บีม ศรัณยู วิวาห์สุดซึ้ง ให้คำมั่นเป็นดั่งไฟสว่าง
นักแสดงหนุ่ม "บีม - ศรัณยู ประชากริช" หลังจากเข้าพิธีหมั้นกับแฟนสาวนอกวงการ "ชาช่า - พัชร์สิตา ภักค์ไพบูลย์" ไปแล้วเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2558 ณ เบเนดิกต์ สตูดิโอ ล่าสุดทั้งคู่ก็ได้จัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสขึ้นในวันที่ 20 ธันวาคม 2558 ที่โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ กับรูปแบบงาน แสงสะท้อนแห่งความรัก (Love Reflection) โดยก่อนที่งานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสจะเริ่มต้นขึ้นเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ก็จูงมือกันออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องราวความรักของพวกเขาทั้งคู่
จัดงานหมั้นกันไปแล้ว จนมาถึงงานฉลองมงคลสมรส รู้สึกอย่างไรบ้าง
บีม "คือตั้งแต่วันหมั้นมานะครับ 27 กันยาฯ นะจนถึงวันนี้เนี่ยเรา 2 คนก็มีการวางแผนมาตลอด การปรับเปลี่ยนหรือว่า ต้องเรียกว่าทั้งออกแบบ ทั้งการตกแต่ง หรืออะไรก็ตามเนี่ยก็ได้ทีมที่โปรเฟสชันนอลทั้งหมดนะครับ แล้วก็ธีมงานต่างๆ เนี่ยช่าเขาก็เป็นคนรีเควส แล้วก็จัดสรรต่างๆ"
ชาช่า "ค่ะ ก็ตื่นเต้นคนละแบบค่ะ อย่างตอนงานหมั้นมันจะทุกอย่างเร็วไปหมด แล้วก็แขกก็จะไม่ได้เยอะขนาดนี้ อย่างวันนี้ตอนแรกไม่คิดว่าจะตื่นเต้น แต่ว่าเริ่มตื่นเต้นแล้วจะเจอพี่ๆ นักข่าวเยอะเริ่มตื่นเต้นแล้วค่ะตอนนี้"
หลังจากงานหมั้นเริ่มใช้ชีวิตคู่ด้วยกันหรือยัง
ชาช่า "เราก็เวลามีอะไร ตั้งแต่คบกันมาก่อนแต่งงานอยู่แล้ว เรามีอะไรเราก็แชร์กันอยู่แล้วค่ะ เราก็แชร์กันทุกเรื่องอะไรอย่างนี้ค่ะ จะทุกข์จะสุขอะไร มีอะไรเราก็ปรึกษากันตลอดอย่างนี้ค่ะ"
มีอะไรที่ต้องปรับเข้าหากันอีกไหม
บีม "ผมว่าตั้งแต่ก่อนจะหมั้นหรือว่าขอเขาเนี่ยปรับกันมาเยอะแล้วครับ"
ชาช่า "แต่จริงๆ มันก็ต้องปรับไปเรื่อยๆ ค่ะ เพราะว่าคือเราไม่รู้ว่าวันนี้พรุ่งนี้จะเป็นยังไง ก็ต้องปรับเข้าหากันในเรื่องของอารมณ์แล้วก็ทุกๆ อย่างอะไรอย่างนี้ การใช้ชีวิตเราก็ต้องปรับ คงปรับกันไปตลอดชีวิตแต่ว่าเราสองคนแฮปปี้ที่จะปรับ แล้วก็เราสองคนรู้สึกเราวิลลิงที่จะทำ เราไม่รู้สึกฝืนที่เราจะปรับเข้าหากันค่ะ"
ช่วงเวลาก่อนหมั้นกับหลังหมั้น ความรู้สึกแตกต่างกันไหม
