อยคำรุนแรงถึงทำเนียบขาวและวาติกัน ขณะที่ชี้ให้เห็นถึงความสนุกสนานของวัฒนธรรมแบบลาตินและความยากดีมีจนในสังคมด้วย โดย เรเน เผยว่า "สำหรับผมแล้วนี่ถือเป็นของขวัญที่ผมจะมอบให้ทุกคน เพื่อที่จะได้รู้สึกภูมิใจกับรากเหง้าของบ้านเกิดของพวกเขาเองครับ"
แม้แต่นักร้องสาว "ชากีรา" เจ้าของผลงานอัลบั้ม "Sale El Sol" ที่ได้รับรางวัลอัลบั้มของศิลปินหญิงแนวป๊อปยอดเยี่ยมในปีนี้ ยังได้กล่าวชื่นชมถึงเอกลักษณ์เฉพาะของกลุ่ม กาเย เตรเซ ด้วยว่า "ด้วยน้ำเสียงและดนตรีของพวกเขา สามารถรักษาความเจ็บปวดของพวกเรา และยังทำให้เราลืมความโศกเศร้าไปได้ด้วยค่ะ" นอกเหนือจากหนึ่งรางวัลกับอัลบั้มของเธอนั้น ในครั้งนี้ ชากีรา ยังได้รับรางวัลศิลปินแห่งปีไปครอง ทำให้เธอเป็นนักร้องที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ซึ่งนักร้องสาวได้กล่าวขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ของเธอที่นั่งอยู่ท่ามกลางผู้ชม โดยอ้างอิงถึงพระคัมภีร์และพูดว่า "ไร้ซึ่งรัก ทุกอย่างก็คงสูญค่า ปราศจากรัก ฉันเองก็คงไร้ความหมาย"
ส่วนทางด้านนักร้องหนุ่ม "ซีเอเต" ชาวเปอโตริโกอีกรายที่ได้รับรางวัลจากเวทีดนตรีนี้ โดยคว้ารางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมไปครอง อีกทั้งยังกล่าวถึงศิลปินบ้านเดียวกันอย่าง กาเย เตรเซ ในฐานะผู้เป็นแรงบันดาลใจต่อผลงานของตัวเขาเอง ก่อนจะตะโกนด้วยความภูมิใจเมื่อขึ้นรับรางวัลว่า "อีกหนึ่งรางวัลสำหรับเปอโตริโกครับ"
สำหรับผู้ชนะรางวัลที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ "มานา" ที่ได้รับรางวัลอัลบั้มของวงหรือศิลปินคู่แนวร็อกยอดเยี่ยม จากอัลบั้ม "Drama Y Luz" พร้อมทั้งรางวัลเพลงร็อกยอดเยี่ยมจากเพลง "Labios Rotos" ขณะที่รางวัลอัลบั้มทรอปิคัลร่วมสมัยยอดเยี่ยมตกเป็นของ "ตีโต เอล แบมบีโน" กับผลงานอัลบั้ม "Invencible" ส่วน "ฟรังโก เดอ วีตา" ก็คว้ารางวัลมิวสิกวิดีโอที่มีมากกว่า 1 เพลงยอดเยี่ยม และรางวัลอัลบั้มของศิลปินชายแนวป๊อปยอดเยี่ยมจากอัลบั้ม "En Primera Fila" กลับบ้านไป ซึ่งเขาแอบหยอดมุกใส่ กาเย เตรเซ ผู้หอบหิ้วรางวัลไปมากมายไว้ด้วยว่า "โชคดีที่พวกเขาไม่ได้เข้าชิงในสาขานี้" เรียกได้ว่าปีนี้เป็นปีทองสำหรับ กาเย เตรเซ จริงๆ
ตัวอย่างผลรางวัล Latin Grammy Awards ประจำปี 2011
- แผ่นเสียงแห่งปี: Latinoamerica จาก กาเย เตรเซ (Calle 13)
- อัลบั้มแห่งปี: Entren Los Que Quieran จาก กาเย เตรเซ (Calle 13)
- เพลงแห่งปี: Latinoamerica จาก กาเย เตรเซ (Calle 13)
- ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม: ซีเอเต (Sie7e)
- อัลบั้มของศิลปินหญิงแนวป๊อปยอดเยี่ยม: Sale El Sol จาก ชากีรา (Shakira)
- อัลบั้มของศิลปินชายแนวป๊อปยอดเยี่ยม: En Primera Fila จาก ฟรังโก เดอ วีตา (Franco De Vita)
- อัลบั้มของวงหรือศิลปินคู่แนวป๊อปยอดเยี่ยม: Alex, Jorge Y Lena จาก อเล็กซ์ ฮอร์เฮ เลนา (Alex, Jorge Y Lena) ประกอบด้วย อเล็กซ์ อูบาโก (Alex Ubago) ฮอร์เฮ วิลลามิซาร์ (Jorge Villamizar) และ เลนา บูเก (Lena Burke)
- อัลบั้มเออร์เบินยอดเยี่ยม: Entren Los Que Quieran จาก กาเย เตรเซ (Calle 13)
