1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

จา ฉลองวิวาห์หวาน ลั่นเจ้าสาวช่วยเติมเต็มในสิ่งที่หายไป

จา ฉลองวิวาห์หวาน ลั่นเจ้าสาวช่วยเติมเต็มในสิ่งที่หายไป

"จา - จาพนม ยีรัมย์" (เดิมชื่อ พนม ยีรัมย์ และ ทัชชกร ยีรัมย์) หรือ "โทนี่ จา" (Tony Jaa) พระเอกและผู้กำกับนักบู๊ที่สร้างชื่อเสียงในต่างแดนให้กับประเทศไทย จากลีลาการแสดงฉากแอ็กชันสุดมันในภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง "ต้มยำกุ้ง" หรือว่า "องค์บาก" ทั้ง 3 ภาค ควงคนรู้ใจสาวนอกวงการ "บุ้งกี๋ - ปิยรัตน์ โชติวัฒนานนท์" ทายาทเจ้าของโรงแรมดราก้อนบอล ในจังหวัดระยอง ประกาศข่าวดีหลังจาก จา ได้พบรักกับ บุ้งกี๋ ระหว่างที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "องค์บาก 3" ที่ใช้โรงแรมของฝ่ายสาวเป็นสถานที่ในการถ่ายทำ โดยพระเอกนักบู๊ได้จูงมือแฟนสาวจัดพิธีแต่งงานตามธรรมเนียม พร้อมทั้งจดทะเบียนสมรสไปแล้วตั้งแต่ปลายปี 2553 ก่อนจะได้ฤกษ์ดีในวันที่ 3 พฤษภาคม 2555 จัดงานเลี้ยงฉลองสมรสพร้อมฉลองทายาทตัวน้อยของครอบครัว ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ

บรรยากาศในงานเน้นตกแต่งแบบเรียบง่ายแต่ก็สื่อความหมายให้กับคนทั้งคู่เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสัญลักษณ์รูปช้างที่ใช้แทนตัวหนุ่ม จา ตกแต่งทั้งบนเค้กแต่งงาน หรือแม้แต่ของชำร่วยที่ใช้แทนคำขอบคุณแขกที่มาร่วมแสดงความยินดีก็เป็นตุ๊กตาเซรามิกรูปช้าง ซึ่งเวลาประมาณ 17.30 น. คู่บ่าวสาวก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงวันสำคัญของคนทั้งคู่

ความรู้สึกในวันนี้

จา "ความรู้สึกก็ตื่นเต้นมากครับ เป็นวันที่สำคัญมากๆ เลยครับช่วงวินาทีนี้ แล้วก็มีความสุขมากๆ ครับ"

บุ้งกี๋ "เช่นกันค่ะ มีความสุขมากๆ เหมือนกัน"

ความประทับใจที่มีต่อกันและกัน

จา "เขาเป็นเจ้าสาวที่มาช่วยเติมเต็มในส่วนที่เราหายไป อย่างปกติแล้วเราเป็นคนที่ทำงานจริงจังมาก ส่วนบุ้งกี๋เขามาละลายตรงนั้น ไปไหนมาไหนด้วยกัน แล้วก็ศึกษาดูใจกัน 3 ปีครับ ตั้งแต่ที่ผมไปถ่ายหนัง องค์บาก อยู่ที่จังหวัดระยอง แล้วก็ชวนเขาไปวัด ประทับใจเขามาก แล้วสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้แหละเราเลือก ไปเจอกับน้องเขา ตอนนั้นไปถ่ายภาพยนตร์เรื่อง องค์บาก ภาค 3 นะครับ แล้วก็ถ่ายโปสเตอร์หนัง แล้วก็เจอน้องเขาเอาสุกี้มาเสิร์ฟ"

บุ้งกี๋ "พี่จาเป็นคนน่ารักค่ะ อัธยาศัยดี แล้วก็เป็นสุภาพบุรุษค่ะ พี่จาเป็นคนโรแมนติกนะคะ มีมุมน่ารัก เวลาคุยกันหรือว่าเวลาไปไหน พี่จาก็แอบมีเซอร์ไพรส์บ้าง"

