1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

จาพนม ภูมิใจผลักดันภาพยนตร์ Skin Trade สู่ระดับโลก

จาพนม ภูมิใจผลักดันภาพยนตร์ Skin Trade สู่ระดับโลก

"คู่ซัดอันตราย" (Skin Trade) ภาพยนตร์แนวแอ็กชันฝีมือคนไทยที่ส่งออกไปไกลถึงระดับฮอลลีวูด ผลงานของผู้กำกับ "เอกชัย เอื้อครองธรรม" นำโดยนักแสดงชื่อดังจากต่างประเทศมากมาย ไม่ว่าจะเป็น "ดอล์ฟ ลันด์เกรน" (Dolph Lundgren) "รอน เพิร์ลแมน" (Ron Perlman) "ไมเคิล เจ ไวต์" (Michael Jai White) และนักแสดงไทยแท้อย่าง "จาพนม ยีรัมย์" หรือ "โทนี่ จา" (Tony Jaa) ที่สร้างชื่อมาจากภาพยนตร์เรื่อง "องค์บาก" เรียกได้ว่าจัดหนักบู๊เต็มพิกัดแน่นอน โดยเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2558 คณะผู้สร้าง รวมถึงผู้กำกับและนักแสดง ได้มาร่วมงานแถลงข่าวพูดคุยถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้

"ไมเคิล เซลบี" (Michael Selby) หนึ่งในโปรดิวเซอร์ เผยว่า "ภาพยนตร์เรื่องนี้คือความฝันของคนหลายคนนะครับ เราฝันว่าเราอยากจะทำหนังไทยจากประเทศไทย ซึ่งมีคุณภาพระดับฮอลลีวูดที่เราส่งออกไปได้ทั่วโลก ซึ่งผมยินดีมากที่จะบอกพวกคุณทุกคนว่าฝันนี้เป็นจริงในหลายระดับแล้ว คือภาพยนตร์เรื่องนี้นะครับ ณ ตอนนี้ขายไปเกือบจะ 100 ประเทศ" ฟาก เอกชัย เล่าถึงที่มาที่ไปในการทำภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "สาเหตุที่มาทำหนังเรื่องนี้ หนึ่งคือวันดีคืนดีก็มีคนบอกว่า ดอล์ฟ ลันด์เกรน ต้องการคุยกับคุณ เพราะเขาอยากให้คุณกำกับหนังเรื่องหนึ่ง เพราะว่าเขาไปดู บิวตี้ฟูล บ๊อกเซอร์ กับโปรดิวเซอร์อเมริกาแล้วรู้สึกว่าชอบหนังเรื่องนี้ แล้วดอล์ฟมาบอกผมทีหลังว่าจุดพลิกสำคัญที่เขาอยากให้ผมกำกับ คือเขาได้เอาหนังเรื่องนี้ บิวตี้ฟูล บ๊อกเซอร์ ไปให้ลูกสาวดู แล้วถามลูกสาวว่ารู้สึกยังไงกับผู้กำกับคนนี้ เขาบอกลูกสาวพูดประโยคเดียว คือคุณต้องทำหนังกับผู้กำกับคนนี้ ต้องขอบคุณลูกสาวดอล์ฟด้วย (ยิ้ม)"

สำหรับการร่วมงานกันครั้งแรกกับ จาพนม ผู้กำกับมือดีให้ความเห็นว่า "ก็เป็นแฟนผลงานจาอยู่แล้ว ไม่เคยทำงานมาก่อนแต่พอทำงานด้วยเนี่ย คือประทับใจ 2 อย่างครับ คือจาเป็นคนที่มีสมาธิสูงมาก แล้วสามารถไปอยู่จุดที่สมาธิเต็ม 200 ได้อย่างรวดเร็ว ใช่ คือแบบว่าคุยกันเล่นๆ อยู่ดีๆ เวลาถ่ายเสร็จคัตเนี่ย ชอบมาเล่าอะไรไม่รู้ทะลึ่งๆ ให้ฟัง พอถ่ายปุ๊บหมอนี่กลับไปเป็นสมาธิ 200 ได้อย่างรวดเร็ว ก็คือผมคิดว่าจามีความมุ่งมั่นที่พวกเรารู้จักกันดี เขาจะทำอะไรเขาจะทำให้เสร็จสำเร็จให้ได้ อย่างเรื่องนี้ฉากแอ็กชันเวลาที่เราคุยกันคือมันเหมือนตัวละครก็ยังดราม่าอยู่ แต่ว่าใช้ภาษาร่างกายในการต่อกร ซึ่งประเด็นนี้จาเขาก็ร่วมมืออย่างดี ก็เรียกว่าเป็นการร่วมงานที่สนุกแล้วก็หวังว่าจะได้ทำอะไรกันสนุกๆ ต่อไปครับ"

