ตราตรึงกับบทเพลงแจ๊สใน Bangkok Jazz Festival 2005
มหกรรมดนตรีครั้งยิ่งใหญ่ ที่รวบรวมศิลปินเพลงแจ๊สทั้งในเอเชีย อเมริกา และ ยุโรป มาไว้ถึง 12 วง สำหรับ "Bangkok Jazz Festival 2005" กับบทเพลงแจ๊สที่จะมาบรรเลงให้ฟังกันแบบสดๆ ภายใต้ค่ำคืนแห่งลมหนาว ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 ให้คอเพลงแจ๊สได้เต็มอิ่มถึง 3 คืนด้วยกัน ที่ ลานพระราชวังดุสิต สนามเสือป่า ในช่วงวันหยุดปลายสัปดาห์ 16 - 18 ธันวาคม ตั้งแต่ 18.00 น. - 24.00 น. กับศิลปินเพลงแจ๊สที่ถูกคัดสรรมาโดยเฉพาะ
รายชื่อศิลปินที่จะมาขับกล่อมบทเพลงให้ได้ฟังกันในค่ำคืนแรก ได้แก่ เวโรนิก้า มอร์เทนเซน (Veronica Mortensen) ฮาร์วีย์ เมสัน (Harvey Mason) โทนิญโญ่ ฮอร์ตา (Toninho Horta) และ อินค๊อกนิโต้ (Incognito)
ส่วนคืนที่สองเป็นหน้าที่ของวงแม้นศรี (Mansri) มาซาโตะ ฮอนดะ (Masato Honda) เอลดิสซ่า (Eldissa) บ๊อบ เจมส์ (Bob James) และ ลารีย์ คาร์ลตัน (Larry Carlton) กับค่ำคืนที่สาม คือ นีลส์ เอชพี (Neils HP) แจ็ค ลี แอนด์ เอเชียเนอร์ยี (Jack Lee & Asianergy) เอิร์ล คลู (Earl Klugh) และวงโฟร์เพลย์ (Fourplay)
บรรยากาศของงานดูคึกคัก ที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่พากันจับจองที่นั่งบนพื้นสนามหญ้าของสนามเสือป่า เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศสบายๆ ตั้งแต่ช่วงเย็นแดดร่มลมตก กับสายลมพัดเอื่อยๆ ในบรรยากาศช่วงต้นหนาว จนกระทั่งถึงตอนจบงานที่ยิ่งดึกดูเหมือนว่าคนจะยิ่งเยอะ ควบคู่กับอากาศที่หนาวเย็นมากขึ้นเช่นกัน
เก็บบรรยากาศของงานในวันที่สองและวันที่สามมาฝาก เริ่มต้นด้วยวง "แม้นศรี" วงดนตรีแจ๊สสัญชาติไทย กับการขนเพลงบรรเลงจากฝีมือ 4 นักดนตรี ซึ่งเป็นอาจารย์สาขาดนตรี แจ๊ส ภาคดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มาขับกล่อมให้ฟัง ในช่วงที่ท้องฟ้ายังมีแสงสีส้มของดวงอาทิตย์รำไร รวมทั้งยังได้นักร้องรับเชิญสาวน้อยนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่ง ในภาคดุริยางคศาสตร์ จากรั้วศิลปากรเช่นเดียวกัน ที่นำบทเพลงเก่าอันไพเราะมาขับร้องใหม่ให้เป็นเพลงแจ๊สฟังสบาย ได้แก่ "ชั่วฟ้าดินสลาย" และอีกหลายเพลง จนมาถึงเพลงบรรเลงชื่อน่ารักๆ อย่าง "Auntie Ann"
"Eldissa" มารับช่วงต่อเป็นวงที่สองในตอนที่ท้องฟ้าเริ่มมีแสงดาวระยับ กับแนวเพลงแบบบอสซาโนว่า เช่น "Gimme Gimme Gimme" เพลงน่ารักๆ แบบมีจังหวะ ชวนให้เวทีมีสีสันมากยิ่งขึ้น ต่อด้วยชายหนุ่มผู้น่ารักที่สุดในค่ำคืนนี้ "Masato Honda" ที่เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ไปได้เยอะ กับความตั้งใจในการพูดภาษาไทยด้วยสำเนียงญี่ปุ่นอย่าง "ผมมาเมืองไทยครั้งแรกครับ อากาศไม่ร้อนอย่างที่คิด ขอให้สนุกนะครับ" ซึ่งหนุ่มมาซาโตะ ก็ขนเพลงบรรเลงแนวฟิวชั่นแจ๊สผสานลีลาการเป่าแซ็กโซโฟนให้ฟังกันอย่างเต็มอิ่มเกือบสิบเพลง