เรียกว่าเป็นรักแรกพบหรือเปล่า

จา "ใช่ครับ"

บรรยากาศตอนขอแต่งงาน

จา "เซอร์ไพรส์มากๆ ครับ"

บุ้งกี๋ "จะนอนแล้ว ดูทีวีอยู่ พี่จาก็เห็นละคร ก็เลยลงมาคุกเข่าบ้าง ขอแต่งงาน แต่งงานกันนะ บอกว่าทำไมต้องมาทำตามละครด้วย เขาบอกว่าไม่ละคร เรื่องจริง ก็ยังขำๆ อยู่ค่ะ ยังงงอยู่"

อะไรถึงทำให้รู้สึกว่าคนนี้ใช่

จา "คุณแม่เคยสอนแล้วก็เคยให้โอวาทไว้ว่าถ้าเป็นผู้หญิงที่เราเลือก ชวนไปวัดเลยลูก ผมก็ชวนไปวัดเลยครับ ชวนไปเคานต์ดาวน์ปีใหม่ที่วัดจนถึง 7 โมงเช้า เขาอยู่ได้จนถึง 7 โมงเช้า เราก็มีความรู้สึกว่าประทับใจมาก"

อายุห่างกันเป็นอุปสรรคบ้างไหม

จา "มีปัญหาไหมมันก็มีนะ เพราะว่าเราก็เพิ่งมาจูน แล้วก็ในส่วนที่เราเป็นคนจริงจังในเรื่องของการทำงาน น้องขามาช่วยเติมเต็มในส่วนที่เราหายไป ผมชอบร้องเพลงมันก็ช่วยในการรีแลกซ์ เขาก็ชอบร้องเพลงด้วย แม้กระทั่งพาไปหาผู้ใหญ่ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่เรา เขาก็เข้ากับพ่อแม่ของเราได้ดี แล้วก็พาไปหาเสี่ย (สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ) เสี่ยก็ชอบ เสี่ยก็อนุญาต นี่แหละครับคือสิ่งที่ผมลุยต่อ ยิ่งโดยเฉพาะพ่อกับแม่ของบุ้งกี๋เปิดไฟเขียวให้ ทำให้เราได้ศึกษาดูใจกันมากขึ้นครับ ไปเที่ยวด้วยกัน เราก็ได้รู้ว่าเป็นผู้หญิงที่คุยสนุก ไม่ว่าจะเป็นการบ้านการเรือน การทำกับข้าว เวลาเราเหนื่อยๆ มาเขาก็ทำอาหารให้เราทาน แล้วก็มีเมนูใหม่ๆ แปลกๆ ให้เราได้ชิมครับ

ซึ่งส่วนนี้เราก็ไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตแบบนี้ครับ ปกติแล้วเราเป็นคนที่ทำงานแล้วก็เดินสายตลอด ถ้าถ่ายหนังก็เป็นปี แต่ ณ ตรงนี้พอได้เจอน้องบุ้งกี๋เราได้ลดความจริงจังนั้นก็ลงมาที่ระดับปานกลางครับ อย่างเช่นศึกษาอารมณ์ของผู้หญิงเป็นยังไงบ้าง เวลางอนเราจะง้อเขาด้วยวิธีอะไร ก็เลยเป็นแนวทางที่ว่าเราพยายามไปไหนมาไหนด้วยกันอย่างเปิดเผย ผมไปงานวันเด็กก็เปิดตัวที่จังหวัดสุรินทร์ เราก็ไม่ได้ปิดบังอะไรครับ เราก็ไปปกติของเรา ไปวัดไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมเราก็ไปด้วยกัน"