จาพนม บอกความรู้สึกเมื่อตนเองก้าวเข้าสู่ระดับฮอลลีวูดว่า "ผมรู้สึกภูมิใจครับ บอกได้เลยภูมิใจมากๆ ครับ ภูมิใจที่ได้มีโอกาสได้ไปยืนตรงจุดนั้น แล้วก็ได้มีโอกาสได้เปิดประตูฮอลลีวูดได้สำเร็จครับ" นักแสดงหนุ่มเล่าบทบาทในภาพยนตร์ให้ฟังว่า "ในเรื่อง Skin Trade ผมเล่นเป็นตำรวจ ตำรวจก็ต้องมีการฝึกฝน ก็ต้องมีกลยุทธ์ทุกสิ่งทุกอย่างคาแรกเตอร์ที่หลากหลาย บทบาทที่เราต้องปลอมตัว ต้องเล่นดราม่า และสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีเรื่องในการเล่นฉากเลิฟซีน ผมไม่คาดคิดเลยว่าในชีวิตผมจะได้เล่นฉากเลิฟซีน ปกติผมเล่นแต่กับช้าง นึกถึงภาพไหม ผมกอด โอ้โหช้าง แต่วันนี้มันเปลี่ยนไปครับ คือเราได้เล่นบทเลิฟซีนที่เป็นดราม่าไปด้วย แล้วคาแรกเตอร์ตรงนี้มันมีความลึกแล้วเราได้ต่อยอด คือผมกับพี่เอกคุยกันต่อว่าพี่ผมเล่นแอ็กชันเนี่ยปกติผมแอ็กชันอย่างเดียว แต่พอดราม่าเนี่ยผมไม่รู้ว่าผมจะไปอยู่ตรงไหน หมายถึงว่าอารมณ์ผมจะเป็นแบบไหน คือเราทำไม่ถูก แต่พอเราคุยกันเรื่องของฟีลลิงเรื่องของอารมณ์ แล้วมองไปถึงคาแรกเตอร์ มันมีที่มายังไง แล้วคาแรกเตอร์ของนางเอกมีที่มายังไง เกิดความสงสาร เกิดความเมตตา แล้วเราให้ความอบอุ่นกับเขาเนี่ยเราให้ยังไง ซึ่งตัวนี้ผมไม่เคยเล่น มันท้าทายมากกับบทบาทนี้ครับ"

ผู้กำกับมากฝีมือแง้มถึงความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ในเรื่องนี้เนี่ยคือมันเป็นหนังแอ็กชันเต็มรูปแบบแต่สิ่งที่ผมมองคือตัวละครอย่าง จา ดอล์ฟ รอน ไมเคิล เจ ไวต์ แล้วก็ เซลินา (Celina Jade) ทุกตัวมีบาดแผล บาดแผลไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายหรือจิตใจ แล้วทั้งเรื่องเนี่ยตัวละครกำลังจัดการกับวิธีการดำเนินการต่างๆ จากที่เขามี คือเราจะคุยกันเยอะว่ามันเกิดอะไรขึ้น ณ จุดนี้ซึ่งจาก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ในเรื่องของฉากแอ็กชันเนี่ยไม่ต้องห่วง จาเขาจัดเต็ม แล้วก็มีไอเดียสุดยอดมาเสนอตลอดเวลา แล้วทำให้ผมรู้สึกว่ามีการต่อกร คือเรื่องนี้ เรามี ไมเคิล เจ ไวต์ ซึ่งเป็น สปอร์น (จากภาพยนตร์เรื่อง Spawn) มาก่อน แล้วเขาก็เทรนในเรื่องเคียวคุชินคาราเต้"

