4 ศิลปินขวัญใจวัยรุ่น ร่วมสร้างปรากฏการณ์ รักพลิกร็อค 3
กลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้องสำหรับงานคอนเสิร์ต "รักพลิกร็อค 3" ที่เน้นความสนุกในแบบดนตรีที่หนักแน่น โดยคลื่นเพลง 103.5 เอฟเอ็มวัน อาสาพา 4 ศิลปินขวัญใจวัยรุ่นอย่าง ฟาเรนไฮต์ เอ็นโดรฟิน บอย พีซเมกเกอร์ และ แบล็คเฮด มาพบปะแฟนเพลงที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา งานนี้นอกจากจะได้รับความสนุกแล้ว ยังได้บุญกลับไปอีกด้วย เพราะรายได้ส่วนหนึ่งจากการขายบัตรจะนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ ในวาระครบรอบ 1 ปีภัยสึนามิ
วงแรกที่ขึ้นมาเปิดเวทีความสนุก คือ "ฟาเรนไฮต์" ที่อุ่นเครื่องกันด้วยเพลง "ไม่ยากหรอก" ต่อด้วยเพลง "ขาดๆ เกินๆ" ในช่วงแรกเหมือนว่าคนดูจะยังไม่กล้าออกลีลาท่าเต้นสักเท่าไร ฟาเรนไฮต์เลยต้องสลับมาเล่นเพลงช้าอย่าง "ผิดไหม" และเพลงที่เรียกเสียงกรี๊ดได้พอตัวอย่าง "บอกมาคำเดียว" ก่อนจะกลับมาเล่นเพลงที่มีจังหวะหนักหน่วงอย่าง "By the Way" ของ Red Hot Chili Peppers ที่ ทราย นักร้องนำ บอกว่าเตรียมมาเป็นพิเศษเพื่องานนี้เท่านั้น
ทราย ยังได้เผยอีกว่า "รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติมาก ที่ได้มีโอกาสกลับมายืนบนหอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์อีกครั้ง เพราะทรายเองก็เคยเป็นนักศึกษาอยู่ที่นี่" และเพลงต่อมา คือ "ความรักจงเจริญ" คั่นอารมณ์ด้วยเพลงช้าๆ อย่าง "น้ำตาคือคำตอบ" ก่อนจะชวนให้คนดูให้ลุกขึ้นมาสนุกกับเพลงสุดท้าย "เจ้าหญิง" ที่พอจะประเดิมเรียกเหงื่อได้เล็กน้อย
พักได้สักครู่ก็ต่อเนื่องความสนุกแบบไม่จำกัดกับศิลปิน "เอ็นโดรฟิน" เริ่มต้นกันด้วยเพลงเปิดตัวอย่าง "สักวาปากหวาน" และ "น้ำเต็มแก้ว" โดยเพลงนี้คนดูภายในหอประชุมช่วยกันร้องประสานกับดาจนดังสนั่นเลยทีเดียว หลังจากนั้น ดา นักร้องนำ ได้บอกว่า "ทุกคนรู้จักเพลงในอัลบั้มใหม่ของเอ็นโดรฟินกันหมดแล้ว แต่ไม่รู้ว่าใครจะยังจำเพลงในอัลบั้มแรกของพวกเราได้อยู่หรือเปล่า เลยขอเล่นเพลงที่ทำให้ทุกคนรู้จักกับพวกเราอีกสักครั้ง" ในเพลง "สิ่งสำคัญ" และ "ดอกราตรี"
เอ็นโดรฟิน ยังได้สร้างความประทับใจแก่คนดู โดยหยิบเอาเพลง "จิ๊จ๊ะ" ของวง ซิลลี่ ฟูลส์ และเพลง "ตาสว่าง" ของ โมเดิร์นด็อก มาร้องในงานนี้ด้วย ทำให้คนดูเริ่มลุกขึ้นมาเต้นกันอย่างสุดเหวี่ยง ก่อนที่ดาจะบอกว่าขอร้องเพลงของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งดาคิดถึงเสียงร้องของผู้หญิงคนนี้และคิดว่าทุกคนก็คงจะคิดถึงเธอเช่นกัน นั่นคือเพลง "รักเธอจริงๆ" ของ สุกัญญา มิเกล โดย ดา ได้เล่นกีตาร์อะคูสติกเพลงนี้เองอีกด้วย จากนั้นเอ็นโดรฟินได้เลือกเพลงที่กำลังมาแรงในขณะนี้อย่างเพลง "เมื่อเขามาฉันจะไป" มาเล่นเป็นเพลงปิดท้าย
ทันทีที่จอทีวีบนเวทีขึ้นชื่อ พีซเมกเกอร์ ก็มีเสียงกรี๊ดนำมาจากบรรดาสาวๆ ที่มาในงานอย่างถล่มทลายให้กับหนุ่ม "บอย พีซเมกเกอร์" หรือ บอย - อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี ที่วันนี้ฉายเดี่ยวมาคนเดียว เริ่มต้นด้วยเพลงที่ทุกคนรู้จักเป็นอย่างดีกับ "ส่วนเกิน" และตอกย้ำความไพเราะของพลังเสียงด้วยเพลง "ฉันมีค่าแค่ไหน" และเพลง "ช่างไม่รู้เลย" ที่บอยบอกว่า "ใครที่มาดูคอนเสิร์ตในวันนี้กับเพื่อนสนิท ผมขอให้ช่วยกันร้องเพลงนี้ให้ดังๆ เลยนะครับ"