เตรียมการสำหรับพิธีการ

จา "ก็เตรียมการมานานแล้วครับ 3 ปีที่คบกันมา เราก็มีการบอกผู้ใหญ่เป็นมั่นเป็นหมาย ผู้ใหญ่รู้ไม่ว่าจะเป็นทางพ่อทางแม่ คุณเสี่ยเจี่ยงก็รับรู้เรื่องของการงาน เราก็จัดให้เป็นระบบเป็นหมวดหมู่ให้เป็นการวางแผนที่ดี กับน้อง ญาติพ่อแม่ก็รับรู้กัน เราก็จัดพิธีหมั้นกันเรียบร้อย ทำพิธีแบบโบร่ำโบราณกัน แต่เรื่องของการทำงานเราก็ให้เป็นไทม์มิ่งที่เราต้องทำงาน เพราะว่าตอนนี้ผมถ่ายภาพยนตร์เรื่อง ต้มยำกุ้ง 2 อยู่"

ทำไมถึงทิ้งช่วงห่างนานจากปลายปี 2553

จา "ช่วงนั้นผมทำงาน แต่ผมมีความรู้สึกว่าต้องรอเวลาหาฤกษ์งามยามดี ทางผู้ใหญ่ก็หาฤกษ์ให้"

หลังแต่งงานจะลดการแสดงฉากบู๊ลงไหม

จา "ก็ยังบู๊ครับ อาจจะมีบู๊ผสมกุ๊กกิ๊กน่ารัก เพราะว่าได้ไอเดียใหม่ อาจจะมีสีสันมีความรักเพิ่มมากขึ้น หรือว่ามีตลกคอมเมดี เพราะว่าในส่วนที่น้องบุ้งกี๋มาช่วยเติมเต็ม อาจจะมีมุมกุ๊กกิ๊ก มุมความรัก มุมที่อาจจะไม่ได้เห็นในสิ่งที่จาพนมได้แสดงที่เคยเห็นภาพเก่าๆ"

วางแผนหลังแต่งงาน

จา "วางแพลนในอนาคตก็คือตอนนี้ก็อยู่กับพ่อกับแม่ก่อน เพราะว่าพ่อแม่ยังไม่อยากให้ออกไปไหน ก็อยู่ช่วยเหลือทางพ่อแม่ที่จังหวัดระยองครับ ตอนนี้ก็ไปอยู่กับพ่อกับแม่อยู่แล้ว แล้วก็ช่วยกิจการที่บ้านอยู่แล้วครับ"

สินสอดทองหมั้น

จา "ก็ตามความเหมาะสม คือเราก็ทำเต็มที่ครับ ให้น้องแบบเต็มที่ ตรงนี้คือผู้ใหญ่เขาจัดการให้ครับ"

วางแผนดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์

จา "ยังเลยครับ ฮันนีมูน มีแต่พาไปสุรินทร์อย่างเดียวเลย ช่วงนี้ต้องเร่งถ่ายหนังด้วยครับ ช่วงที่ผมเจ็บเขาก็ดูแล พาไปรักษา ได้เขามาช่วยดูแล ก็เติมเต็มในส่วนที่เราขาดหายไป"

ข่าวดีเรื่องทายาท

จา "ตอนนี้ประมาณเดือนกว่าแล้วครับ ก็รู้สึกดีครับ วันนี้เป็นวันที่สำคัญที่สุดแล้วครับในชีวิตของผม เป็นวันที่ผมรอคอยมาครับ วินาทีแรกที่เราได้รู้จากคุณหมอก็ตื่นเต้นแล้วก็ดีใจมาก แล้วก็รอลุ้นว่าเกิดวันไหน จะออกมาหน้าตาเหมือนพ่อหรือเหมือนแม่ 3 ปีที่เราใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน แล้วก็ทำพิธีหมั้นหมายแล้วก็แต่งแบบพิธีโบร่ำโบราณ ผู้ใหญ่ก็คุยเรียบร้อยครับในส่วนนั้นคือ 3 ปีเต็ม แล้ววันนี้คือวันที่เราได้มาฉลองกัน"

