1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

สืบทอดศิลปะไทยไปกับภาพยนตร์ตลกวัฒนธรรม เหลือแหล่

สืบทอดศิลปะไทยไปกับภาพยนตร์ตลกวัฒนธรรม เหลือแหล่

แรงบันดาลใจที่เกิดจากการที่คนไทยเริ่มลืมเลือนศิลปวัฒนธรรมและความเป็นไทยดีๆ ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ทำให้นักแสดงตลกและผู้กำกับรุ่นใหญ่อารมณ์ดี "โน้ต เชิญยิ้ม" หรือ "บำเรอ ผ่องอินทรกุล" จับมือกับเพื่อนตลกร่วมรุ่น "โย่ง เชิญยิ้ม" หรือ "พิเชษฐ์ เอี่ยมชาวนา" ในฐานะผู้กำกับหน้าใหม่ ผู้ที่มีหัวใจรักและคลุกคลีกับความเป็นไทยเหมือนกัน มาร่วมด้วยช่วยกันกำกับภาพยนตร์ตลกวัฒนธรรมเรื่อง "เหลือแหล่" เพื่อเป็นการสืบทอดศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของไทยให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักและช่วยกันอนุรักษ์รักษาเอาไว้ นอกจากนั้นทั้งคู่ยังเป็นนักแสดงหลักของเรื่องอีกด้วย

เปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง เหลือแหล่ รอบสื่อมวลชนไปเมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา ณ โรงภาพยนตร์เอสเอฟเอ็กซ์ ซีเนม่า เซ็นทรัล ลาดพร้าว ซึ่งก็มีทั้งผู้กำกับและเหล่านักแสดงที่มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ "ต้น - ณัฐวัตร ดีวงกิจ" "ไอซ์ - วราภัทร์ เพชรสถิตย์" "เอิร์น เดอะสตาร์" หรือ "เอิร์น - สุรัตน์ติกานต์ พรรคเจริญ" สาวหน้าหวานทายาทคณะลิเกชื่อดัง "ซาย - หทัยชนก สวนศรี" ร่วมสร้างสีสันด้วย "แจ๊ค - เฉลิมพล ทิฆัมพรธีระวงศ์" "เกด - ธัญญา รัตนมาลากุล" "เหลิม - เฉลิมศักดิ์ แย้มขะมัง" "พวง เชิญยิ้ม" และตลกรุ่นเด็ก "ไท - ศรีธนญชัย เชิญยิ้ม" หรือ "อาไท กลมกิ๊ก"

โน้ต บอกถึงความตั้งใจที่ต้องการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ผมเป็นคนรั้นครับ ผมอยากจะทำหนังที่ผมอยากจะทำ แต่ว่าบางทีการทำธุรกิจ นายทุนอาจจะว่าทำไมไม่ทำอย่างนี้ แบบชาวบ้านเขาทำ ผมบอก ไม่อ่ะ ผมอยากทำอย่างนี้ ถ้าอย่างนี้ไม่ให้ทำก็ไม่เป็นไร ผลที่สุดเขาก็ให้ผมทำเห็นไหมเนี่ย ผมไม่รู้อ่ะผมอยากทำอย่างนี้ แล้วผมก็บอกว่าท่านที่เป็นแฟนของโย่ง ที่ชอบฉ่อยหน้าม่านโย่งในคุณพระช่วย ต้องมาดูเรื่องนี้ ผมอยากจะบอกว่าแผ่นดินนี้ประเทศไทยเราเนี่ยกำลังตกเป็นเมืองขึ้นทางด้านวัฒนธรรมของชนชาติอื่น กำลังไปร้องเพลงฝรั่ง ฟังเกาหลีกัน อันนี้เราไม่ว่านะ แต่ว่าลองมาดูของไทยบ้าง"