ดารานักบู๊ชาวไทยเล่าประสบการณ์ในการร่วมงานกับนักแสดงฮอลลีวูดว่า "ตอนแรกก็เกร็งครับ แต่พอได้สัมผัสกับเขา ก่อนหน้านั้นคือเราไปทานข้าวด้วยกันแล้วมีการคุยกัน มิตรภาพเกิดขึ้นในระหว่างนั้น ทำให้ผมรู้สึกว่าผมยังต้องเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง แล้วก็ขอคำแนะนำจากเขา ซึ่งเขาก็ได้ถ่ายทอดให้เรา ซึ่งเขาก็ได้ชี้แนะให้เรา ไม่ว่าจะเป็นวิธีของการแสดง ไม่ว่าจะเป็นวิธีของการแตกคาแรกเตอร์ออกมา แล้วก็มิตรภาพในระหว่างการทำงานมีแต่ความสนุกสนาน แล้วผมมีความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งนะครับ ก็คือทุกคนเนี่ย 95 เปอร์เซ็นต์ทีมงานโปรดักชันไทย เขาชมทีมงานไทยว่าทำงานโปรเฟสชันนอลนะครับ และเป็นที่น่าภาคภูมิใจ คือเราได้นำเสนอเรื่องราวของคาแรกเตอร์ตำรวจไทย ที่มีมุมมองในการที่จะทำให้ตำรวจไทยมีการเชื่อมโยงกับต่างประเทศ ทำในระบบทีมเวิร์กนะครับ แล้วตำรวจไทยก็ไม่ด้อยกว่าประเทศใดในโลก"

งานนี้นักแสดง "เซลินา เจด" ยังได้ปรากฏตัวกลางงานแถลงข่าว โดยดาราสาวแนะนำตัวว่า "สวัสดีค่ะ (ภาษาไทย) ฉันแสดงเป็นตัวละครชื่อ มิน ค่ะ เป็นหญิงชาวเวียดนามที่มีอดีตที่เจ็บปวด แต่ว่ามินนำอดีตที่เจ็บปวดนั้นเปลี่ยนเป็นพลังในการขับเคลื่อนชีวิตค่ะ แล้วก็เอาตัวเองเสี่ยงไปเป็นสายสืบเพื่อเอาข้อมูลมาให้โทนี่จัดการกับอาชญากรรมข้ามชาติค่ะ" เซลินา พูดถึงเพื่อนร่วมงานอย่าง จาพนม ว่า "ก่อนที่ฉันจะเจอกับโทนี่ ฉันรู้แค่ว่าเขาเป็นนักแสดงคนหนึ่งค่ะ แต่พอเจอกันสิ่งที่ประทับใจคือเขาเป็นคนถ่อมตัว แล้วก็เป็นคนติดดิน มันยากนะคะที่จะเจอนักแสดงในวงการที่เป็นคนแบบนี้ ส่วนในเรื่องของฉากแอ็กชันฉันคิดว่าเขายอดเยี่ยมมาก เหมือนเหาะเหินเดินอากาศได้อย่างกับไม่ใช่คนเลยค่ะ"

จาพนม ได้กล่าวชมนางเอกคนสวยว่า "เขาเป็นนักแสดงที่มีจิตวิญญาณของการเป็นนักแสดงยอดเยี่ยมมากเท่าที่ผมเคยเห็นนะครับ เพราะว่าหนึ่งคือเขาได้นำวิธีการเล่นเรื่องของอารมณ์ในการจูนให้เราเข้าหากัน ซึ่งเป็นบทบาทที่ผมไม่เคยเล่นมาก่อน 2 คนที่ต้องมาดราม่าด้วยกันซึ่งมันเป็นสิ่งที่ยาก แล้วเขาก็สามารถที่จะดึงอารมณ์เข้ามา แล้วก็มาเข้าคาแรกเตอร์ด้วยกันได้ คือความเป็นมิตรภาพก็คือแฟนนะครับ" ซึ่งเมื่อหนุ่ม จาพนม พูดจบ สาว เซลินา ก็เอ่ยอย่างน่ารักเป็นภาษาไทยว่า "ไม่เข้าใจ (ภาษาไทย)" เรียกรอยยิ้มจากทุกคนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ เซลินา ยังให้คำนิยามถึงหนุ่ม จาพนม ตอนที่ต้องเข้าฉากหวานๆ กับตนเองว่า "เกร็งทุกส่วน (ภาษาไทย) ฉันพูดเล่นค่ะ ตอนแรกเขาอาจจะเกร็งนิดหน่อย แต่เขาก็เป็นมืออาชีพมากค่ะ ส่วนที่เหลือไปดูในภาพยนตร์นะคะ (หัวเราะ)"

