เจมี สวมบท ไมก์ ไทสัน กำกับโดย มาร์ติน สกอร์เซซี
หลังจากชนะรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายเมื่อปี 2005 จากการรับบทศิลปินตาบอด "เรย์ ชาร์ลส์" (Ray Charles) ในภาพยนตร์ชีวประวัติเรื่อง "Ray" คราวนี้ "เจมี ฟ็อกซ์" (Jamie Foxx) ก็กลับมารับบทบุคคลที่มีชีวิตอยู่จริงๆ อีกครั้ง โดยคราวนี้ เจมี ขอแปลงกายเป็น "ไมก์ ไทสัน" (Mike Tyson) นักมวยชื่อดังในภาพยนตร์เรื่องใหม่ โดย เจมี ยังเผยว่าได้ตัวผู้กำกับรุ่นเก๋า "มาร์ติน สกอร์เซซี" (Martin Scorsese) มารับหน้าที่กำกับ และได้ "เทเรนซ์ วินเทอร์" (Terence Winter) มือเขียนบทผู้เคยทำงานร่วมกับ มาร์ติน ใน "The Wolf of Wall Street" มาลงมือเขียนบทให้
นักแสดงหนุ่มเล่าว่า "ผมเพิ่งไป พาราเมาท์ (พาราเมาท์ พิคเจอร์ส) กับ ไมก์ ไทสัน ผมกำลังจะแสดงเรื่องของ ไมก์ ไทสัน ลองฟังดูนะครับ เราอยู่กันในห้อง เสนอเรื่อง ไมก์ ไทสัน ให้ทางพาราเมาท์ ไมก์ ไทสัน อยู่ด้านหนึ่งของห้อง ส่วนผมอยู่อีกด้านหนึ่ง รับบทเป็น ไมก์ ไทสัน ในเวลาเดียวกัน และ มาร์ติน สกอร์เซซี อยู่ที่แท่นกำกับ เรื่องนี้จะเป็นภาพยนตร์มวยเรื่องแรกของ มาร์ติน สกอร์เซซี หลังจากเรื่อง Raging Bull" เจมี อ้างถึง "Raging Bull" ซึ่งเป็นภาพยนตร์ชีวิตของอีกหนึ่งนักมวยแถวหน้า "เจก ลามอตตา" (Jake Lamotta) ที่คว้ารางวัลตัดต่อยอดเยี่ยม และทำให้ "โรเบิร์ต เดอ นีโร" (Robert De Niro) ผู้รับบทนักมวยในตำนาน ครองรางวัลออสการ์สาขานักแสดงชายสำเร็จเมื่อปี 1981
ไมก์ นักมวยเจ้าของเรื่อง คาดว่าจะมีการใช้เทคโนโลยีการถ่ายภาพแบบเดียวกับใน "The Curious Case of Benjamin Button" ที่เสนอภาพตัวละครของ "แบรด พิตต์" (Brad Pitt) ในช่วงวัยต่างๆ ตั้งแต่วัยชราจนกลายเป็นทารก เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของ ไมก์ ตั้งแต่สมัยเข้าวงการมวยใหม่ๆ จนถึงปัจจุบันในภาพยนตร์ประวัติชีวิตของตนเอง และหากถามไมก์ว่าจะดูภาพยนตร์ที่สร้างจากชีวิตของตัวเองหรือไม่นั้น ไมก์ขอตอบว่า "ผมไม่มีวันดูภาพยนตร์เรื่องนี้แน่ๆ ครับ หรือไม่ผมก็อาจจะดูคนเดียว" สาเหตุอาจเป็นเพราะการต้องหวนมองอดีตที่ผิดพลาดของตัวเอง บนหน้าจอภาพยนตร์เป็นเรื่องที่ท้าทายจิตใจน่าดู
ไมก์ เคยถูกตัดสินจำคุก 6 ปี เพราะคดีข่มขืนหลังจากเสียตำแหน่งแชมป์โลกไป และได้สร้างวีรกรรมโลกตะลึงขึ้นในนัดชกล้างตากับ "อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์" (Evander Holyfield) ที่อยู่ๆ ไมก์ ก็กัดหูของคู่แข่งจนขาดติดปากมาจนได้ฉายา จอมกัด นอกจากภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง "Tyson" ที่ "ไมเคิล เจ ไวต์" (Michael Jai White) รับบท ไมก์ แล้ว ก็ไม่มีใครนำเรื่องราวของนักมวยหมัดหนักผู้นี้มาสร้างเป็นภาพยนตร์อีกเลย ส่วนภาพยนตร์ที่วางตัว เจมี นำแสดงนั้นยังไม่มีชื่อเรื่องอย่างเป็นทางการ