บอย กล่าวต่อไปว่า "เพลงต่อไปที่ผมจะร้อง เป็นเพลงที่ผมชอบมากเป็นการส่วนตัว และยังไม่เคยนำเพลงนี้ไปร้องที่ไหน จึงอยากจะขออนุญาตคนดูและเจ้าของเสียงเพลงเพลงนี้ นำเพลงที่ผมไม่ทราบว่าจะมีคนในคอนเสิร์ตนี้รู้จักกันสักกี่คนมาร้องไห้ฟัง" สิ้นเสียง บอย ดนตรีเพลง "ยื้อ" ของวงพอสก็ดังขึ้น โดยที่บอยได้ใส่อารมณ์กับเพลงนี้อย่างเต็มที่ ทำให้คนดูถึงกับทึ่งในพลังเสียงของหนุ่มคนนี้ ก่อนจะตอกย้ำอารมณ์ซึ้งกับ "สุดท้าย" เพลงที่ บอย บอกว่า "อยากให้ทุกคนจดและจำสิ่งที่ดีๆ ของกันและกันมากกว่าด้านที่ไม่ควรจดจำ"
และแล้วก็ถึงช่วงเวลาที่ทำให้คนดูทั้งงานลุกขึ้นมาเต้นตามกันอย่างพร้อมเพียง กับเพลงพิเศษที่หนุ่มบอยนำมาฝากอย่าง "This Love" ของ มารูน ไฟว์ (Maroon 5) และท่าเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกที่ทำให้หัวใจสาวๆ ต้องละลายในเพลง "Whenever, Wherever" ของ ชากีร่า (Shakira)
ต่อเนื่องกันด้วยเพลงสุดสนุกอย่าง "เพลงนี้เกี่ยวกับความรัก" และ "เล่นของสูง" ก่อนจะย้อนอดีตรำลึกเพลงดังกับท่าเต้นน่ารักๆ ใน "โอ๊ะ โอ๊ย" เพลงเก่าของสาว ทาทา ยัง และกระโดดกันต่อแบบสุดเหวี่ยงในเพลง "Zombie" และทิ้งท้ายด้วยเพลงช้าซึ้งๆ ในเพลง "เรื่องบนเตียง"
คงความสนุกต่อเนื่องกับ 4 หนุ่มหัวดำ "แบล็คเฮด" ที่หยิบเอาเพลง "ยิ่งโตยิ่งสวย" มาเรียกน้ำย่อยคนดู ต่อด้วยท่อนสร้อย "ฉันยอมรับผิดทุกคำกล่าวหา ที่ฉันน่ะทิ้งเธอไป ขอโทษที่ฉันเปลี่ยนใจจากเธอไป" ในเพลง "ยอมรับ" และเพลงที่ทุกคนชื่นชอบกับเสียงอันมีเสน่ห์ของ ปู นักร้องนำ ในอัลบั้มล่าสุดของพวกเขา "ใจร้าย" และ "ไม่จำเป็นต้องดีที่สุด"
หลังจากนั้น ปู ก็ส่งหน้าที่ให้มือกีตาร์อย่าง เอก เป็นคนร้องเพลง "เธอนั่นแหละ (ตอแหล)" โดยเพลงนี้คนดูจะคอยร้องท่อนสร้อยโต้ตอบกับ เอก เป็นที่สนุกสนานจนจบเพลง พอเสียงท่อนโซโลของกีตาร์ในเพลง "เพียงกระซิบ" ดังขึ้น ทุกคนจำกันได้ดีและกระโดดตามกันตัวลอย
แต่ที่ทำเอาคนดูในงานส่งเสียงกรี๊ดกันสุดๆ คือช่วงจิ๊กโก๋อกหักกับเพลงเก่าของ อัสนี วสันต์ โชติกุล ที่ แบล็คเฮด นำมาเล่นให้ฟัง เริ่มด้วยเพลง "ก็เคยสัญญา" ต่อทันทีด้วย "ร่ำไร" พ่วงด้วย "ยินยอม" ตามติดมาด้วยเพลง "ได้อย่างเสียอย่าง" "หัวใจสะออน" และ "เธอปันใจ"
ปู กล่าวว่า "น่าดีใจแทนพี่ป้อม (อัสนี โชติกุล) ที่ยังมีคนคิดถึงและชอบเพลงของพี่เค้าอยู่ อีกไม่นานก็คงจะได้ฟังเพลงในชุดใหม่ของเค้ากัน" หลังจากนั้น แบล็คเฮดก็กลับมาเล่นเพลงของตัวเองอีกครั้งในเพลง "เหตุผล" และละเลียดความซึ้งจนหยดสุดท้ายไปกับเพลงที่มีความหมายดีๆ "ฉันอยู่ตรงนี้"
แม้เครื่องเสียงของงานนี้จะดังอู้ๆ อี้ๆ ไปบ้าง จอวีทีอาร์บนเวทีก็ดูไม่น่าสนใจเท่าไร หรือกระทั่งความขลุกขลักในการเว้นช่วงระหว่างศิลปินที่ใช้เวลานานเกินไป แต่โดยรวมแล้วก็ยังเป็นคอนเสิร์ตสุดสนุกคุ้มค่าบัตร ที่สามารถทำให้คนดูกลับบ้านพร้อมรอยยิ้มแห่งความประทับใจ