เปิดตัวอัลบั้มของ 2 พี่น้องขวัญใจวัยรุ่น กอล์ฟ และ ไมค์
กระแสความแรงของ "กอล์ฟ - พิชญะ นิธิไพศาลกุล" และ "ไมค์ - พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล" ยากที่จะต้านไหว เมื่อมีโอกาสทีมงานสยามโซน.คอม จึงไม่พลาดที่จะคว้าตัว 2 พี่น้องขวัญใจวัยรุ่นมาพูดคุยกัน ถึงที่มาที่ไปและการทำงานในอัลบั้มแรกที่มีชื่อเดียวกับ 2 หนุ่ม "กอล์ฟ - ไมค์" (Golf - Mike)
เป็น จี จูเนียร์ มานานเท่าไหร่ก่อนออกอัลบั้ม
กอล์ฟ "ประมาณ 4 ปี ครับ เข้ามาเป็นพร้อมกันช่วงที่อยู่ จี จูเนียร์ ปีแรกเขาก็จะออกค่าใช้จ่ายให้ในการเรียนเต้นเรียนร้องเพลงพอครบ 1 ปีก็จะมีการออดิชั่นเป็นนักร้อง ซึ่งพวกเราก็ได้รับเลือกเลย ส่วนที่เหลืออีก 3 ปีเราก็ทำงานอัลบั้มของเราทั้งหมด"
แล้วเข้ามาที่ จี จูเนียร์ ได้ยังไง
กอล์ฟ "พี่ชายของพวกเรารู้จักกับพี่ๆ ที่นี่ก็เลยชวนพวกเรามาสมัคร เราเข้ามาเป็นรุ่นที่ 1 ซึ่งมีคนสมัครจาก 700 คน คัดเหลือ 20 คน ซึ่งเราก็อยู่ในนั้น"
แล้วทำอะไรบ้างตอนอยู่ จี จูเนียร์
ไมค์ "อาทิตย์นึงเราก็จะเรียนเต้นสลับกับร้องเพลงวันจันทร์ถึงศุกร์ หยุดวันพฤหัส ส่วนวันเสาร์เรียนเต้นฮิปฮอป ซึ่งวันธรรมดาจะเรียนแจ๊ส และวันอาทิตย์ก็เป็นอีกวันที่ได้หยุด พอหลังจากครบ 1 ปี เราก็ยังเรียนเพิ่มเติมกันอยู่คือออกค่าใช้จ่ายกันเองครับ"
แล้วชอบเต้นแนวไหนที่สุด
กอล์ฟ "ฮิปฮอปครับ"
ไมค์ "เหมือนกันครับ"
เป็นกระแสหรือเปล่าเลยชอบ
กอล์ฟ "ไม่ใช่ครับ คือเราสองคนชอบเต้นแนวนี้ตั้งนานแล้ว แต่คือตอนนั้นเราไม่รู้เรื่องดนตรีอะไรเท่าไหร่ แต่พอได้มาเรียน เราก็รู้ว่ามันมีหลายแนวนะ ทั้งโซล ฟังก์ แจ๊ส ป๊อบ"
ไมค์ "ครับ อย่างที่บ้านเราก็มีเครื่องทำดนตรี คือเราชอบบีตแนวนี้มาตั้งนานแล้ว"
แล้วได้มีส่วนร่วมในอัลบั้มนี้ยังไงบ้าง
ไมค์ "ในเพลง เบานซ์ (Bounce) ครับ คือตอนแรกพี่เขาขาดเพลงเร็วอยู่อีก 1 เพลง เราก็เลยเสนอว่าให้เอาเสียงบาสใส่ลงไป เพราะพวกเราเล่นบาสกัน เรารู้ว่าเวลาเคาะบาสมันมีเสียงที่เป็นดนตรีได้ ก็เลยเป็นที่มาของเสียงบาสในตอนต้นเพลงที่พวกเราเป็นคนอัดกันเอง"
กอล์ฟ "คือเราอยากให้มันสด ฟังดูสมจริงดูเป็นเสียงธรรมชาติ ซึ่งจริงๆ สามารถใช้เสียงจากคอมได้ แต่เราไม่ใช้"
ท่าเต้นที่ใช้ในอัลบั้มชุดนี้
กอล์ฟ "คือจะมีครูคอยสอนครับ ซึ่งเขาจะคอยถามพวกเราตลอดตอนเต้นว่าชอบหรือเปล่า"
ก่อนที่อัลบั้มจะออกเคยเถียงกันหรือความคิดไม่ตรงกันบ้างไหม
