ความงามบวกความร้อนแรง 2 ด้านแห่งความรักของ ปนัดดา

ผู้หญิงเสียงดีมากความสามารถ ที่มีวิธีการร้องและการถ่ายทอดอารมณ์เพลงเป็นเอกลักษณ์ หลังจากห่างหายจากการทำอัลบั้มเดี่ยวไปนานถึง 3 ปีเต็ม วันนี้ "นัท - ปนัดดา เรืองวุฒิ" กลับมาพร้อมกับอัลบั้มใหม่ "ดอกไม้กับเปลวไฟ" ที่บอกเล่าถึงความเป็นตัวตนและอารมณ์ของผู้หญิงยุคใหม่ วันนี้เรามีโอกาสค้นหาความหมายของอัลบั้มนี้ไปกับเธอผู้ซึ่งให้คำตอบได้ดีกว่าใคร

ช่วงเวลาที่หายไป 3 ปี ไปทำอะไรมา

"จริงแล้วนัทเองก็ไม่ได้หายไปไหนนะคะ ก็ยังไปร่วมร้องเพลงกับคนนู้นบ้างคนนี้บ้าง ล่าสุดก็วงไทยเทเนี่ยม แล้วก็ เรน ศิลปินจากเกาหลี ก็เหมือนไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่ยังไม่สบโอกาสที่จะออกอัลบั้มของตัวเองก็เท่านั้น ช่วงที่หยุดจากงานเพลงของตัวเองก็เลยได้ไปทำงานเป็นดีเจ แล้วก็มีโอกาสได้เล่นละครเวทีเรื่องทวิภพด้วย"

ทำไมถึงใช้ชื่ออัลบั้มชุดนี้ว่าดอกไม้กับเปลวไฟ

"เป็นการเปรียบเทียบความรักของเพลงในอัลบั้ม ที่บางเพลงก็ฟังแล้วทำให้รู้สึกอบอุ่น เหมือนความสวยงาม ของดอกไม้ เวลาที่เราเห็นเราก็จะรู้สึกสบายใจ น่าทะนุถนอม ส่วนบางเพลงฟังแล้วก็รู้สึกเหมือนเปลวไฟที่บางทีก็ทำให้เรารู้สึกร้อนรุ่ม กลุ้มใจ ปั่นป่วนได้ หรือเสียใจไปเลย มันก็คือความรักในรูปแบบต่างๆ โดยในอัลบั้มนี้ก็ได้พูดถึงความรู้สึกในเรื่องความรักของผู้หญิง 10 แบบ ที่แตกต่างกันออกไป"

อัลบั้มชุดนี้ใช้เวลาทำงานนานไหม

"ถ้าพูดถึงเวลาที่เริ่มทำงานจริงๆ ก็ประมาณ 6 เดือน แต่ก็ได้มีการคุยกันถึงแนวเพลงที่อยากจะทำก่อนหน้านั้นนานเหมือนกัน เกือบๆ จะเป็นปี"

มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากชุดที่แล้วบ้าง

"เปลี่ยนหมดเลยค่ะ คือคนภายนอกอาจจะดูว่าไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมๆ ที่ผ่านมาเลย แต่จริงๆ แล้วมีการเปลี่ยนแปลงทั้งเรื่องของวิธีการร้อง เนื้อหาของเพลงที่ปรับให้มีความทันสมัยมากขึ้น ในเรื่องของดนตรีในชุดนี้ก็จะมีเพลงเร็วมากขึ้น ตอนทำเดโมปวดหัวมาก เพราะเราไม่ถนัดการร้องเพลงเร็ว ไม่เหมือนกับฮิปฮอป ยังมีจังหวะ มีแรงผลักที่ทำให้เราสนุกไปเอง แต่พอมาเป็นป๊อปเร็วๆ ที่เราไม่ถนัด ก็เลยต้องเหนื่อยกว่าเก่าเยอะ"

เห็นร้องเพลงหลากหลายมาก แต่จริงๆ แล้วชอบเพลงแนวไหน

"ฟังได้ทุกแนวค่ะ แต่ที่ชอบจริงๆ ก็คงจะเป็นอาร์แอนด์บีกับฮิปฮอป แล้วก็ยังไม่ลืมแนวดนตรี อีซี่ ลิสซึ่นนิ่ง เป็นป๊อปในแบบที่ทำให้ตัวเองเกิดมาจากตรงนั้นด้วย ก็เหมือนกับอัลบั้มนี้ที่ยังคงเอาแนวเพลงป๊อปใส่เข้าไป แต่ก็มีทางเลือกอื่นๆ ให้ได้ฟังกันด้วย"

