บรรเลงเพลงเรื่องราวแห่งชีวิตในมุมมอง 3 พี่น้อง เดอะซิส

3 พี่น้องที่มีพลังเสียงเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพกับ "เดอะซิส " (The Sis) ซึ่งประกอบไปด้วย "เปียโน - สุพัณณดา พลับทอง" "ซอ - มนต์มนัส พลับทอง" และ "เบส - ภัทรณินทร์ พลับทอง" ซึ่งพวกเธอพิสูจน์ให้แฟนเพลงได้เห็นมาแล้วว่าความสามารถและเสียงร้องของพวกเธอคือของจริง

มาวันนี้ทั้ง 3 สาว ได้หยิบเอาเพลงดังระดับตำนานของคาราบาว มาถ่ายทอดใหม่ในแบบฉบับที่แตกต่างออกไป กับอัลบั้มที่ใช้ชื่อว่า "พี่น้อง ร้องเพลงชีวิต" ในแนวทางที่เน้นความหลากหลายของงานดนตรี ซึ่งพวกเธอจะมาเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวแห่งชีวิตนี้จากปากของพวกเธอเอง

ที่มาที่ไปของอัลบั้มนี้

เปียโน "หลังจากที่จบอัลบั้มที่ 3 ไป ทางผู้ใหญ่ก็เรียกเข้าไปคุยว่ามีโปรเจกต์พิเศษที่สืบเนื่องจากอัลบั้มคาราบาวกับพี่ปานที่ร้องเพลงร่วมกัน แต่อันนี้จะเป็นการนำเอาเพลงเก่าของคาราบาวมาร้องใหม่ ซึ่งทางผู้ใหญ่ก็เห็นว่าเราน่าจะเหมาะกับงานตรงนี้ ก็เลยเรียกให้พวกเรามารวมตัวกันทำงานค่ะ"

ซอ "คือเราอยากที่จะถ่ายทอดงานเพลงของคาราบาวในอีกแง่มุมนึงน่ะค่ะ คือพวกเราอยากถ่ายทอดกันเองก็เลยไม่ได้มีพี่ๆ คาราบาวมาช่ววยร้องด้วยค่ะ"

รู้สึกอย่างไรที่ต้องร้องเพลงของคาราบาว

เบส "ความรู้สึกแรกเลยคือกลัวค่ะ ถึงขั้นไม่อยากจะร้องด้วยซ้ำ เป็นอาการของคนคิดไปเอง เพราะเพลงของพวกพี่ๆ เค้ามันสุดยอดอยู่แล้ว แต่พอมาได้คุยกับพี่โปรดิวเซอร์ว่างานเพลงจะออกมาในอีกทิศทางนึง ที่ไม่ได้เหมือนของเก่า แล้วพอออกมาเป็นอัลบั้มก็ทำให้รู้สึกภูมิใจกับอัลบั้มนี้มากๆ ค่ะ"

ซอ "คือแนวดนตรีของเพลงในอัลบั้มนี้ค่อนข้างจะสมัยใหม่มาก ไม่ค่อยจะได้ยินจากที่ไหน ความละเอียดตั้งแต่ตอนเตรียมงานจนถึงตอนเข้าห้องอัดค่อนข้างประณีตมาก เก็บรายละเอียดทุกเม็ด กว่าจะเสร็จได้แต่ละเพลงนี่คือต้องให้แน่ใจว่าดีจริงๆ คือถ้าจะให้เราทำให้ดีเหมือนของคาราบาว ยังไงก็ไม่มีทางทำได้อยู่แล้ว เพราะของเก่ามันดีมากๆ แต่อย่างที่บอกอัลบั้มชุดนี้ไม่เหมือนของเดิมแน่ค่ะ"