ผู้กำกับ โน้ต เปรยต้องการสร้างความแปลกใหม่ในวงการภาพยนตร์ "วงการหนังไทยเรา เราก็พยายามจะอะไรที่หนังไทยไม่มี ไม่ได้ทำกัน เราก็อยากที่จะหาทำกันขึ้นมา ดังนั้นผมคิดว่าภาพยนตร์เรื่อง เหลือแหล่ เป็นภาพยนตร์ตัวเลือกที่ผมกับโย่งตั้งใจกันทำเรื่องนี้ขึ้นมา" พร้อมทั้งบอกว่าทำงานเหนื่อยที่สุดตั้งแต่เคยกำกับภาพยนตร์มา "ทำหนังมาหลายเรื่อง หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เหนื่อยที่สุด เพราะกว่าจะฝึกเด็กพวกนี้มาร้องมาเล่นดนตรีกัน ระนาดตีจริง ร้องจริง รำกันจริงๆ นะครับ"

โน้ต พูดถึงตอนที่เลือก ซาย มาแสดงก็ไม่คิดว่าจะเป็นคนใกล้ตัว "วันที่ผมแคสต์หานางเอกสักคนนึง ร้องเก่ง รำเก่ง ผมก็แคสต์โดยที่ผมไม่รู้มาก่อนว่าเขาคือใครมาจากไหน เพียงแต่ตอนนั้นที่มาบอกว่าชื่อน้องซาย เรียนอยู่จุฬาฯ ปี 2 คุยไปคุยมาเขาเป็นลูกสาวของเพื่อนรักผมเลย เด็กๆ เคยอยู่ด้วยกัน นอนวิกลิเกหอมหวนมาด้วย ลูกสาวของคุณพงษ์ศักดิ์ สวนศรี พระเอกลิเกชื่อดังเลย น้าโย่งเห็น น้าโย่งโอ้โหเลย แล้วก็ได้มาแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ต้องโชว์ความสามารถเยอะหน่อยนึง"

ส่วนนางเอกสาวหน้าใหม่ ซาย พูดว่า "สำหรับซายนะคะ ก็ต้องขอบคุณพ่อโน้ต เชิญยิ้ม มากที่ให้โอกาสมาเล่นหนังเรื่องแรกในชีวิต แล้วก็หนังเรื่องนี้ทำออกมาจากใจ เพราะว่าท่านทั้ง 2 คนรักจริงๆ ที่จะทำ เพราะปัจจุบันนี้คนก็รู้จักโขน ละครเยอะแล้ว แต่ท่านทั้ง 2 คนถือว่าเป็นคนที่หยิบยกศิลปะพื้นบ้าน เพลงฉ่อย เพลงอีแซว ลำตัด เพลงเรือ เพลงเกี่ยวข้าว ขึ้นมาให้ทุกๆ คนได้รู้จัก ให้เยาวชนได้รู้จัก เพราะว่าปัจจุบันนี้เพลงเหล่านี้ ถามพวกเรากันเอง ถ้าไม่ได้เล่นหนังเรื่องนี้ก็ไม่รู้จักด้วยซ้ำ"

ด้านหนุ่ม ต้น กล่าวถึงผลงานแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกของตัวเองว่า "รู้สึกดีใจครับ รู้สึกโชคดีที่ได้มีโอกาสเล่นหนังเรื่องแรกในชีวิต แล้วก็ตื่นเต้นมากครับ รู้สึกว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี ที่เป็นวัยรุ่นสมัยใหม่แล้วก็ได้โอกาสดีๆ ได้มารู้จักเพลงไทยเดิมได้เรียนอะไรเยอะแยะเลย ความรู้สึกจริงๆ ผมว่าหลังจากเล่นหนังเรื่องนี้แล้ว ผมอยากจะพูดในฐานะที่ผมเป็นวัยรุ่นสมัยใหม่ว่ามันมีเสน่ห์แล้วก็เป็นมรดกของชาติเรามาก แล้วก็อยากจะให้วัยรุ่นทุกๆ คนมาดูหนังเรื่อง เหลือแหล่ เพราะเป็นโอกาสดีๆ ที่สามารถทำให้ทุกๆ คนได้รู้จักเพลงไทยเดิม"