บีม "ก็แตกต่างนะฮะเรื่องของทั้งการรับฟังหรือว่าการควบคุม ทั้งอีโมชันในเรื่องของอารมณ์ ในเรื่องของการถกเถียง ในเรื่องของการปรึกษากัน เราก็ต้องมีการเปิดใจมากกว่าเดิม แล้วก็อีกคนหนึ่งคือคู่ชีวิตนะครับหรือว่าสมองอีกซีกหนึ่งของเรา เราก็ต้องยอมรับฟังแล้วก็อะแดปต์หรือว่าปรับเปลี่ยนไปด้วยกัน ตรงนี้ผมว่าก็เป็นเรื่องที่สำคัญ แล้วก็ยิ่งไปเชิญผู้ใหญ่หลายๆ คนเนี่ย หลายๆ ท่านก็บอกอยู่เสมอว่า ชีวิตคู่จะไปรอดหรือไม่รอด ขึ้นอยู่กับการให้เกียรติซึ่งกันและกัน ซึ่งเราก็เอาตรงนี้มาปรับใช้ครับ"
ตลอดเวลาที่คบกันมา บีม สร้างความมั่นใจยังไงให้ ชาช่า บ้าง
ชาช่า "เขาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ คือมันคงเป็นไปไม่ได้ถ้าอยู่ดีๆ แบบจากเขาเป็นอีกคนหนึ่ง แล้วอยู่ดีๆ เขามาคบเราวันหนึ่ง แล้วภายในหนึ่งวันเขาจะเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งเลยอะไรอย่างนี้ ตรงนี้เราก็มีความเข้าใจให้เขาอะไรอย่างนี้ เราเห็นว่าเขาพยายามจริงๆ เขาเคยบอกเราจริงๆ ว่าเขาก็ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ เขาเป็นแบบนี้มาตลอดชีวิตเขาจะให้เขาทำยังไง เขาก็พยายามเปลี่ยนอยู่ พอเขาพูดคำนี้เราก็รู้สึกว่า คือเราเป็นแฟนเขาเราก็ต้องไม่ทิ้งเขา เราก็ต้องให้กำลังใจเขาอะไรอย่างนี้ค่ะ เราก็เลยโอเคก็อดทนกันมา ก็พยายามเข้าใจเขามาตลอด ก็จนในที่สุดเขาก็เปลี่ยนได้จนถึงขนาดวันที่เรารู้สึกว่าโอเคเรามั่นใจแล้วว่าเขาเปลี่ยนจริงๆ"
รู้สึกอย่างไรที่หลายคนบอกว่า ชาช่า สามารถลบลายเจ้าชู้ของ บีม ได้
ชาช่า "ก็รู้สึกดีค่ะเวลาที่มีคนเดินมาบอกเราว่าดีใจด้วยนะ แบบบีมเปลี่ยนจริงๆ บีมดีขึ้นจริงๆ กว่าเมื่อก่อน หรือจะเพื่อนสนิทเขาหรืออะไรอย่างนี้ บางทีเขาจะมีเดินมาบอกเราค่ะ หรือว่ามีมาพูดต่อหน้าบีมเขาเหมือนกันว่า พี่รู้สึกคุยกับบีมเดี๋ยวนี้พี่ไม่ค่อยกลัวบีมแล้วอะไรอย่างนี้ เมื่อก่อนเหมือนคนเวลาคุยจะกลัว เดี๋ยวนี้เขาจะเป็นคนที่คุยง่ายขึ้น หมายถึงว่าไม่รู้สึกเกร็งที่คุยด้วยค่ะ"
บีม มีการเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อ ชาช่า มากขนาดไหน