ดาวเด่นในค่ำคืนนี้ "Bob James" ที่มาพร้อมกับ Angels of Shanghai Band หนุ่มสาวจากเซี่ยงไฮ้ ที่ขนเครื่องดนตรีจีนมาบรรเลงให้ฟังกันกับบทเพลงในรูปแบบอีสต์มีตส์เวสต์ (East meets West) เอกลักษณ์ในอัลบั้มชุดใหม่ของเขาที่ชื่อ Angels of Shanghai ที่บ๊อบบอกว่าเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของโลกเลยทีเดียว กับบทเพลง อาทิ "The Magic Paintbrush" และ "Onara ที่เป็นเพลงประกอบละครเกาหลีที่กำลังดังในบ้านเราอย่าง แดจังกึม รวมไปถึงบทเพลงอีกมากมายจากอัลบั้มชุดเก่าของเขาด้วย
ค่ำคืนที่สองได้จบลงอย่างสวยงามกับศิลปิน "Larry Carlton" เจ้าของฉายา มิสเตอร์ 335 เนื่องมากจากการใช้กีตาร์กิ๊บสันเซมิ-อะคูสติกรุ่น 335 ซึ่งเป็นขวัญใจอีกคนที่เรียกเสียงเฮจากผู้ฟังได้ไม่แพ้คนก่อนๆ โดยมาพร้อมกับ Sapphire Blues Band ที่ร่วมบรรเลงในแนวเพลงแจ๊สอิงสำเนียงบลูส์ได้อย่างถึงอรรถรสทางดนตรี ที่ถ่ายทอดบทเพลงดังๆ ของเขาให้ฟังกันหลายเพลงแบบชื่นหูผู้ฟัง จบด้วยเพลงที่แฟนๆ เรียกร้องอย่าง "Sleepwalk"
คืนที่สามที่อาจทำเอาหลายคนใจหาย เพราะว่าไม่อยากให้สิ้นสุดในมหกรรมดนตรีครั้งนี้ กับศิลปินเปิดเวทีอย่าง "Niels HP" จากเดนมาร์ก ที่มีอัลบั้มแรกซึ่งรู้จักกันในชื่อ Different Move Different Groove ในแนวแจ๊สผสมอาร์แอนด์บีและฟังก์กี้มิวสิก พร้อมบทเพลงที่ขนมาให้ฟังกัน เช่น "Do You Walk Out By" และ "Love'll Come My Way"
"Jack Lee & Asianergy" คือ วงต่อมากับ Jack Lee นักดนตรีสายเลือดเอเชียอดีตดีเจที่นิวยอร์ก พร้อมวงของเขา Asianergy ที่เกิดจากการผสมผสานงานดนตรีในจังหวะของเอเชีย และความลงตัวจากดนตรีในทั่วทุกมุมโลก ซึ่งเขาได้ทักทายแฟนๆ ว่า "ดีใจที่ได้มาเล่นที่นี่ โดยเฉพาะการเล่นที่เมืองไทยเป็นครั้งแรกกับวงนี้" และเพลงแรก "Sing From The Past" รวมถึงเพลง "Cheju Do" ซึ่งมีที่มาจากชื่อเกาะในประเทศเกาหลี โดย Jack Lee ได้บอกให้ผู้ชมฟังว่า "เพลงของผมหลายเพลงที่มีชื่อเป็นสถานที่ต่างๆ ในเอเชีย" ต่อด้วยหลายเพลงจับใจจนมาจบที่เพลงสุดท้ายอย่าง "Wettin' In Rain"
ขวัญใจของคนฟังในค่ำคืนแห่งลมหนาว กับบทเพลงหวานๆ จากสำเนียงกีตาร์ของ "Earl Klugh" ที่มาพร้อมกับอัลบั้มล่าสุด Naked Guitar ที่ได้เข้าชิงรางวัลแกรมมี่อวอร์ดส์ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าในสาขา Best Pop Instrument Awards ที่ทำให้หลายคนถึงกับหลับตาฟังอย่างดื่มด่ำ จนมาถึงเพลงสุดท้ายของเขาอย่างไม่รู้ตัวกับ "Wishful Thinking"
"Fourplay" วงปิดท้ายที่หลายคนต่างรอคอย เรียกได้ว่าเป็นที่สุดของงานมหกรรมดนตรีครั้งนี้จริงๆ กับการรวมตัวของ 4 นักดนตรีชั้นเซียนของวงการเพลงแจ๊ส ไม่ว่าจะเป็น Bob James มือเปียโนและคีย์บอร์ด วัย 66 ปี Larry Carlton มือกีตาร์ที่เรียกเสียงปรบมือดังลั่นได้จากคืนที่สองนั่นเอง Nathan East มือเบสระดับแนวหน้าของวงการเพลงแจ๊ส และสมาชิกคนสุดท้าย Harvey Mason มือกลองทรงพลัง
การบรรเลงเพลงอย่างต่อเนื่องเต็มอิ่มจาก Fourplay เรียกเสียงปรบมือและเสียงเฮได้ดังลั่น จนกระทั่งเพลงสุดท้าย คือ "Journey" ที่เป็นการจบงานในแบบที่เรียกว่าประทับใจกันแบบสุดๆ
สามคืนแห่งบทเพลงแจ๊สได้ผ่านพ้นไปอย่างสวยงาม กับ Bangkok Jazz Festval 2005 กับสัญญาที่ฝากเอาไว้ผ่านทำนองเพลงแจ๊ส ที่ล่องลอยในค่ำคืนแห่งลมหนาวบนสนามหญ้าเย็นชื้นว่ามหกรรมดนตรีแจ๊สดีๆ แบบนี้อาจจะมาพบกับทุกคนอีกในปีหน้า