จา ดูแลอะไรเป็นพิเศษไหม

บุ้งกี๋ "ก็ปกติค่ะ ไม่ได้อะไรมากมาย ก็ตื่นเต้นค่ะ ตื่นเต้นมากๆ ดีใจค่ะ"

จา "ผมสอนนะ นั่งสมาธิแล้วก็ส่งให้เขา ลูกออกหมัดซ้ายอย่างนี้นะ ตีลังกาเป็นอย่างนี้นะ อยากให้ลูกจำเสียงเราได้ หรือว่าสามารถสัมผัสกับเราได้"

อยากได้ลูกผู้ชายหรือว่าผู้หญิง

จา "ได้ทั้งสองครับ แต่ว่าผมก็อยากจะมีผู้ชาย เพราะว่าอยากให้ออกมา โตมาแล้วเก่งมีความแข็งแกร่งจะได้ปกป้องน้อง คนที่ 2 เป็นผู้หญิง ก็รอลุ้นครับ"

คำมั่นสัญญาที่มอบให้กันและกัน

จา "ก็เป็นสัญญาใจ ที่เราดูแลซึ่งกันและกัน"

บุ้งกี๋ "สัญญาใจค่ะ คือเราก็เชื่อใจกันแค่นั้นค่ะพอแล้ว"

จากนั้นทั้งคู่ไปเตรียมตัวต้อนรับญาติผู้ใหญ่รวมถึงคนในวงการภาพยนตร์ที่มาร่วมแสดงความยินดี อาทิ "เสี่ยเจียง - สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ" ผู้บริหารค่ายสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และครอบครัว "พันนา ฤทธิไกร" "ปรัชญา ปิ่นแก้ว" และ "ปื๊ด - ธนิตย์ จิตนุกูล" ในส่วนพิธีการก็ได้ "เจมส์ – เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์" มาทำหน้าที่เป็นพิธีกร ส่วนทางด้าน เสี่ยเจียง รับหน้าที่เป็นประธานในพิธี แถมยังได้มอบเช็คเงินสดจำนวน 8 ล้านบาทให้กับ จา และ บุ้งกี๋ เป็นของขวัญอีกด้วย

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15
  • รูปภาพ 16
  • รูปภาพ 17
  • รูปภาพ 18
  • รูปภาพ 19
  • รูปภาพ 20
  • รูปภาพ 21
  • รูปภาพ 22
  • รูปภาพ 23
  • รูปภาพ 24
  • รูปภาพ 25
  • รูปภาพ 26
  • รูปภาพ 27
  • รูปภาพ 28
  • รูปภาพ 29
  • รูปภาพ 30
  • รูปภาพ 31
  • รูปภาพ 32
  • รูปภาพ 33
  • รูปภาพ 34
  • รูปภาพ 35
  • รูปภาพ 36
  • รูปภาพ 37
  • รูปภาพ 38
  • รูปภาพ 39
  • รูปภาพ 40
  • รูปภาพ 41
  • รูปภาพ 42
  • รูปภาพ 43
  • รูปภาพ 44
  • รูปภาพ 45
  • รูปภาพ 46
  • รูปภาพ 47
  • รูปภาพ 48
  • รูปภาพ 49
  • รูปภาพ 50
  • รูปภาพ 51
  • รูปภาพ 52
  • รูปภาพ 53
  • รูปภาพ 54

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Run All Night - เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 3 ที่ผู้กำกับ ฮวม คอลเล็ต-เซอร์รา และ เลียม นีสัน ผู้รับบท จิมมี คอนลอน ทำงานร่วมกัน สองเรื่องก่อนหน้านี้คือ Unknown (2011) และ Non-Stop (2014) อ่านต่อ»
  • Insurgent - เรื่องนี้เป็นภาคต่อของภาพยนตร์เรื่อง Divergent (2014) อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

10 ปีหลังจากที่มนุษย์ต่างดาวรุกรานโลก พลเมืองของชิคาโกแตกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มที่สวามิภักดิ์ต่อเอเลียนและกลุ่มกบฏต่อต้านที...อ่านต่อ»