เต้ย-ผู้พันเบิร์ด ปะทะบทบาท พันท้ายนรสิงห์ เข้มข้น
ปลุกปั้นภาพยนตร์แห่งประวัติศาสตร์อย่าง "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" มานานหลายปี จนภาคสุดท้ายได้เข้าโรงฉายเป็นที่เรียบร้อย ในที่สุดก็ถึงเวลา "ท่านมุ้ย - ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล" เดินหน้าต่อกับ "พันท้ายนรสิงห์" ซึ่งเป็นบทพระนิพนธ์อิงประวัติศาสตร์ของ "พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล" ครั้งนี้ได้ "ผู้พันเบิร์ด - พ.ท. วันชนะ สวัสดี" มาสวมบทเป็น พระเจ้าเสือ พร้อมดึงตัวนักแสดงหนุ่มมาดเข้ม "เต้ย - พงศกร เมตตาริกานนท์" มารับบท สิน หรือ พันท้ายนรสิงห์ ส่วนบทบาทของ นวล สาวซึ่งเป็นที่ต้องตาต้องใจของทั้ง 2 หนุ่ม แสดงโดย "มัดหมี่ - พิมดาว พานิชสมัย" ร่วมด้วยทัพดารามากฝีมือคับคั่ง อาทิ "เอก - สรพงษ์ ชาตรี" "กบ - พิมลรัตน์ พิศลยบุตร" "ไกรลาศ เกรียงไกร" "มิก - ราชวัติ ขลิบเงิน" "พีเค - วิศว ทัพพะรังสี" "ตูน - น.ต. ณยศ เสาว์ทองหยุ่น" "เขาทราย แกแล็คซี่" หรือ "สุระ แสนคำ" และ "รณ ฤทธิชัย"
งานเปิดตัวภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2558 ณ โรงภาพยนตร์ เอ็มพริเว่ ซิเนคลับ ชั้น 5 เอ็มโพเรียม โดย ท่านมุ้ย ทรงเล่าถึงความแตกต่างของ พันท้ายนรสิงห์ กับ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ให้ฟังว่า "ก็แตกต่างร้อยเปอร์เซ็นต์ นอกจากคุณเบิร์ดแล้วเนี่ยนะครับ แทบจะไม่มีดาราที่แสดงใน นเรศวรฯ แสดงด้วย มีนะครับแต่ว่าบทบาทจะเปลี่ยนไป อย่างคุณปราปต์ (ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง) ในเรื่องนเรศวรฯ เขาจะเป็นคนที่ตลก แล้วก็เป็นพระชัยบุรี ซึ่งคนก็ชอบครับ แต่พอเปลี่ยนมาถึงเรื่องนี้ก็กลายเป็นผู้ร้ายเต็มตัวหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์นะคุณปราปต์ ซึ่งจะทำให้คนเกลียดได้ พระนเรศวรเองพอมาถึงเป็นพระเจ้าเสือก็เปลี่ยนบทบาทไปอีก ไม่เหมือนกับเป็นพระนเรศวรเลยแม้แต่นิดเดียว สลัดคราบพระนเรศวรออกหมดเลยนะครับ แล้วคิดว่าผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้จะเห็นด้วยนะครับ ว่าความเป็นพระนเรศวรนี่จะไม่เหลือหลออะไรเลย"
ผู้กำกับมากประสบการณ์ทรงแง้มว่า ฉากส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อผลงาน พันท้ายนรสิงห์ โดยเฉพาะ "อันนี้ถูกต้องครับ ฉากที่เรามีอยู่เนี่ย 90 เปอร์เซ็นต์เป็นฉากที่สร้างขึ้นมาเพื่อ พันท้ายนรสิงห์ แต่ว่าเราจะเห็นใน นเรศวรฯ เหมือนกันครับ คือ นเรศวรฯ นี่แอบมาขโมยเอาฉาก พันท้ายฯ ไปใช้ เป็นฉากที่เราสร้างมาเพื่อ พันท้ายนรสิงห์ โดยตรง เป็นต้นว่าบ้านของนวล (รับบทโดย พิมดาว พานิชสมัย) หรือบ้านของพระพิชัย (รับบทโดย สรพงษ์ ชาตรี) นะครับ อันนี้เราสร้างมาเพื่อภาพยนตร์เรื่องนี้โดยตรง" ท่านมุ้ย ทรงเผยว่านอกจาก พันท้ายนรสิงห์ จะถูกนำมาฉายเป็นภาพยนตร์แล้ว ยังมีเป็นรูปแบบละครด้วย "ใช่ครับ คือเราใส่รายละเอียดเพิ่มเติมขึ้นนะครับ แทนที่จะเป็น พันท้ายฯ 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ก็เป็น พันท้ายฯ 1 เท่านั้นเอง แต่ว่าจะขยายความออกมาโดยใส่ดีเทลขึ้นมาเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์ แต่หัวใจของเรื่องจะอยู่ในนี้ครับ"