เปียโน "ด้วยความที่เราทั้ง 3 คนมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว ทั้งในเรื่องของเสียงร้องหรือในเรื่องของบุคลิก พอเราได้รู้ว่าจะได้มาร้องเพลงของคาราบาวก็เลยรู้สึกว่าน่าทำ น่าลองดู แต่ในความรู้สึกอีกมุมนึงความกลัวก็ต้องมีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเหมือนกลัวแต่ก็อยากลองทำประมาณนี้น่ะค่ะ พอเราอัดเสียงทั้งหมดเสร็จออกมาเป็นอัลบั้มแล้วมาลองนั่งฟังกันดู เชื่อมั้ยคะว่าขนลุกแล้วก็น้ำตาซึมกันหมดเลยค่ะ"

ความรู้สึกต่อเพลงและวงคาราบาวเป็นยังไง

ซอ "คือในขณะที่เราร้องเพลงของวงคาราบาวไปในห้องอัดเนี่ย พอร้องไปก็จะคิดความหมายของเนื้อร้องไปด้วย ทำให้รู้เลยว่าเนื้อเพลงของคาราบาวทุกเพลงมันลึกมากๆ ทุกคำทุกประโยคสละสลวยและแฝงความหมายดีๆ ไว้ตลอด เหมือนเป็นแนวทางว่าเมื่อเราเจอเหตุการณ์อย่างนั้น เราก็ควรที่จะต้องทำอย่างนี้ อย่างในเนื้อเพลงคาราบาวก็เหมือนกัน เหมือนเป็นการบอกเล่าประสบการณ์ของชีวิตผ่านบทเพลง"

เบส "เหมือนเป็นข้อคิดให้เราได้มองชีวิตในอีกมุมนึง ซึ่งบางทีอาจจะไม่เคยคิด หรืออาจจะคิดไม่ถึงน่ะค่ะ เบสว่าแนวทางในเนื้อเพลงของคาราบาว สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้ทุกคน"

ความหมายของชื่ออัลบั้ม

เปียโน "ชื่ออัลบั้ม พี่น้องร้องเพลงชีวิต เนี่ย ไม่ได้หมายถึงว่าเราจะต้องพูดถึงเรื่องราวของการเมืองหรือเรื่องที่หนักหนาซีเรียสอะไรขนาดนั้น เพลงเพื่อชีวิตที่เราสามารถตีความหมายได้อีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก สุข สนุกสนาน เรื่องพวกนี้ก็เป็นแง่มุมส่วนหนึ่งในชีวิตของคนเราเหมือนกัน"

เบส "ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นผู้ชายเท่านั้นถึงจะพูดเรื่องราวของการเมืองได้ หรือเพลงเพื่อชีวิตก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องพูดถึงแต่เรื่องมุมมองชีวิตที่มีแต่เรื่องเครียดๆ เสมอไป เราเป็น 3 พี่น้องที่มาถ่ายทอดร้องบทเพลงของชีวิตมากกว่าที่จะร้องเพลงเพื่อให้มีชีวิตตามแบบฉบับน่ะค่ะ"

ซอ "สำหรับซอ มันคือเรื่องราวของชีวิตที่เป็นการสื่อความหมายโดยรวม โดยให้ผู้หญิงเป็นคนมาถ่ายทอดมากกว่าค่ะ"

ชอบเพลงไหนของคาราบาว

เบส "เบสชอบเพลง ลมพัดใจเพ ค่ะ คือโดยส่วนตัวชอบเสียงของพี่เทียรี่ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงชอบ แต่รู้สึกว่าเสียงของพี่เค้ามีเสน่ห์ ประกอบกับดนตรีและทุกอย่างมารวมเข้าไว้ด้วยกัน ก็เลยทำให้รู้สึกชอบเพลงนี้ค่ะ"

เปียโน "ชอบเพลง แม่สาย ค่ะ จำได้ว่าตอนนั้นอายุประมาณ 5 ขวบได้มั้งคะ แล้วเปิดทีวีเห็นมิวสิกวิดีโอเพลงนี้แล้วรู้สึกว่าน่ากลัว ประกอบกับเสียงของพี่เทียรี่ที่ร้องแล้วได้อารมณ์มาก ยิ่งทำให้เรารู้สึกหดหู่ พอพ่อเป็นคนบอกให้ลองแกะเพลงนี้มาร้อง เราก็เลยยิ่งเข้าใจความหมายของมันยิ่งขึ้น ก็เลยฝังใจกับเพลงนี้ค่ะ ส่วนอีกเพลงนึงที่ชอบ ก็คือเพลง รักต้องสู้ ค่ะ พอโตขึ้นมาฟังเพลงนี้ รู้สึกว่าเพลงนี้สามารถช่วยให้เรามีแรงและกำลังใจที่จะสู้ต่อได้ค่ะ ไม่เหมือนกับเพลงอื่นๆ ทั่วไป"

ซอ "คือตั้งแต่เด็กๆ คุณพ่อจะให้ซอเป็นคนร้องเพลง เดือนเพ็ญ คงเพราะว่าด้วยเสียงของซอตอนเด็กๆ ดูใสๆ คงจะเข้ากับเพลงนี้ ตอนนั้นก็ยังไม่ได้เข้าใจความหมายของมันเท่าไหร่น่ะค่ะ แต่พอโตมาแล้วได้รู้ความหมายของเพลงนี้ก็เลยรู้สึกว่าเพลงนี้สวยงาม เนื้อเพลงสละสวยและกินใจมาก ก็เลยชอบเพลงนี้มากๆ ค่ะ"

กลัวแฟนคาราบาวจะไม่ชอบไหม

เบส "ไม่ได้ถึงขั้นกลัวเค้าจะต่อต้านหรอกค่ะ พวกเรารู้ตัวกันดีอยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่จะนำเพลงของคาราบาวมาร้องใหม่ ว่ายังไงก็ต้องมีทั้งคนที่ชอบและก็คนที่ไม่ชอบอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องของความรู้สึก เราไม่สามารถบังคับให้ใครมาชอบเพลงที่เราร้องได้อยู่แล้ว"

เปียโน "ก็กลัวนะคะ แต่พอเรามานั่งคิดดีๆ แล้วเนี่ย เราไม่ควรจะต้องมานั่งกังวลว่าจะสู้ของเก่าได้มั้ย เพราะยังไงก็สู้ไม่ได้แน่นอน ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นของคาราบาว ต่อให้เป็นเพลงของใครก็ได้ ถ้าลองเราได้ชอบไปแล้ว ต่อให้มีคนมาร้องใหม่สักกี่ครั้ง หรือว่าเพลงจะดีกว่าเดิมแค่ไหน ยังไงเราก็จะยึดติดกับความชอบนั้นตลอดไป เพลงคือการเชื่อมโยงเวลาหรือว่าความทรงจำของเรา ซึ่งแก้ไขอะไรไม่ได้อยู่แล้ว"

ซอ "สิ่งที่เราทำได้คือเราต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ทำยังไงก็ได้ให้เพลงที่เราร้องมีความรู้สึกว่าเป็นเพลงของเรา ไม่ใช่เพลงของคาราบาว ตั้งแต่ตอนที่เรารู้ว่าเราจะต้องมาร้องเพลงของคาราบาว เราก็จะใช้วิธีฟังเพลงต้นฉบับเพียงรอบเดียว แล้วก็เอาเนื้อเพลงมาอ่านน่ะค่ะ เพื่อไม่ให้มันติดสำเนียงหรือวิธีการร้องในแบบที่เราจะใช้ในการร้องเพลงแบบเรา เป็นการสร้างความแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับของเก่าน่ะค่ะ"

ใช้เวลาในการทำอัลบั้มชุดนี้นานไหม

เบส "จริงๆ ตอนเตรียมงานก็ไม่นานเท่าไหร่หรอกค่ะ เพียงแต่ว่าเราจะใช้เวลาในห้องอัดเสียงต่อเพลงๆ นึงเนี่ยนานมาก เพราะเราอยากให้เพลงนั้นออกมาแบบดีที่สุดจริงๆ ถ้าเพลงไหนที่อัดมาแล้ว พอเราลองเอามาฟังแล้วยังรู้สึกว่ายังไม่ดีพอก็จะอัดใหม่น่ะค่ะ แม้จะเสียเวลาเราก็ยอม"