บีม "ก็เปลี่ยนเพื่อเขาหลายอย่างนะครับ คือมันไม่ใช่แค่ตัวเราเองด้วย เขาได้แสดงให้เห็น หรือว่าชี้แจง หรือว่าทำให้เห็นว่า การที่ถ้าตัวผมเปลี่ยนเนี่ยมันไม่ใช่แค่ตัวผมจะได้รับผลดี คนรอบข้างก็ได้รับผลดีไปด้วย คือเขาก็กล้ามาคุยกับผมมากขึ้น มีอะไรดีไม่ดีหรืออยากจะติชมอะไรก็สามารถมาคอมเมนต์ผมได้โดยตรง ซึ่งจริงๆ แล้วแต่ก่อนผมอาจจะเป็นแบบเป็นคนโลกของตัวเองสูงมาก หรือว่าไม่ค่อยรับฟังใครเท่าไรอย่างนี้ครับ เดี๋ยวนี้พอเราเริ่มแคร์คนอื่นเหมือนที่เขาแนะนำเราตลอด คือเราแคร์ความรู้สึกคนอื่นด้วย มันก็มีแต่คนที่อยากจะเข้าหาเราครับ แล้วมันก็เป็นเรื่องที่ดีไม่งั้นผมก็อยู่ในกะลาของตัวเองตลอดครับ"
อะไรในตัวของกันและกันที่ทำให้อยากชีวิตคู่ด้วย
บีม "ต้องบอกว่าวันแรกที่เราคบกันถึงวันนี้เกือบ 6 ปีนะครับ มันก็ไม่ได้ราบรื่นอยู่เสมอ ในปีแรกๆ นี่เราก็ต้องล้มลุกคลุกคลานบ้างนะครับ หรือว่าตัวผมเองที่ยังแบบไม่รู้จักคำว่านิ่ง หรือหยุดนะครับ เราก็ด้วยคนในวัยนั้น ทีนี้ในสิ่งที่เราเห็นในตัวเขา หนึ่งเขาเป็นคนที่มีความอดทนนะครับ มีการให้โอกาสนะครับรวมถึงเขาเป็นที่ไม่ใช่สั่งแต่เขาแสดงให้เห็นซึ่งตรงนี้มันเป็นจิตวิทยาขั้นสูงนะครับ ผมว่าหลายคนก็ต้องใช้ความอดทนไปด้วย ใช้ระยะเวลา ใช้ความใจเย็น ใช้ความเข้าใจในการให้อีกคนหนึ่งเปลี่ยน ก็ตรงนี้ผมเล็งเห็นแล้วว่าช่าเขาเป็นคนที่จิตใจดีมากๆ ไม่ว่าจะคน สัตว์ สิ่งของนะฮะ เขาคุยด้วยได้หมดเลย บางทีผมยังงงเลยว่าคุยกับตุ๊กตาช้างเหรอ มันก็คือเป็นความอ่อนโยนในใจเขาที่ไม่ต้องมาสร้างภาพ ไม่ต้องมาโซเชียลมีเดีย ซึ่งคู่ของเราไม่ใช่คู่แนวนั้นฮะ เราเลยไม่ได้สนใจเท่าไรแต่ว่าเรารู้สึกว่าเขาเป็นของจริงนะครับ ไม่ต้องมาแต่งไม่ต้องมาสร้างภาพไม่ต้องอะไร มันทำให้ผมรู้สึกว่ามันเป็นอีกคนหนึ่งที่ผมไม่ว่าจังหวะที่ผมดาวน์ในชีวิต หรือขึ้นในชีวิต เราพูดคุยเราแชร์กัน เราปรึกษากันได้ อาจจะมีอารมณ์กันบ้างเล็กน้อยในเรื่องของการถกเถียง แต่ว่าถ้าเรา 2 คนรู้ที่จะนิ่ง รู้ที่ปรับกันในสไตล์ของเรา 2 คนเนี่ยมันก็ไปรอดเสมอครับ"
ชาช่า "หนึ่งเลยคือเขาเป็นคนมีความพยายามสูงมาก แล้วช่าทราบว่าทุกย่างที่เขาพยายามปรับหรืออะไรอย่างนี้ คือจริงๆ เขาจะไม่ต้องปรับก็ได้เพราะว่าเขาก็เป็นตัวเขาอย่างนี้ เขาก็มีความสุขของเขาแบบนี้แต่ว่าเขาก็พยายามทำเพื่อเรา แล้วช่ารู้ว่าตลอดเวลา 6 ปีที่ผ่านมามันอาจจะไม่ได้ยากสำหรับบางคน แต่ช่าเชื่อว่าสำหรับบีมเนี่ยเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากนะคะ จากคนที่แบบอะไรก็เอาตัวเองเป็นหลักไม่เคยสนใจใคร วันหนึ่งอยู่ดีๆ เขาต้องมาปรับ หรือมาเปลี่ยนตัวเองให้เป็นแบบคนที่ดีขึ้น คือช่าทราบเลยว่าเขาทำเพื่อช่า แล้วช่าคิดว่าตรงนี้มันเป็นสิ่งที่ช่าแบบแอปพริชิเอตมาก เขาทำให้ช่ารู้สึกว่าจากวันแรกจนถึงวันนี้ ช่าคิดว่าเขาพร้อมและเขาอยากที่จะเป็นหัวหน้าครอบครัวจริงๆ อยากที่จะดูแลช่าแล้วก็ดูแลครอบครัวเล็กๆ ของเราจริงๆ"