- เพลงเออร์เบินยอดเยี่ยม: Baile De Los Pobres จาก ราฟา อราเกาเต (Rafa Arcaute) และ กาเย เตรเซ (Calle 13)
- อัลบั้มของวงหรือศิลปินคู่แนวร็อกยอดเยี่ยม: Drama Y Luz จาก มานา (Mana)
- เพลงร็อกยอดเยี่ยม: Labios Rotos จาก โซเอ (Zoe)
- อัลบั้มอัลเทอร์เนทีฟยอดเยี่ยม: Musica De Fondo: MTV Unplugged จาก โซเอ (Zoe)
- เพลงอัลเทอร์เนทีฟยอดเยี่ยม: Calma Pueblo จาก ราฟา อราเกาเต (Rafa Arcaute) และ กาเย เตรเซ (Calle 13)
- อัลบั้มซัลซายอดเยี่ยม: Todos Vuelven Live Vol. 1 y 2 จาก รูเบน เบลดส์ (Ruben Blades) และ เซส เดล โซลาร์ (Seis Del Solar)
- อัลบั้มทรอปิคัลร่วมสมัยยอดเยี่ยม: Invencible จาก ตีโต เอล แบมบีโน (Tito El Bambino)
- อัลบั้มทรอปิคัลแบบดั้งเดิมยอดเยี่ยม: The Last Mambo จาก คาโช (Cachao)
- เพลงทรอปิคัลยอดเยี่ยม: Vamo' A Portarnos Mal จาก กาเย เตรเซ (Calle 13)
- อัลบั้มของนักร้องนักแต่งเพลงยอดเยี่ยม: Sesiones Intimas จาก อะเมารี อูเตียเรซ (Amaury Gutierrez) กับ Dias Nuevos จาก จีอาน มาร์โก (Gian Marco)
- อัลบั้มโฟล์กยอดเยี่ยม: Deja La Vida Volar - En Gira จาก เเมร์เซเดส โซซา (Mercedes Sosa)
- อัลบั้มแทงโกยอดเยี่ยม: Cigala & Tango จาก ดิเอโก เอล ซิกาลา (Diego El Cigala)
- อัลบั้มฟลาเมนโกยอดเยี่ยม: La Orilla De Mi Pelo จาก นิยา พาสโตรี (Nina Pastori)
- อัลบั้มลาตินแจ๊ซยอดเยี่ยม: Panamericana Suite จาก พากีโต ดา'รีเวรา (Paquito D'Rivera)
- อัลบั้มคริสเตียนภาษาสเปนยอดเยี่ยม: Lenguaje De Amor จาก อเล็กซ์ แคมโพส (Alex Campos)
- อัลบั้มคริสเตียนภาษาโปรตุเกสยอดเยี่ยม: Extraordinario Amor De Deus จาก อาลีเน บาร์รอส (Aline Barros)
- อัลบั้มป๊อปร่วมสมัยจากบราซิลยอดเยี่ยม: Quinze จาก จอตา เควส (Jota Quest)
- อัลบั้มร็อกจากบราซิลยอดเยี่ยม: Zii e Zie - Ao Vivo จาก ไกตาโน เวโลโซ (Caetano Veloso)
- เพลงบราซิลภาษาโปรตุเกสยอดเยี่ยม: De Repente จาก นานโด เฮย์ส (Nando Reis) และ ซามูเอล ฮอซา (Samuel Rosa)
- อัลบั้มลาตินสำหรับเด็กยอดเยี่ยม: Musica De Brinquedo จาก พาโต ฟู (Pato Fu)
- อัลบั้มดนตรีคลาสสิกยอดเยี่ยม: Brazilian Guitar Quartet Plays Villa-Lobos จาก บราซิลเลียน กีตาร์ ควอร์เท็ต (Brazilian Guitar Quartet)
- เพลงคลาสสิกร่วมสมัยยอดเยี่ยม: Panamericana Suite จาก พากีโต ดา'รีเวรา (Paquito D'Rivera)
- อัลบั้มดนตรีบรรเลงยอดเยี่ยม: Forever จาก ชิก โคเรีย (Chick Corea) สแตนลีย์ คลาร์ก (Stanley Clarke) และ เลนนี ไวต์ (Lenny White)
- หีบห่อแผ่นเสียงยอดเยี่ยม: Chico & Rita จาก ฮาเวียร์ มาริสกัล (Javier Mariscal)
- อัลบั้มที่บันทึกและตกแต่งเสียงยอดเยี่ยม: Drama Y Luz จาก เบนนี แฟ็กโคน (Benny Faccone) และ ธอม รุสโซ (Thom Russo)
- โปรดิวเซอร์แห่งปี: กาเย เตรเซ (Calle 13) และ ราฟา อราเกาเต (Rafa Arcaute)
- มิวสิกวิดีโอยอดเยี่ยม : Calma Pueblo จาก กาเย เตรเซ (Calle 13)
- มิวสิกวิดีโอขนาดยาวยอดเยี่ยม: En Primera Fila จาก ฟรังโก เด วีตา (Franco De Vita)
- ศิลปินแห่งปี: ชากีรา (Shakira)