เคยคิดจะแยกตัวออกอัลบั้มเดี่ยวบ้างไหม

เบส "ก็เคยมีคนบอกว่าให้ เดอะซิส ลองแยกตัวดูเหมือนกันนะคะ แต่ติดตรงที่เบสคิดว่าเรายังไม่พร้อมน่ะค่ะ เรายังอยากที่จะอยู่ร่วมกัน 3 คน ร้องเพลงและทำงานด้วยกัน 3 คนต่อไปน่ะค่ะ เอาไว้พร้อมเมื่อไหร่ ก็อาจจะได้มีโอกาสลองแยกตัวออกอัลบั้มเดี่ยวของแต่ละคนดู"

ซอ "อยู่กันแบบ 3 คนพี่น้องแบบนี้ ซอว่าก็ดีแล้วล่ะค่ะ พวกเราอยู่ด้วยกัน โตมาด้วยกัน เวลาเราทำงานเราก็อยากที่จะทำงานร่วมกันต่อไปน่ะ ส่วนในอนาคตก็ไม่แน่ อาจจะได้เห็นอัลบั้มเดี่ยวของแต่ละคนใน เดอะซิส ก็ได้ค่ะ"

งานเพลงในอัลบั้มต่อไป

เปียโน "ตอนนี้ยังไม่ได้คิดถึงงานเพลงในอัลบั้มต่อไปหรอกค่ะ พวกเราอยากจะทำงานในอัลบั้มนี้ให้ดีที่สุดก่อน ส่วนงานเพลงในอัลบั้มหน้าอาจจะมีความพิเศษอะไรเหมือนแบบนี้มั้ย ก็คงต้องลองติดตามต่อไปน่ะค่ะ"

ฝากผลงานกันหน่อย

เปียโน "เพลงในอัลบั้มนี้ไม่ได้เจาะกลุ่มแค่คนที่ชอบฟังเพลงเพื่อชีวิตเท่านั้น มันมีความหลากหลาย เพราะทำขึ้นมาเพื่อให้ทุกๆ คนได้ฟัง เป็นเพลงที่ฟังสบายๆ มีภาษาที่ไพเราะ งานเพลงของคาราบาวมีค่ามากกว่าที่พวกเราจะเอามาร้องเล่นอยู่แล้ว ชุดนี้พวกเราตั้งใจกันอย่างเต็มที่ และก็ตั้งใจอยากจะให้ทุกคนได้ลองฟังกัน"

ซอ "เราไม่อยากให้คนฟังตัดสินอัลบั้มนี้ เพียงแค่การได้ฟังเพลงๆ เดียว อยากให้ทุกคนได้ลองฟังเพลงของพวกเราหลายๆ เพลง เพราะแต่ละเพลงจะมีความแตกต่างกันไป อย่าเพิ่งสรุปหรือมองภาพรวมของอัลบั้มเพียงแค่เพลงๆ เดียว"

เบส "ก็อย่างที่ซอได้บอกไปน่ะค่ะ ว่าพวกเราอยากให้ทุกคนได้ลองฟังเพลงของพวกเราทั้งอัลบั้มเสียก่อนจะด่วนสรุป ทุกเพลงที่รวมกันมาเป็นอัลบั้มนี้ เราคิดว่าเป็นเพลงที่พวกเราทำได้ดีที่สุดในชีวิตอีกงานนึงเลยล่ะค่ะ ก็อยากจะให้ลองฟังกันดู และหวังว่าทุกคนคงจะชอบกัน"

ทุกบทเพลงที่พวกเธอร้อง คือท่วงทำนองของชีวิตผ่านเสียงดนตรี รับรู้และหาความหมายของเพลงชีวิตไปกับ 3 พี่น้องคนดนตรี ในนาม เดอะซิส กับอัลบั้ม พี่น้อง ร้องเพลงชีวิต ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม นี้