คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของคู่พี่น้องขวัญใจวัยรุ่น กอล์ฟ-ไมค์

"กอล์ฟ - พิชญะ นิธิไพศาลกุล" และ "ไมค์ - พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล" สองพี่น้องที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากผลงานเพลงชุดแรก "กอล์ฟ-ไมค์" (Golf-Mike) จนกลายเป็นขวัญใจวัยรุ่นภายในเวลาไม่นาน และเพื่อตอบรับกระแสความแรงนี้ทำให้พวกเขาได้มีคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรก "Golf - Mike Let's Bounce Concert" (กอล์ฟ - ไมค์ เล็ทส์ เบาซ์ คอนเสิร์ต) ที่ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา

เริ่มต้นคอนเสิร์ตด้วยการเปิดตัวแบบพิเศษของสองหนุ่มกับการโหนสลิง ที่ค่อยๆ หย่อนลงมาจากด้านบนของฮอลล์ กับเพลงแรก "เบาซ์" (Bounce) ที่ชวนให้แฟนๆ ทุกคนเต้นตามไปด้วย นอกจากจะร้องและเต้นแล้ว ทั้ง กอล์ฟ และ ไมค์ ยังโชว์ลีลาการชู้ตบาสลงห่วงที่ตั้งอยู่ริมสองข้างของเวทีได้แม่นเหมือนจับวาง จนคนดูกรี๊ดกันทั้งฮอลล์

พี่น้องคู่นี้ยังคงไม่ปล่อยให้แฟนๆ ได้พัก กับเพลงที่ยังเต้นได้ต่อเนื่องใน "หัวใจจะวาย" ต่อด้วยเพลงที่แฟนๆ ร้องตามกันอย่างเสียงดัง "เรื่องเล็กของเธอ" และ "วี อาร์ บราเธอร์" (We are Brother) ที่หลังจบช่วงนี้ ก็เป็นการแสดงความสามารถพิเศษ ที่เริ่มด้วยการโชว์ตีกลอง ที่พวกเขาผลัดกันตีอยู่ที่คนละฟากของเวที เหมือนกับเป็นการดวลของทั้งคู่นั่นเอง รวมถึงยังมีการโชว์ท่าเต้นในแบบเดี่ยวและแบบกลุ่มอีกด้วย

มาถึงการร้องเพลงเดี่ยวของแต่ละคนบ้าง ไมค์ที่อยู่คนเดียวบนเวทีกับเพลงช้าซึ้งอย่าง "ตลกดี" ซึ่งเมื่อจบเพลงไฟบนเวทีได้ดับลง ขณะที่เสียงเพลงและแสงไฟกลับเริ่มต้นขึ้นตรงด้านหลังของฮอลล์แทน ซึ่งเป็นเวทีฝั่งตรงข้ามที่ กอล์ฟ ยืนอยู่ พร้อมร้องเพลง "อย่าเล่นแบบนี้" หลังจากนั้นก็ถึงเวลาของเพลงพิเศษที่ทั้งสองคนร่วมกันร้องเพื่อสื่อถึงความเป็นพี่น้อง "คนคนเดียวกัน" ที่แต่งมาเพื่อคอนเสิร์ตครั้งนี้โดยเฉพาะนั่นเอง

ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยกับการเปิดตัวแขกรับเชิญพิเศษ ด้วยคำพูดที่เจ้าของคอนเสิร์ตกล่าวขึ้นว่า "พวกเราเคยสัญญาเอาไว้ว่าจะมีแขกรับเชิญพิเศษ ซึ่งจะเป็นใครนั้น ไปชมกันเลยครับ" แม้แขกรับเชิญพิเศษ "คัตตุน" (Kat-Tun) จะไม่ได้ปรากฏตัวบนเวทีจริงๆ มาแบบเป็นวีทีอาร์แทน แต่ก็เรียกเสียงกรี๊ดจากคนดูได้ดังสนั่นฮอลล์