กอล์ฟ กับ ไมค์ "ไม่มีครับ คือเราเป็นพี่น้องกันก็จะค่อนข้างชอบเหมือนกัน ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร"
ทำไมอัลบั้มชุดนี้ถึงใช้เวลาทำถึง 3 ปี
กอล์ฟ กับ ไมค์ "ครับคือเราทำกันตั้งแต่ไมค์ยังตัวเล็กอยู่ เป็นช่วงที่เรากำลังโต ซึ่งเราเคยทำเพลงเสร็จแล้ว 8 เพลง แต่ต้องโดนโละเหลือ 2 เพลง เพราะเสียงเราเปลี่ยน และก็เนื้อหาเดิมมันเด็กไปต้องปรับใหม่ และอัดใหม่หมด ส่วนเพลงที่เหลือที่อยู่ในอัลบั้มนี้ก็มีเพลง หัวใจจะวาย กับเพลง อย่าเล่นแบบนี้"
แล้วแนวเพลงเหมือนกับตอนนี้ไหม
กอล์ฟ "ก็คล้ายกันครับเป็นป๊อบเหมือนกัน แต่ของเก่าจะดูเบาดูเด็กกว่า ทั้งเนื้อหาและดนตรีที่ของใหม่จะค่อนข้างโตขึ้น"
นอกจากงานเพลงสนใจด้านอื่นบ้างไหม
ไมค์ "ก็พวกหนังครับ เราชอบการแสดงอยู่แล้ว อยากเล่นประมาณหนังบู๊เหมือนต้มยำกุ้ง และเรา 2 คนก็เคยเรียนคิวบู๊มาแล้ว ตอนไปเรียนก็มีพลาดเจ็บตัวบ้าง แต่ก็ทำได้และก็สนุกดี
คิดยังไงที่มีคนบอกว่าเราเลียนแบบคนอื่น
กอล์ฟ " ือเราไม่ได้ก๊อปใคร เราก็เป็นเรา แต่ก็ต้องยอมรับ มีคนชอบก็ต้องมีคนไม่ชอบ ซึ่งก็ไม่ใช่คนทั้งหมด เรา 2 คนก็พยายามไม่คิดอะไรครับ ไม่อย่างนั้นก็คงเครีย "
แล้วคิดว่าที่คนชอบผลงานเราเพราะหน้าตาหรือเปล่า
ไมค์ " ือมันแล้วแต่คนว่าเค้าชอบอะไร ซึ่งจริงๆ แล้วหน้าตาเราก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว เราไม่ได้ขายหน้าตา คืออยากให้คนฟังเพลงของเราก่อนก่อนที่จะตัดสินอะไ "
กอล์ฟ " ต่เราก็รู้สึกว่าตั้งแต่ปล่อยเพลงไป ส่วนใหญ่เขาก็ชอบเพลงของเราจริงๆ จนแบบโหวตเพลงเราจนติดชาร์ "
เคยท้อบ้างไหมกับข่าวหรือกระแสต่างๆ
ไมค์ " ็มีบ้างครับ แต่ที่ท้อคือช่วงที่ต้องทำเพลงกันใหม่มากกว่า เพราะอัดกันจนเสร็จแล้ว แต่ต้องมาอัดใหม่ทั้งหมดเกือบจะร้องไห้ เวลาอัดแต่ละครั้งก็ถึงตีสามก็มี เช้าก็ต้องตื่นไปเรียน แต่ก็ได้กำลังใจจากแฟนๆ และก็คุณพ่อคุณแม่มาตลอดครั "
ทำไมถึงอยากเป็นนักร้อง
ไมค์ " ือเราเห็นพี่ชายครับพี่แซนกับพี่แบงค์ เขาได้เป็นนักร้อง แล้วเขาก็เหมือนเป็นไอดอลของเรา ตอนเด็กเราก็จะชอบเอาเสื้อผ้าเขามาใส่ถ่ายรูปกัน และก็ร้องเพลงของเขาทำให้เราอยากเป็นนักร้อ "
แล้วพี่ๆ ให้คำแนะนำอะไรบ้างหรือเปล่า
กอล์ฟ " ็มีบ้างครับอย่างเรื่องการจัดเวลา การวางตัวให้เหมาะสม พี่แบงค์เขาก็จะคอยบอก ส่วนพี่แซนตอนนี้เขาเรียนอยู่ที่ออสเตรเลีย เราก็จะคุยกันทาง MSN ซึ่งเขาก็ติดตามงานของพวกเราอยู่ตลอดทางเว็บ และเขาก็ชอบเพลงของพวกเร "
จุดเด่นของอัลบั้มชุดนี้