วางแผนเรื่องทายาทไว้อย่างไร
ชาช่า "เรื่องน้องเนี่ยตอนนี้ช่าจะต้องดูแลตัวเองก่อน เพราะว่าตอนนี้ช่ายังไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไร สุขภาพไม่ค่อยดีเพราะว่าช่าเป็นคนไม่ค่อยทานผัก ไม่ค่อยทานอาหารมีประโยชน์อะไรอย่างนี้ค่ะ ตอนนี้ก็บำรุงอยู่ก็ถ้าพร้อมเมื่อไรช่าก็คงจะมี เพราะว่าอายุก็เริ่มเยอะแล้ว อยากจะเป็นคุณแม่วัยสาวแต่งตัวเปรี้ยวรับลูกไปโรงเรียน ยังไม่อยากแบบแก่อยู่บ้านแล้วให้พี่เลี้ยงไปส่งอะไรอย่างนี้"
ไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่ไหน
บีม "ฮันนีมูนจริงๆ เนี่ยคือหลังจากแต่งงานเราก็คงมีทริปปีใหม่ไปนิวยอร์กนะครับ ไปอเมริกา แต่ว่าก็ยังไม่ถึงฮันนีมูนมากนะครับ เพราะจริงๆ แล้วเราสองคนชอบสัตว์ จริงๆ อยากไปแอฟฟริกา เซาธ์แอฟริกา อยากไปแบบนอนซาฟารีฮะ เพราะเขาชอบสัตว์มาก คุยกับสัตว์รู้เรื่อง ผมก็เอาตามเขา"
สินสอดมีมูลค่าเท่าไร
บีม "คือสินสอดเราคุยกันตั้งแต่วันหมั้นแล้วเราก็มีอะไรให้แบบสมฐานะกันและกันนะครับ แล้วก็ทางผู้ใหญ่ก็เปิดไฟเขียวให้ตลอด แล้วก็มีท่านประธานเป็นคุณลุง แล้วก็เป็นคุณลุงของบีมนะครับคอยสู่ขอให้เป็นเถ้าแก่ก็ผ่านพ้นมาได้ดีมากแล้วก็เป็นที่ประทับใจ ก็ได้ภาพที่เราแฮปปี้มากเนอะ"
รูปแบบของงานคืออะไร
บีม "ธีมของเราก็จะเป็น เลิฟรีเฟลกชัน ก็คือแสงสะท้อนแห่งความรัก ดังนั้นเดกคอเรชันมันก็เลยมีทั้งกระจก มีทั้งความเงา มีทั้งความเก๋ครับ"
เรือนหอเป็นอย่างไร
ชาช่า "ก็ตามธรรมเนียมค่ะ ก็เข้าไปอยู่บ้านเจ้าบ่าวก่อนใช่ไหมคะ แต่ว่าเราก็มีดูที่เอาไว้ค่ะคุยเอาไว้แล้ว แต่ทีนี้คอนโดที่เราดูไว้ยังเป็นโครงการอยู่เลย ก็อาจจะต้องย้ายมาอยู่แถวในเมืองก่อนแล้วก็รออีกสักปีสองปี พอคอนโดสร้างเสร็จเราถึงจะได้เข้าไปอยู่ที่ใหม่จริงๆ"
จดทะเบียนสมรสกันหรือยัง
บีม "ยัง เดี๋ยวดูฤกษ์ดูยามกันนิดหนึ่ง เพราะเดี๋ยวจะไปเที่ยวอเมริกา เดี๋ยวเปลี่ยนนามสกุลไม่ทันอเมริกาไม่ให้เข้าประเทศครับ"