ข้อความของทั้ง 6 หนุ่มฝากผ่านหน้าจอมาว่า "คนไทยสบายดีมั้ย คอนเสิร์ตวันนี้สนุกรึเปล่า สำหรับคอนเสิร์ตครั้งแรกถือว่าคือก้าวแรก ขอให้พยายามและทำให้ดีที่สุด และขอให้คนดูทุกคนสนุกกันแบบสุดๆ ไปเลย ส่วนพวกเราก็เคยมีคอนเสิร์ตที่ไทย เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก็อยากไปเมืองไทยอีกครั้ง หวังว่าคงจะมีโอกาสได้ไปอีก"

ส่วนวีทีอาร์จากศิลปินกลุ่มที่สอง "ทักกี้ และ ซึบาสะ" (Tackey & Tsubasa) ที่มีคำพูดฝากมาว่า "พวกเราเคยไปแสดงคอนเสิร์ตที่ไทยมาแล้ว ส่วนอัลบั้มของเรา วีนัส (Venus) ก็เพิ่งวางไป ดีใจที่ทุกคนร้องกันได้ ขอให้ติดตามอัลบั้มนี้ด้วย หวังว่าพวกเราจะได้ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยนะครับ สำหรับจูเนียร์ไทยแลนด์ ซึ่งเป็นเพื่อนกัน ก็ขอให้พยายามนะ"

นอกจากจะมีข้อความส่งตรงถึงเมืองไทยแล้ว ทักกี้ ซึบาสะ ยังมีวีทีอาร์น่ารักๆ ที่สอนท่าเต้นในเพลงวีนัสให้ผู้ชมได้หัดเต้นตามเป็นขั้นๆ ไปด้วย หลังจากที่ฝึกกันแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะได้เต้นกันจริงๆ เมื่อเสียงเพลงวีนัสดังขึ้น พร้อมกับ กอล์ฟ ไมค์ ที่ยืนอยู่กลางเวที ในเพลง "วีนัส" (Venus) ที่ครึ่งเพลงแรกเป็นการร้องท่อนที่เป็นภาษาญี่ปุ่น ส่วนครึ่งเพลงหลังเป็นการร้องตามฉบับภาษาไทย ซึ่งเป็นเนื้อร้องที่มาจากต้นฉบับในอัลบั้มของ ทักกี้ และ ซึบาสะ ทั้งคู่

กอล์ฟ และ ไมค์ ยังเอาใจคนที่ชื่นชอบเพลงเกาหลี ด้วยการร้องเพลงดังอย่าง "I Think I" ของ สตาร์ (Star) ที่ทั้งคู่ร้องด้วยกันเป็นภาษาต้นฉบับคือภาษาเกาหลีเลยทีเดียว และเพลงถัดมากับการนำเอาเพลงของ ทักกี้ และ ซึบาสะ มาร้องอีกครั้งกับเพลงจังหวะเร็วๆ ใน "ยูเมะ โมโนกาตาริ" (Yume Monokatari) ซึ่งยังคงเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ขณะที่เพลงยังไม่ทันจบดีนั้น กลับมีเสียงของนักร้องอีกคนที่มาร้องต่อ พร้อมกับแสงไฟที่สว่างขึ้น ตรงเวทีฝั่งตรงข้ามที่อยู่ด้านหลังของฮอลล์

แขกพิเศษอีกคนที่เผยตัวขึ้นแบบไม่ให้คนดูได้ตั้งตัว นั่นคือ "เสนาหอย" หรือ "เกียรติศักดิ์ อุดมนาค" ที่ร้องเพลงนี้ต่อไปจนจบกับท่าเต้นฮาๆ และเนื้อเพลงแบบมั่วๆ ที่พยายามจะร้องเป็นภาษาญี่ปุ่น บรรยากาศแบบขำๆ อารมณ์ดีจึงเกิดขึ้น ซึ่งหลังจบเพลงก็มีการพูดคุยกัน โดยเสนาหอยรับหน้าที่เป็นพิธีกรในการสัมภาษณ์ กอล์ฟ และ ไมค์ อย่างเฮฮา