กอล์ฟ กับ ไมค์ " วามเป็นพี่น้องครับ และก็เรื่องกีฬาคือเราส่งเสริมให้วัยรุ่นเล่นกีฬา ส่วนแนวเพลงก็มีความเป็นป๊อบ ที่มีทั้ง อาร์แอนด์บี โซล ฟังก์ ฮิปฮอป ครั "
คาดหวังแค่ไหนกับอัลบั้มชุดนี้
ไมค์ " ่อนข้างคาดหวังมากครับ เพราะเราทำกันมานานและตอนนี้เราก็พร้อมแล้ว ก็อยากให้ทุกคนชอบงานของพวกเร "
เคยคิดเรื่องโกอินเตอร์ไหม
กอล์ฟ " ิดเหมือนกันครับ เพราะเราเคยมีโอกาสไปแสดงคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่น ซึ่งตอนนั้นเรายังไม่มีผลงานเลยเพลงก็เอาของคนอื่นมาร้อง แต่ได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ เราก็รู้สึกด "
สุดท้ายอยากให้ฝากถึงแฟนๆ
ไมค์ " ็ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้กันตลอดมาตั้งแต่เรายังไม่ได้ออกเทป มาอยู่ให้กำลังใจตลอดไม่ว่าดึกดื่นแค่ไหน ก็ขอบคุณมากครั "
กอล์ฟ " อบคุณทุกคนถ้าไม่มีทุกคนก็ไม่มีกอล์ฟกับ ไมค์ ในวันนี้แน่นอ "
หลังจากพูดคุยเสร็จ ก็ได้เวลาของงานแถลงข่าวเปิดตัวอัลบั้ม ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเย็นของวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ความพิเศษของงาน คือ กอล์ฟ กับ ไมค์ จะเดินเข้างานมาจากหน้าตึกที่มีพรมแดงปูตลอดทางจนถึงเวที เมื่อ 2 พี่น้องเดินเข้างานมาในงาน เสียงกรี๊ดของบรรดาแฟนคลับก็ดังขึ้น
จากนั้นทั้ง 2 คนก็ขอวาดลวดลายการร้องและการเต้นสักหน่อยด้วยเพลง "Bounce" เพลงเปิดตัวที่ทุกคนรู้จักกันดี เรียกเสียงกรี๊ดของแฟนคลับให้ดังยิ่งขึ้นอีก ต่อด้วยเพลง "เรื่องเล็กของเธอ" ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ โดยมีเสียงของแฟนเพลงช่วยกันร้องตามด้วย
จากนั้นช่วงสัมภาษณ์บนเวทีที่ทั้ง 2 หนุ่มพูดคุยถึงการทำงานในอัลบั้มชุดนี้ ก่อนที่จะจบการสัมภาษณ์ ดีเจเป้ - วิศวะ กิจตันขจร ก็ขอไขข้อข้องใจเรื่องที่ทั้ง 2 คนสามารถใช้นิ้วเลี้ยงลูกบาสได้จริงหรือเปล่า ซึ่งทั้ง 2 คนก็แสดงให้เห็นว่าสามารถทำได้จริงๆ และก็เรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาแฟนคลับได้อีกเช่นเคย
สุดท้ายเป็นการถ่ายรูปร่วมกันของ กอล์ฟ ไมค์ กับเพื่อนๆ จี จูเนียร์ และครอบครัวที่มาทั้งคุณพ่อ คุณแม่ น้องสาว และ แบงค์ พี่ชายที่โตเป็นหนุ่มจนหลายคนแทบจำไม่ได้ ช่วงท้ายทีมงานก็เปิดโอกาสให้แฟนคลับที่มาได้ขอลายเซ็นทั้ง 2 หนุ่มอย่างใกล้ชิด ใครที่ชื่นชอบ กอล์ฟ กับ ไมค์ ก็ให้กำลังใจพวกเขากันได้ กับอัลบั้ม กอล์ฟ - ไมค์ วางจำหน่ายแล้ววันนี้