พระเอกหนุ่มนักบู๊ฝากทิ้งท้ายอย่างภาคภูมิใจว่า "ขอบคุณสำหรับผู้ใหญ่นะครับ คุณไมเคิล เซลบี นะครับที่ให้โอกาส แล้วก็ที่ให้คำปรึกษา โปรดิวเซอร์ ทีมงานคนไทย 95 เปอร์เซ็นต์นะครับ ช่วยกันผลักดันเพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้น เพื่อให้เกิด Skin Trade นี้เกิดขึ้น เป็นการเปิดตลาดฮอลลีวูดเพื่อที่จะให้นักแสดงรุ่นต่อๆ ไปได้มีโอกาสเข้ามาและได้ไปยืนหยัดอยู่ตรงนั้น หนัง Skin Trade ผมมีความตั้งใจนะครับ แล้วก็เป็นอีกก้าวหนึ่งของผมที่จะก้าวบนถนนเส้นทางของฮอลลีวูด ซึ่งเราได้ทำมาแล้ว แล้วก็เราได้ก้าวต่อไป และโอกาสนี้หนังเรื่องนี้นะครับ เราภูมิใจที่จะนำเสนอประเทศไทย ความสามารถของคนไทย อยากให้ช่วยสนับสนุนที่จะสร้างแรงนะครับ ปลุกความสำนึกของความเป็นไทยขึ้นมา แล้วก็ช่วยกันที่จะสนับสนุนหนังไทยให้โกระดับอินเตอร์ เพื่อเชื่อมโยงมิตรภาพระหว่างฮอลลีวูดกับประเทศไทยต่อไปครับ ขอบคุณครับ"

เรียกได้ว่ายกขบวนนักแสดงขาบู๊มาอย่างคับคั่งในภาพยนตร์ Skin Trade คู่ซัดอันตราย ส่วนเรื่องราวจะมันดุเดือดขนาดไหน จะได้พิสูจน์สู่สายตาคนไทยหรือไม่ รอลุ้นกันได้ วันที่ 23 เมษายนนี้ ในโรงภาพยนตร์

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15
  • รูปภาพ 16
  • รูปภาพ 17
  • รูปภาพ 18
  • รูปภาพ 19
  • รูปภาพ 20
  • รูปภาพ 21
  • รูปภาพ 22
  • รูปภาพ 23
  • รูปภาพ 24
  • รูปภาพ 25
  • รูปภาพ 26
  • รูปภาพ 27
  • รูปภาพ 28
  • รูปภาพ 29
  • รูปภาพ 30
  • รูปภาพ 31
  • รูปภาพ 32
  • รูปภาพ 33
  • รูปภาพ 34
  • รูปภาพ 35
  • รูปภาพ 36
  • รูปภาพ 37
  • รูปภาพ 38
  • รูปภาพ 39
  • รูปภาพ 40
  • รูปภาพ 41
  • รูปภาพ 42
  • รูปภาพ 43
  • รูปภาพ 44
  • รูปภาพ 45
  • รูปภาพ 46
  • รูปภาพ 47
  • รูปภาพ 48
  • รูปภาพ 49
  • รูปภาพ 50
  • รูปภาพ 51
  • รูปภาพ 52
  • รูปภาพ 53
  • รูปภาพ 54
  • รูปภาพ 55

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Foxcatcher - แชนนิง เททัม ผู้รับบท มาร์ก และ มาร์ก รัฟฟาโล ผู้สวมบท เดฟ ใช้เวลา 5 ถึง 6 เดือนฝึกซ้อมมวยปล้ำ อ่านต่อ»
  • Hector and the Search for Happiness - ไซมอน เพกก์ และ โรซามันด์ ไพก์ ผู้รับบทสองสามีภรรยา เฮคเตอร์ และ คารา เคยแสดงร่วมกันมาก่อนใน The World's End (2013) อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

จากมหันตภัยครั้งยิ่งใหญ่โดยเงื้อมือของธานอส (จอช โบรลิน) ที่ล้างบางครึ่งจักรวาลและทำให้ทีมอเวนเจอร์สแตกกระสานซ่านเซ็น ท...อ่านต่อ»