เรียกว่า พันท้ายนรสิงห์ คือผลงานการแสดงภาพยนตร์ชิ้นแรกของหนุ่ม เต้ย ก็ว่าได้ ซึ่งเจ้าตัวเอ่ยความรู้สึกว่า "ตื่นเต้นครับ ก่อนอื่นขอบคุณท่านมุ้ย ขอบคุณหม่อมบี๋ (หม่อมกมลา ยุคล ณ อยุธยา) มากๆ เลย แล้วก็ขอบคุณผู้พันเบิร์ดมากๆ ที่ทำให้ผมได้มาเล่นเรื่องนี้ แล้วก็ขอบคุณแฟนคลับทุกๆ คน ขอบคุณทีมงานทุกๆ คน ขอบคุณนักแสดงทุกคน ที่ร่วมกันทำภาพยนตร์แห่งประวัติศาสตร์ให้ทุกคนให้คนไทยได้ดูครับ" หนุ่มคนนี้พูดถึงความยากในการแสดงว่า "ยากมากเลย คือผมเริ่มจากศูนย์เลย ไม่เป็นอะไรเลย ต้องมาฝึกขี่ม้า พายเรือ ฟันดาบ ต่อยมวย เป่าขลุ่ย คัดท้ายเรือ พายเรือ คิวบู๊อีก คือทำอะไรไม่เป็นเลย ตอนแรกผมคิดว่าพายเรือง่ายๆ นะ พอลงไปพายปั๊บ พายเป็นวงกลมเลย คือการที่จะพายเรือให้มันตรงได้เนี่ยมันยากมาก ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยฮะ"
เต้ย พูดถึงความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกับ ท่านมุ้ย ว่า "ตั้งใจมากครับ คือเราติดตามผลงานท่านอยู่แล้ว แล้วได้มาร่วมงานกับท่าน แล้วก็ท่านก็เป็นอาจารย์สอนเราทางด้านวิชาการแสดง แล้วก็การใช้ชีวิตประจำวันด้วยอยู่แล้ว ซึ่งเป็นอะไรที่ได้ติดไม้ติดมือติดตัวไปใช้ตลอดชีวิต แล้วก็ตลอดอาชีพของนักแสดงเลย" นอกจากนี้พระเอกหนุ่มยังได้กล่าวถึงการร่วมงานกับสาว มัดหมี่ ว่า "มัดหมี่เขาเป็นนางเอกคนแรกของผมเลยที่ร่วมในการถ่ายภาพยนตร์แล้วก็เข้ามาในวงการ ก็ต้องขอขอบคุณมัดหมี่ ผมเชื่อว่ามัดหมี่ก็คงรอคอยภาพยนตร์เรื่องนี้ที่จะให้ทุกคนได้ดู แล้วแฟนคลับมัดหมี่ด้วยนะครับ ทุกๆ คนเลยที่ชอบ พันท้ายนรสิงห์ ก็คงรอคอยภาพยนตร์เรื่องนี้ แล้วเราก็พร้อมแล้วครับที่จะเข้าไปชมกันในโรงภาพยนตร์ครับ"
ด้าน ผู้พันเบิร์ด ที่เคยแสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มาแล้วยืนยันถึงบทบาทที่แตกต่างว่า "ผมบอกเลยครับว่าเรื่องนี้เนี่ยแตกต่างแบบพลิกฝ่ามือ คือไม่เหมือนเลยครับ ไม่เหมือนเลย ทุกๆ ท่านจะได้เห็นบทบาทของการแสดงของตัวผมเนี่ยอีกบทบาทหนึ่งนะครับ การเป็นทิดเดื่อ เป็นพระเจ้าเสือนะครับ รวมถึงผมอยากจะบอกว่าในภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมเล่นแล้วรู้สึกสบายกว่าเล่น ตำนานสมเด็จพระนเรศวร คือมันมีวิถีชีวิตของชาวบ้านนะครับ มีการเข้าไปสัมผัสชีวิตแบบชาวบ้าน รวมถึงการเข้าไปได้เรียนรู้วัฒนธรรมแบบชาววิเศษชัยชาญ การต่อยมวย การตกปลา การจีบสาวซึ่งเป็นเรื่องที่ถนัดที่สุดในชีวิต (ยิ้ม) มันเป็นเพียงบทบาทการแสดงครับ รับรองว่าเข้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้นะครับ ก็จะเห็นบทบาทของผมที่ไม่เหมือนพระนเรศวรจริงๆ ด้วย"
ผู้พันเบิร์ด อุบรายละเอียดของฉากที่ยากที่สุด แค่แง้มให้รู้ว่าเป็นฉากสุดท้ายของเรื่อง "ฉากสุดท้ายครับ คือเป็นฉากดราม่าสุดท้ายของเรื่องที่ผมคิดว่าหลายๆ ท่านก็อาจจะพอทราบอยู่บ้างแล้วนะครับ แต่เอาเป็นว่าผมไม่เฉลยที่นี่ดีกว่า อยากจะให้ทุกคนเนี่ยได้ไปสัมผัสและติดตามเนื้อเรื่อง ปล่อยอารมณ์ ปล่อยจิตใจ ความรู้สึกของท่านนะครับไปตามเนื้อเรื่องไปเรื่อยๆ แล้วก็ไปชมดูว่าฉากสุดท้ายจะเป็นอย่างไร" ส่วนสิ่งที่ผู้ชมจะได้รับกลับมาหลังจากชมภาพยนตร์แล้ว ผู้พันเบิร์ด บอกว่า "ท่านจะได้สัมผัสภาษาที่ไพเราะ หมายถึงว่าหูของท่านเนี่ยนะครับจะได้ยินภาษาที่ไพเราะ สายตาของท่านเนี่ยจะได้เห็นภาพที่สวยงาม ในขณะที่จิตใจของท่านเมื่อไปชมแล้วเนี่ยก็จะได้สัมผัสถึงอารมณ์ของความเป็นมิตรภาพ ของเพื่อน ได้สัมผัสถึงอารมณ์ของความรักของชายหนุ่มหญิงสาว และได้สัมผัสข้อคิดที่คุณสามารถที่จะนำมาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจในการดำเนินชีวิตครับ"
พบกับเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์สุดเข้มข้นที่ควรค่าแก่การจดจำ กับภาพยนตร์เรื่อง พันท้ายนรสิงห์ ติดตามกันได้ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2558 เป็นต้นไปในโรงภาพยนตร์