แต่งเพลงเองด้วย

"ใช่ค่ะ จริงๆ แล้วอยากจะเขียนเพลงมาตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังไม่มีโอกาสนำมาให้ดู ส่วนมากก็จะแอบเอาทำนองเพลงที่เพื่อนๆ ทำไว้เอามาเขียนเนื้อร้องเอง แต่คราวนี้ก็ได้มีโอกาสคุยกับโปรดิวเซอร์ คือ ขัน (จาก ไทยเทเนี่ยม) ซึ่งก็เป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว เค้าบอกว่าอยากจะทำให้ทำนองกับเนื้อร้องเข้ากันมากที่สุด ดังนั้นนักร้องก็เอาไปเขียนเพลงเองเลยละกัน ก็เลยลองเขียนๆ ดู พอเสร็จแล้วก็เอามาช่วยกันเกลา ทั้ง ขัน แล้วก็นักร้องที่ชื่อ ซับเบอเรี่ยน อีกคน"

มีผลตอบรับอย่างไรเกี่ยวกับงานชุดนี้บ้าง

"อย่างแรกเลยมีแต่คนถามถึงเพลง คนเลวที่รักเธอ ว่าทำไมนัทถึงได้รุนแรงขนาดนี้ (หัวเราะ) คือตอนแรกเพลงนี้เนื้อหาจะเป็นอีกแบบหนึ่ง จะออกไปแนวดาวพระศุกร์มากๆ นางเอกเป็นคนดีขอเป็นฝ่ายไป ไม่อยากให้เค้าเลิกกัน แต่พอทำเดโมเสร็จแล้ว มาดูสังคมในปัจจุบัน เดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ใช่แบบในเพลง คนที่มีแฟนแล้วก็ยังสามารถไปมีกิ๊กกับคนอื่นได้ ถึงจะมีแฟนแล้ว ฉันก็ไม่สน เราก็เลยหยิบยกเอาเรื่องราวตรงนี้มาถ่ายทอดเป็นเพลง คนเลวที่รักเธอ"

ถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้จะทำยังไง

"อย่างแรกเลยก็คงเซ็ง เรื่องของหัวใจมันห้ามไม่ได้ ถ้าเกิดขึ้นแล้วก็คงต้องปล่อยให้เป็นไป แต่ก็จะพยายามหักห้ามใจ เพราะไม่อยากเป็นตัวแปรที่จะทำให้ใครต้องเกิดปัญหากัน โดยเฉพาะสำหรับเพื่อน"

มีอะไรที่อยากจะทำนอกเหนือจากงานเพลงบ้าง

"จริงๆ แล้วก็ถือว่านัทโชคดีที่ได้มีโอกาสทำงานหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นงานด้านนักร้องที่นัทชอบที่สุด รวมไปถึงการเป็นดีเจ และการเป็นนักแสดง เพียงแต่นัทยังรู้สึกว่าตัวเองยังไม่คอยชำนาญเรื่องการแสดงเท่าไหร่ ที่ได้มีโอกาสแสดงละครเวทีก็ดีใจมากแล้ว แต่มีอยู่งานนึงที่นัทอยากจะทำมาก นั่นคือการเปิดโรงเรียนสอนร้องเพลงกับเพื่อน เกือบจะได้เปิดอยู่แล้ว แต่บังเอิญว่าช่วงนั้นติดงานละครเวที ยังไม่มีโอกาสได้คุยกันแบบเป็นจริงเป็นจัง พองานเสร็จเค้าก็เปิดโรงเรียนกันไปแล้ว "

ถ้าว่างจะกลับไปทำไหม

"อยากทำ เพราะปัจจุบันนี้ นัทเห็นความสามารถของเด็กไทยหลายคน ถ้าเกิดว่าใครที่คอยชี้ทางให้ ได้คำแนะนำจากครูดีๆ ก็น่าจะทำให้ดึงความสามารถเก่งๆ ออกได้ เด็กบางคนมีพรสวรรค์ แต่นำเอาออกมาใช้ไม่เป็น หรือว่าเอาออกมาแล้วแต่ยังไม่สุด ก็เลยอยากจะช่วยเค้า เพราะเราก็เคยผ่านจุดนั้นมาเหมือนกัน"

อยากฝากอะไรถึงแฟนเพลง

"ก็อยากจะบอกว่ายังไงก็อย่าเพิ่งลืมกันนะคะ อยากให้ติดตามผลงานของนัทไปเรื่อยๆ แล้วก็อยากจะฝากอัลบั้มดอกไม้กับเปลวไฟ ไว้ด้วย หวังว่าคงถ้าใครได้ฟังแล้วคงจะชอบมันนะคะ ขอบคุณมากค่ะ"

ไม่ง่ายที่จะค้นหาและไม่ยากเกินกว่าจะรู้คำตอบ พบกับความหมายของความรัก ที่ไม่ว่าจะงดงามเหมือนดอกไม้หรือร้อนแรงดั่งเปลวไฟได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป