เต้ย และ ฟาง พิสูจน์หัวใจในมุมมองแห่งรัก สี่เส้า
"สี่เส้า" (Love Is) ภาพยนตร์รักเรื่องแรกของปีนี้ที่บริษัท เอ็นจีอาร์ จำกัด โดย 2 พี่น้อง "เบียร์ - ธนธัช ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม" และ "บีม - รุสนันท์ ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม" ส่งออกมาให้แฟนๆ ซึ้งไปกับความรัก 4 มุมมอง กำกับโดย "ท้อท - การัณยภาส ขำสิน" เจ้าของรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 18 ประจำปี 2551 สาขากำกับศิลป์ยอดเยี่ยม จาก "วันเดอร์ฟูล ทาวน์" นำแสดงโดย "เต้ย - พงศกร เมตตาริกานนท์" กับการพลิกบทบาทครั้งสำคัญในมาดของหนุ่มเมืองกรุงนามว่า กมล ประกบคู่สาว "ฟาง - ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์" ที่มาสวมบทเป็น อาฉิง คุณครูสาวที่อาศัยอยู่บนดอย ร่วมด้วยหนุ่ม "เวฟ คูเปยจง" แสดงเป็น อาเว่ย ชายหนุ่มผู้แอบรัก อาฉิง และ "เวนดี้ หว่อง" เป็น เสี่ยวผิง หญิงสาวที่ทุ่มเทหัวใจให้คนที่รัก
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2558 ผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับ และนักแสดงได้มารวมตัวกัน ณ ร้านลิตเติ้ลฮ่องกง เพื่อร่วมงานแถลงข่าวภาพยนตร์เรื่อง สี่เส้า โดย บีม ได้กล่าวถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ภาพยนตร์เรื่อง สี่เส้า เป็นความสัมพันธ์ของคน 4 คน เหตุการณ์เกิดขึ้นที่แม่สลอง ประเด็นที่เราไปแม่สลองเนี่ย เราเจอคนจีนแล้วก็พูดภาษาจีนกันนะคะ เพราะฉะนั้นก็คือซึมซับ จนกระทั่งเวฟของเราเนี่ยเปิดร้านลิตเติ้ลฮ่องกง พวกเราก็พอรู้ว่าเป็นร้านน้องก็มากินฟรีประจำ รวมถึงวันนี้ค่ะ วันนี้จะเปิดจะอลังการงานสร้างก็มาใช้ร้านน้องเหมือนกัน แล้วก็มาจัดให้ดูเป็นกันเองค่ะ เพราะฉะนั้นวันนี้บรรยากาศก็จะเป็นกันเอง สนุกๆ เรามาเล่าในสิ่งที่เราอยากจะเล่าให้ฟังว่าตลอด 1 ปี 2 ปีที่ผ่านมา ที่ทุกคนรอคอยภาพยนตร์ สี่เส้า ทำไมมันช้าจังเลย"
ด้านผู้กำกับมือรางวัลเผยว่า "กว่าจะมาเป็นโปรเจกต์ตรงนี้ได้ ผมใช้เวลาเตรียมตัวมาตั้งแต่แรกจนถึงวันนี้นะคือ 8 ปีที่แล้ว แล้วก็บทรอบแรกที่เขียนขึ้นมาเนี่ยส่งให้พี่เบียร์ก่อน พี่เบียร์เป็นคนแรกที่ได้อ่าน แล้วทีนี้เราก็เดินทางมาเรื่อยๆ ตอนนั้นพี่เบียร์ยังไม่ได้ขึ้นมาเป็นผู้บริหารเต็มตัว เราก็ส่งบทไป แล้วก็ไม่ได้สักที เราก็เขียนไปจนผ่านมา 6 ปี เสร็จจาก 6 ปีแล้วเนี่ย กำลังจะได้เปิดแล้ว ใช้ชื่อโปรเจกต์ตอนนั้นชื่อว่า Goodbye My Love นะครับ แล้วก็ตอนช่วงที่น้ำท่วมเนี่ยมันก็ถูกปิดไป พอหลังจากที่โดนปิดไปปุ๊บ วันหนึ่งพี่เบียร์เขาก็โทรศัพท์มาถามเราว่าตกลงหนังเป็นยังไงบ้าง ได้ทำหรือยัง เราก็บอกว่ายังไม่ได้ทำ งั้นลองเข้ามาคุยใหม่อีกรอบหนึ่ง"
หนุ่ม เต้ย กล่าวถึงบทบาทที่ได้รับว่า "เป็นหนุ่มเทคโนโลยี หนุ่มเมืองกรุง ซึ่งคาแรกเตอร์ในนี้ก็จะพลิกบทบาทอย่างมาก ขอบคุณมากเลยนะครับที่ให้ผมได้รับโอกาสนี้ ซึ่งคาแรกเตอร์นี้มันมีความพิเศษอย่างหนึ่งครับ เพราะว่าตัวละครตัวนี้ได้รับอุบัติเหตุ ทำให้อะไรยังไงต้องติดตามชมครับ" ด้านสาว ฟาง แนะนำตัวละครว่า "เป็นคุณครูสอนภาษาจีนอยู่ที่บนดอยแม่สลองค่ะ ก็เหมือนกับว่าเป็นจีนยูนาน แล้วก็สอนภาษาจีนให้กับเด็กๆ แล้วก็อยู่กับอาม่า 2 คน แล้วก็มีอาเว่ยอีกคนหนึ่งนะคะ ก็โตมาแบบว่าไม่มีคุณพ่อคุณแม่ค่ะ แล้วเราค่อนข้างเป็นคนเข้มแข็ง เป็นคนเด็ดเดี่ยว แล้วก็เป็นคนรักกับกมลมานานเหมือนกันเพราะว่าเรียนมาด้วยกัน ก็ไม่ได้รู้สึกว่าแตกต่างอะไรมากกับตัวเองเท่าไรนะคะ จะมีหลายมุมที่เหมือนๆ กัน"
หนุ่ม เวฟ เปิดใจว่าการแสดงภาพยนตร์นั้นเป็นความฝันของตัวเอง "ถามว่าเป็นครั้งแรกเลยนะฮะ คือความใฝ่ฝันของผมตั้งแต่ผมมาเมืองไทยวันแรกเลย ต้องบอกนิดหนึ่งนะฮะผมเป็นคนจีน แต่ว่าคือตอนแรกมีโอกาสได้ดูภาพยนตร์ไทยมาตั้งนานแล้วครับ แล้วรู้สึกว่าภาพยนตร์ไทยเนี่ยเป็นภาพยนตร์ที่สุดยอดมากๆ สามารถไปอินเตอร์ได้ เพราะฉะนั้นเป็นความฝันของผมตั้งแต่มาเมืองไทยวันแรกเลยนะฮะที่พยายามพูดภาษาไทยให้ได้ แต่ก็ฝันไว้ว่าอยากจะเล่นหนัง สักวันหนึ่งจะเล่นหนังให้ได้ แล้วสุดท้ายก็มีโอกาสได้เล่นหนังก็ดีใจมากๆ เลยครับ ต้องขอบคุณพี่ๆ นะครับบริษัท เอ็นจีอาร์ ด้วยนะครับ"
หนุ่มลูกครึ่งจีนมาเลเซียที่ได้รับบทบาทเป็น อาเว่ย เผยว่า "เว่ยเป็นคาแรกเตอร์ที่ผมมองว่าเป็นผู้ชาย คือเล่นเป็นเด็กดอยนะฮะ บนดอยแม่สลองนะครับ เป็นเด็กดอยคนจีนนะฮะ ซึ่งจะมีบางมุมมองที่อาจจะแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรักนะครับ เรื่องความรักนี่แหละครับต้องบอกว่าอาเว่ยเนี่ยทำให้ผมรู้จักความรักมากยิ่งขึ้นนะครับผม" ทางสาว เวนดี้ เล่าถึงตัวละครที่ได้แสดงว่า "ก็เป็นผู้หญิงที่อาชีพนะคะเป็นพยาบาล ซึ่งตรงกับคาแรกเตอร์มาก เราเรียบร้อยมาก ก็เป็นคนที่สนุกสนาน รักเพื่อน เป็นคนที่น่ารักแล้วก็เป็นคนที่ค่อนข้างขี้เล่น แต่ว่าก็มีมุมหนึ่งที่มีความรักที่จริงจัง ไม่ว่าเขาจะทำอะไรกับเราแย่แค่ไหน เราก็ยังรักเขาอยู่ ไม่พูดเยอะแล้วเดี๋ยวติดตามนะคะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวไม่มีคนดู (หัวเราะ) ขอบคุณค่ะ"
บีม บอกมุมมองในการเลือกนักแสดงว่า "การเลือกนักแสดงเนี่ย มันหมายความว่าเมื่อเราอินกับบทที่เราอ่านทุกๆ วันมากๆ พอเราเจอนักแสดงที่มาแคสต์ ไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์สตาร์ เป็นคนที่ยังไม่รู้จักในวันนี้ หรือใครก็ตามเนี่ย พอเราอ่านบทแล้วพอเขามาคุยกับเรา มันจะพอรู้ว่าคนนี้คือกมลหรือเปล่า คนนี้คืออาฉิงหรือเปล่า คนนี้คืออาเว่ยหรือเปล่า คนนี้คือเสี่ยวผิงหรือเปล่า มันอาจจะมีบางจุดที่ไม่ค่อยตรงกับบท แต่ความรู้สึกเรามันเหมือนเรารู้จักผู้ชายคนนี้จังเลยจากสิ่งที่เราอ่านบทมาตลอด" โดยเริ่มจากบทของ กมล "ตัวหลักของเรื่องเนี่ย เป็นคนที่เราค้นหาว่ามีผู้ชายคนไหนที่ดูอบอุ่น ซิกแพ็กเนี่ยต้องใช่อยู่แล้วนะคะ ไม่ต้องขอดู เพราะดูได้ทุกวันอยู่แล้ว (หัวเราะ) เราอยากจะได้ผู้ชายที่อบอุ่น แล้วก็รู้สึกว่าเป็นคนที่เขาเชื่อมั่นในความรัก แต่ว่าเราไม่รู้ว่าใคร มีความทันสมัยที่หลายๆ คนอาจจะไม่เคยเห็นมุมนี้ แต่เรารู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ทันสมัย"
ส่วนการเลือก อาฉิง นั้น บีม เล่าว่า "อาฉิงเนี่ยในเรื่องจะต้องตัวเล็กๆ เดินต๊อกแต๊กๆๆ เหมือนเพนกวิน อาฉิงในเรื่องนะคะเขาจะเป็นคนที่รักแผ่นดินบ้านเกิด รักอาม่า กตัญญู เป็นคนที่มีความมั่นคง ภายนอกเขาอาจจะดูอ่อนหวานอ่อนโยน แต่จริงๆ แล้วดวงตาเขาเนี่ยเขาต้องเป็นคนเด็ดเดี่ยว ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าเราจะเอาใคร แล้วก็คิดว่าต้องเรียนเก่งเพราะว่าเป็นครู ต้องร้องเพลงได้ เพราะว่าบนดอยต้องมีเอ็นเตอร์เทน ต้องมีการร้องเพลงจีน ต้องพูดได้ แล้วก็เป็นการค้นหานักแสดงมาตลอดว่ามีไหมที่เป็นนักแสดงเป็นนักร้องก็ได้ แล้วก็เรียนเก่งด้วยข้างนอกดูหวานๆ อาจจะดูแบบแอ๊บๆ ติงต๊องนิดหน่อย แต่ข้างในเวลามุ่งมั่นแล้วทำได้อะไรอย่างนี้"
สาว ฟาง แง้มว่าภาพยนตร์จะให้ข้อคิดในเรื่องของความรัก "อยากจะบอกว่าเรื่องนี้นอกจากโลเกชันแล้วก็บทดีมากจริงๆ ก็อยากให้เข้าไปดู เข้าไปแบบโล่งๆ ไม่ต้องคิดอะไร แล้วก็เข้าไปรับในสิ่งที่พวกเราต้องการให้คนดูได้ดูจริงๆ คือเข้าไปซึมซับกับทั้งหนังทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเพลงหรือทุกอย่าง ที่มันทำให้ออกมาเป็นภาพยนตร์เรื่อง สี่เส้า นะคะ แล้วก็คิดว่าทุกคนเนี่ยนอกจากความสนุกหรือว่าความซาบซึ้งที่จะได้แล้ว ก็ได้ข้อคิดกับตัวเองว่าจริงๆ แล้วความรักของเราเป็นแบบไหน เราเป็นเหมือนใครใน 4 ตัวละครนี้ เพราะว่าคำว่าความรักมันเป็นคำที่กลมมีหลายด้าน ก็อยากให้เข้าไปแล้วก็ออกมา นอกจากความสนุกแล้วก็ได้ข้อคิดด้วยค่ะ"
ชวนสัมผัสบรรยากาศสุดโรแมนติกบนดอยแม่สลอง ซึมซับทุกอารมณ์แห่งความรัก ในภาพยนตร์ สี่เส้า (Love Is) วันที่ 12 มีนาคม 2558 เป็นต้นไป ที่โรงภาพยนตร์