ลั่นกลองพร้อมรบใน ตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ ภาคสุดท้าย
"ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 6 อวสานหงสา" ถือเป็นการปิดฉากภาพยนตร์แห่งประวัติศาสตร์เรื่องเยี่ยมที่เดินทางมาเป็นเวลานาน 14 ปี ผลงานกำกับของ "ท่านมุ้ย - ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล" โดยเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2558 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ทางค่าย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ได้จัดงานเปิดตัวภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ ภาค 6 อย่างยิ่งใหญ่ แม้ ท่านมุ้ย จะไม่ได้มาร่วมงาน แต่ก็พร้อมพรั่งด้วยครอบครัวของ ท่านมุ้ย อย่าง "หม่อมบี๋ - หม่อมกมลา ยุคล ณ อยุธยา" "หญิงแมงมุม - หม่อมราชวงศ์ศรีคำรุ้ง ยุคล" "คุณชายอดัม - ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล" นักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง "ผีห่าอโยธยา" นำโดย "เต้ย - พงศกร เมตตาริกานนท์" "แต๊บ - ธนพล มหธร" "แม็กกี้ - อาภา ภาวิไล" บรรดาคนบันเทิง อาทิ "โทนี่ รากแก่น" "อาร์ต - อัสนี สุวรรณ" และ "ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง"
บรรยากาศเข้มข้นดุดันขึ้นเมื่อเหล่าทหารที่ยืนประจำจุดต่างๆ เริ่มต้นลั่นกลองสะบัดชัยเป็นจังหวะกึกก้องไปทั่วอาณาบริเวณ จากนั้นเหล่าดารานำก็ได้ขึ้นมาร่วมพูดคุยแบ่งปันถึงความรู้สึกที่มีต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ โดย "เอก - สรพงษ์ ชาตรี" นักแสดงมากฝีมือที่อยู่คู่กับภาพยนตร์มาตั้งแต่ภาค 1 เผยความรู้สึกว่า "ก็มีความรู้สึกว่าเราแสดงภาคแรกแล้วต้องอยู่ถึงภาคสุดท้ายเนี่ย มีคำสั่งห้าม ห้ามเจ็บ ห้ามป่วย แล้วก็ห้ามตายนะครับ ต้องอยู่ตลอด อยู่รับผิดชอบงานให้จบแล้วจะเป็นอะไรก็ได้นะครับ อยากจะบอกนะครับว่าท่านดู 14 ปีแล้ว ไม่รู้ว่าอีกกี่ปีจะมีคนสร้างแบบนี้อีกนะครับ ผมเดาไม่ออกเลยว่าอีกกี่สิบปีจะมีภาพยนตร์แบบนี้อีกนะครับ ที่ลงทุนสร้างโดยไม่คิดถึงผลกำไรใดๆ นอกจากความสุขของคนดู"
เช่นเดียวกันกับสาว "เกรซ มหาดำรงค์กุล" ที่อยู่มาตั้งแต่ภาคแรกกล่าวความรู้สึกว่า "รู้สึกใจหายค่ะ แน่นอนนะคะ การทำงานของเราเนี่ยเหมือนกับเป็นเวลาที่ยาวนาน แต่พอเอาเข้าจริงๆ พวกเรานักแสดงทุกคนไม่รู้สึกนะคะ รู้สึกว่าเหมือนเป็นครอบครัวกัน แล้วก็เหมือนอีกสักพักหนึ่งเดี๋ยวก็ได้เจอกันในกองถ่าย หรือว่าได้เจอกันในวันเกิดท่านมุ้ย วันเกิดหม่อม (หม่อมกมลา ยุคล ณ อยุธยา) หรือว่าวันแต่งงานพี่เบิร์ด (พ.ท. วันชนะ สวัสดี) หรือว่าวันแต่งงานน้องแอฟ (ทักษอร เตชะณรงค์) หรือว่าไปเยี่ยมน้องแอฟคลอดลูกอะไรอย่างนี้ค่ะ ก็เหมือนกับเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วก็เจอกันเป็นประจำค่ะ"