ชาช่า "ตอนแรกจริงๆ กะจะวันนี้ แต่ว่ากลัวเดี๋ยวมีปัญหาตอนไปอเมริกาเพราะว่าตั๋วเครื่องบินเราจองไว้เรียบร้อยล่วงหน้าไปหมดแล้วค่ะ ก็เลยกลัวเดี๋ยวเขาไม่ให้เข้าประเทศก็เลยต้องเอาไว้ก่อน"
อยากจะบอกอะไรให้แก่กันและกันไหม
บีม "ก็บอกเขาไปหมดแล้วหลายอย่างตั้งแต่วันที่ขอนะครับ แล้วก็แสดงความมั่นใจให้เขาเห็น จนวันที่แบบเราหมั้นกันนะครับ แล้วก็วันนี้เป็นวันฉลองมงคลสมรสแล้วนะฮะ เป็นวันเขาเรียกว่าเลี้ยงฉลองประกาศอย่างเป็นทางการ บีมก็ให้คำมั่นสัญญากับช่าอยู่ตลอดเวลานะว่าในสิ่งที่ผ่านมาบีมเป็นยังไง ทุกวันนี้บีมแสดงให้ช่าเห็นยังไง แล้วอนาคตต่อไปเนี่ยบีมก็บอกเขาเสมอ 2 คนนะครับ ว่าบีมจะไม่ทำให้ช่ารู้สึกผิดหวัง หรือว่าทำให้ช่ารู้สึกแบบ ต้องแต่งงานเข้ามาแล้วก็ต้องรู้สึกแบบเหมือนเข้ามาอยู่ในห้องมืด เพราะว่าบีมก็ยังเป็นห้องที่แบบมีไฟสว่างให้ช่าตลอด แล้วก็เดินไปถึงปลายทางด้วยกัน"
ชาช่า "ช่าก็อาจจะไม่ได้ต้องพูดอะไรมากเพราะว่าตลอดเวลาสิ่งหนึ่งที่ช่าเคยสัญญากับเขาตั้งแต่วันแรกที่ช่าคบเขาก็คือ เมื่อไรก็ตามที่เรายังคบกันอยู่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อไรก็ตามที่เขาต้องการช่า ช่าจะอยู่ตรงนั้นเพื่อเขาเสมอนะคะ ก็ 5 ปีกว่าที่ผ่านมาช่าก็ยังรักษาสัญญาเอาไว้ตลอดตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้นะคะ ช่าคิดว่ามันก็คงเป็นบทพิสูจน์ได้แล้วว่าหลังจากนี้ต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตราบใดที่เขายังต้องการช่าอยู่ ช่าก็พร้อมที่จะอยู่ข้างๆ เขาตลอดไป (น้ำตาซึม)"
สำหรับคนดังในวงการบันเทิงที่มาร่วมแสดงความยินดีก็มีมากมาย อาทิ "เจมส์ - จิรายุ ตั้งศรีสุข" "แคท - แคทรียา อิงลิช" "อุ้ม - ลักขณา วัธนวงส์ศิริ" "บีม - กวี ตันจรารักษ์" "ชาม - ไอยวริญท์ โอสถานนท์" "เจสซี่ - เจสสิกา ภาสะพันธุ์" "บอย - พิษณุ นิ่มสกุล" "หนุ่ม - อรรถพร ธีมากร" ที่มากับ "ฝ้าย - อริญรดา ธีมากร" นอกจากนี้ยังมีผู้จัดการดาราชื่อดัง "เอ - ศุภชัย ศรีวิจิตร" "นิวเคลียร์ - หรรษา จึงวิวัฒนวงศ์" ควงมากับแฟนหนุ่ม "เพชรจ้า - วิเชียร กุศลมโนมัย" บรรยากาศบริเวณงานถูกประดับตกแต่งไปด้วยดอกไม้นานาชนิดอย่างงดงาม เข้ากับแสงเทียนอันอบอุ่น มีอุโมงค์ดอกไม้ที่ภายในเรียงรายไปด้วยภาพถ่ายของเจ้าบ่าว และเจ้าสาว โดยปูพื้นเป็นแผ่นกระจกเงาเก๋ไก๋ ส่วนของชำร่วย คือช็อกโกแลตแสดงความขอบคุณ กับครีมทามือ ที่บรรจุภายในกล่องสีครีมอย่างดี