ซึ่งเมื่อคำถามมาถึงที่ว่าครอบครัวของ กอล์ฟ และ ไมค์ มาร่วมงานในวันนี้ด้วยหรือเปล่านั้น วีทีอาร์ก็ฉายภาพสมาชิกในครอบครัว เช่น คุณพ่อ คุณแม่ และน้องสาว ซึ่งคำพูดที่ กอล์ฟ ไมค์ ฝากไปถึงพวกเขา ก็คือ "อยากจะบอกครอบครัวนะครับว่ารัก รักมากๆ จริงๆ แล้วมันมากกว่าคำว่ารักนะ เหมือนไม่มีคำบรรยายน่ะครับ" จนต่อมากับพี่ชายหนุ่มหล่อของพวกเขา คือ "แซน - พิศุทธิ์ นิธิไพศาลกุล" และ "แบงค์ - พิเศษ นิธิไพศาลกุล" ที่ได้ขึ้นร้องบนเวทีร่วมกันกับน้องชายทั้งสองในเพลง "ไม่ต้องมีคำบรรยาย" ที่เหมือนเป็นการแสดงความผูกพันระหว่างพี่น้องทั้งสี่คน

จากนั้น กอล์ฟ ไมค์ ได้ยกเวทีให้กับเพื่อนๆ กลุ่ม "จี-จูเนียร์" (G-Junior) ซึ่งเริ่มกันด้วย จี-จูเนียร์ฝ่ายหญิง ที่ร่วมร้องและเต้นกันอย่างสนุกสนานในเพลง "ไม่ใช่ผู้ชาย (รีมิกซ์)" และ จี-จูเนียร์ฝ่ายชาย ที่มาร้องเพลงอีกทั้งยังโชว์การเต้นและเล่นดนตรีกันแบบต่อเนื่องจน กอล์ฟ ไมค์ กลับขึ้นบนเวทีเพื่อร้องเพลงร่วมกับเพื่อนกลุ่ม จี-จูเนียร์ทั้งชายและหญิงในเพลง "ความเชื่อ"

เพลงซึ้งลำดับมา "ต้องเธอเท่านั้น" เพลงความหมายดีๆ ที่พวกเขาร้องอย่างน่ารักชวนฟัง และคนดูก็ได้สนุกสุดๆ กันแบบไม่ต้องพักเหนื่อย กับการรวมเพลงจังหวะเร็วให้เต้นตามกันเต็มที่ในเมดเลย์เพลง "ไม่ว่างกำลังเต้น" "โมชิ โมชิ" "หัวใจจะวาย" และ "เบาซ์"

จบเพลงกันไปอย่างสนุกสมใจทุกคน จนเมื่อมีภาพวีทีอาร์เบื้องหลังการทำงานในคอนเสิร์ตครั้งนี้เปิดให้ดูกัน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทและตั้งใจเต็มที่ในการทำงาน ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกของ กอล์ฟ ไมค์ และเสียงเพลงสุดท้ายก็เริ่มต้นขึ้น "เอพพิล็อก" (Epilogue) ที่ในท่อนภาษาไทยนั้น คนดูก็ร้องตามกันได้เสียงดังกึกก้อง ก่อนที่ กอล์ฟ ไมค์ จะกล่าวขอบคุณ เพื่อกลับไปหลังเวที

แต่เมื่อผู้ชมยังไม่อยากให้คอนเสิร์ตครั้งนี้จบลง กอล์ฟ ไมค์ ได้ขึ้นเวทีอีกครั้งตามเสียงเรียกร้องที่ตะโกนเป็นชื่อพวกเขา กับเพลงปิดท้าย "คนคนเดียวกัน" ที่ทั้งคู่นำของขวัญสุดพิเศษมามอบให้แฟนๆ ผู้โชคดีในวันนั้นด้วย นั่นคือ ลูกบอลลูกเล็กหลากสีสัน ที่ทั้งคู่โยนไปรอบๆ ฮอลล์ เป็นของติดมือกลับบ้านในแบบที่ประทับใจแฟนเพลงของทั้ง กอล์ฟ และ ไมค์ แน่นอน