"ผู้พันเบิร์ด - พ.ท. วันชนะ สวัสดี" เอ่ยอย่างภาคภูมิใจที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชลงบนแผ่นฟิล์มว่า "ความรู้สึก ดีใจมามากที่สุดก่อน เพราะว่าผมดีใจที่เรื่องราวของพระองค์เนี่ยได้ถูกถ่ายทอดออกมาบนแผ่นฟิล์ม ซึ่งหลังจากนี้ไปเด็กๆ ก็ไม่ต้องอ่านหนังสือแบบเรียนแล้ว แค่ชมภาพยนตร์ก็จะสามารถรู้ได้แล้วก็สิ่งสำคัญก็คือผมเชื่อว่าคนไทยเกินกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่รู้ว่าหลังจากยุทธหัตถีแล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง เราก็จะได้ชมกันในภาคนี้ครับ ก็จะได้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง นี่คือความดีใจ ส่วนความเสียดายก็คือว่าเราก็จะไม่ได้มีโอกาสที่จะมาถ่ายทำหนังเรื่องนี้นะครับ ในภาค 7 ภาค 8 เพราะมันจบภาค 6 แล้ว ซึ่งจริงๆ นะอยากจะให้มีสัก 10 ภาคครับ"
ฟากนางเอกสาวของเรื่อง "แอฟ - ทักษอร เตชะณรงค์" เล่าถึงการเดินทางในชีวิตจริงควบคู่มากับบทของ มณีจันทร์ ว่า "ก็รับบทเป็นมณีจันทร์ตั้งแต่เป็นนางสาว จริงๆ ตั้งแต่เป็นนิสิตเลยค่ะ แล้วก็จนแต่งงาน จนตอนนี้เป็นคุณแม่แล้วค่ะ ก็ไม่น่าเชื่อว่าตัวเองจะโชคดีที่ขนาดเป็นคุณแม่แล้วก็ยังจะได้เล่นต่อนะคะ ท่านมุ้ยก็ยังสามารถทำให้เรารับบทมณีจันทร์ได้ต่อค่ะ" ด้าน "ผู้พันต๊อด - พ.ท. วินธัย สุวารี" ที่ได้รับบทเป็น พระเอกาทศรถ เปิดใจว่า "ก็ตอนที่เข้ามาสัมผัสในตอนแรก ก็คิดว่าเล่นหนังเนี่ยเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก เพราะว่าต้องได้รับการฝึกเยอะนะครับ แต่ก็อยู่มาก็คงคิดว่าน่าจะสักปีสองปี แต่ว่าพออยู่ไปมันเหมือนว่านี่คือครอบครัวอีกครอบครัวหนึ่งนะครับ นับไปนับมาตอนแรกยังนับไม่ได้ เบิร์ดเป็นคนบอกไล่ดูให้ดีนะเราอยู่มาตั้งแต่ปีไหน นับไปนับมาเออจริงๆ 14 ปีครับ ตอนแรกลืมนับเพราะว่าจริงๆ ช่วงเตรียมการแสดงด้วย เพราะว่าผมเองเข้ามาตั้งแต่รุ่นแรกนะครับ ตอนนั้นก็จะมีเบิร์ด มีแอฟ แล้วก็มีเกรซ"
"โน้ต - น.ท. จงเจต วัชรานันท์" ที่เข้าถึงความเป็นครอบครัวมากกว่าใคร เพราะเขาคือสามีของ เกรซ ในชีวิตจริง ว่า "ก็คือต้องขอบคุณทั้งหนังเรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และท่านมุ้ยที่เลือกผมเข้ามาได้มีโอกาสแสดงในเรื่องนี้นะครับ แล้วก็เบิร์ด พี่ต๊อด จะเรียกว่าเป็นแมวมองก็ได้นะฮะ" ส่วน "ปีเตอร์ - นพชัย ชัยนาม" ซึ่งสวมบทเป็น พระราชมนู เผยว่าไม่รู้สึกเสียดายที่ได้มาแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ "ผมว่าได้ทุกอย่างในชีวิตเลยครับ ได้วิชาความรู้ ได้มีครูที่ดี มีเพื่อนที่ดีแล้ว ก็ได้ทำงานที่เรารักครับ ได้ทุกอย่าง ไม่รู้สึกว่าเสียดาย รู้สึกว่าสิ่งนั้นจะอยู่กับเราตลอดไป เป็นความรู้สึกที่ดี"
มาถึงหนุ่ม "ตั๊ก - นภัสกร มิตรเอม" กล่าวความรู้สึกว่า "ต้องบอกว่าจริงๆ แล้วเป็นความรู้สึกดีใจนะครับที่ได้รับเกียรติมาร่วมงาน ตลอดเวลาจริงๆ ผมเป็นน้องสุดท้องเลยนะครับ ไล่มาเนี่ยผมมาทีหลังสุดเลย มาพอๆ กับโน้ตนะฮะ มาตั้งแต่ภาค 2 ครับ ผมมาภาค 2 คือตอนโตแล้วคือเราอัศจรรย์ที่เรามาภาค 2 ประมาณ 10 ปีครับ" นอกจากนี้ยังมีตัวละครใหม่อย่าง เม้ยมะนิก แสดงโดย "ปันปัน - เต็มฟ้า กฤษณายุธ" ซึ่งเจ้าตัวเล่าให้ฟังว่า "นอกจากได้ร่วมแสดงแล้ว แล้วก็ขี่ม้า รบ ทำทุกอย่างเลยค่ะ ก็ตอนแรกไม่เป็นสักอย่างเลย ก็ตื่นเต้นมากว่าจะไปถ่วงเขาหรือเปล่า ว่าตัวเองจะทำได้ไหม แต่ว่าดีมากที่ท่านมุ้ยก็เชื่อใจเราค่ะ แล้วก็มีครูคอยสอนอยู่ตลอดเวลา เราก็เลยต้องทำได้สิ พี่ๆ เขายังทำได้เลยอย่างนี้ค่ะ"
ผู้พันเบิร์ด เป็นตัวแทนนักแสดงทั้งหมดพูดถึงบทสรุปของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "แผ่นดินอันเป็นปึกแผ่นในปัจจุบันนี้นะครับ เราอยู่กันอย่างมีความสุข ก็สืบเนื่องมาจากวีรกรรมของบรรพบุรุษของเรานะครับ ที่เอาเลือดเอาเนื้อเอาชีวิตเข้าแลกไว้ เพราะฉะนั้นแล้วเราจะได้ไปเรียนรู้ถึงรากของความเป็นไทยว่ากว่าที่จะมามีแผ่นดินให้เราอยู่อย่างมีความสุขในปัจจุบันนี้ คนในสมัยก่อนเนี่ยเขาคิดอย่างไรนะครับ เขาทำอย่างไรแล้วท้ายที่สุดความเป็นคนจะเหมือนเดิมครับ มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นก้คือเหตุการณ์ที่ผมอยากจะบอกว่าเราควรจะใช้เหตุการณ์เหล่านี้มาเป็นประโยชน์ให้กับการดำเนินชีวิต สิ่งใดควรทำเราก็ทำ สิ่งใดไม่ควรทำเราก็อย่าทำ แล้วผมฝากว่าภาคนี้ทุกคนจะได้ทราบว่าเหตุการณ์หลังจากยุทธหัตถีเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งทุกคนจะได้รู้พร้อมกันในวันนี้ครับ"
เรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไรหลังเสร็จสิ้นสงครามยุทธหัตถี ติดตามบทสรุปของภาพยนตร์แห่งประวัติศาสตร์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 6 อวสานหงสา ได้ในวันที่ 9 เมษายน 2558 ณ โรงภาพยนตร์