โน้ต เล่าถึงการเลือก เอิร์น มารับบทบาทในเรื่องว่า "ผมจู่โจมเลย คือเจอกันที่บริษัทเวิร์คพอยท์ ไปบันทึกรายการสักรายการนึง บังเอิญเจอกันในสตูดิโอเดียวกัน เอิร์นเล่นหนังสักเรื่องสิ ได้พูดคุยกันเขาก็รับปากไปแบบงงๆ เขากลับไปเขาก็งงๆ เขาเลยปรึกษาทางบริษัทแกรมมี่ โกลด์ ก็ขอบคุณทางแกรมมี่ด้วย แต่ผมบอกว่าผมแต่งเพลงไว้หนึ่งเพลง ผมอยากให้ร้อง แต่เพลงๆ นี้ผมยังไม่ตั้งชื่อ บังเอิญครูสลา คุณวุฒิ ท่านเห็นเนื้อร้อง เห็นทำนอง ท่านตั้งชื่อให้เป็นเพลง เคียวเกี่ยวใจ ก็เลยบอกเอิร์นต้องร้องเพลงนี้ด้วยประกอบในภาพยนตร์ นอกจากมีเพลงฉ่อยที่ต้นร้อง เพราะต้องร้องเพลงนี้เอิร์นก็เลยรับปาก แล้วก็คิวได้ทุกคิวด้วย ยิ่งดีใหญ่เลย"

ด้าน เอิร์น รู้สึกภูมิใจที่ได้รับเลือกให้แสดงในเรื่องนี้ "เอิร์นก็รู้สึกภูมิใจนะคะ พอได้เล่นแล้วได้มาร้องเพลงด้วย ทั้งเพลงพื้นบ้านเอง แล้วก็เพลงลูกทุ่งแท้ๆ เป็นอะไรที่รู้สึกภูมิใจค่ะ ยังไงฝากหนังเรื่องนี้ด้วยนะคะ ฝากเป็นกำลังใจให้กับพวกเราทุกคนด้วยนะคะ" แม้ว่าจะถนัดร้องเพลงลูกทุ่ง แต่พอต้องมาร้องเพลงพื้นบ้าน เจ้าตัวก็บอกว่า เหมือนต้องเริ่มต้นเรียนร้องเพลงใหม่เหมือนกัน "เหมือนกับว่าต้องมาเริ่มใหม่เหมือนกันค่ะ ทุกคนต้องมาเข้าคลาสเรียนร้องเพลงกับแม่ศรีนวล (ศรีนวล ขำอาจ) มีทั้งเพลงเรือ เพลงเกี่ยวข้าว เพลงฉ่อย ต้องมาเริ่มใหม่กันหมดเลย ซึ่งจริงๆ แล้วสนุกนะคะ แล้วก็พอร้องๆ ไปแล้วกลับชอบซะด้วยซ้ำค่ะ"

ฟากหนุ่ม ไอซ์ เผยความรู้สึกที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์ว่า "ส่วนไอซ์ก็ดีใจครับ ขอบคุณทั้งทางพระนครฟิลม์ ขอบคุณป๋าโน้ต ขอบคุณน้าโย่งครับ จริงๆ ก็ดีใจครับ เพราะว่าการร้องเพลงของผมนี่ไม่เก่งอยู่แล้ว แล้วก็เป็นอะไรที่ยากเหมือนกัน ก็ดีใจที่ได้เล่นครับ แล้วก็ดีใจอีกครั้งที่ทำได้เต็มที่อย่างนี้ครับ"

โย่ง กล่าวถึงจุดเด่นในเรื่องของภาษาว่า "ความเป็นภาษาไทยมันอยู่ในคำร้อง ความเป็นศิลปะโบร่ำโบราณเราอยู่แล้ว เขาถึงบอกว่าร้องให้สุดคำ รำให้สุดแขน ภาษาไทยต้องชัด แล้วก็ฝากไว้ด้วยนะครับ อยากให้ทุกคนมาดูใจเรา 2 คน เพราะว่าเราเอาสิ่งที่อยู่ในใจเรา 2 คนเนี่ยเอาไว้ในจอเรียบร้อยแล้วครับ" เมื่อถามถึงความคาดหวังสำหรับรายได้ ผู้กำกับมือใหม่ก็ตอบอย่างอารมณ์ดีว่า "ผมไม่ได้คาดหวังอะไรเยอะแยะมากมาย จะได้เยอะผมก็ไม่ห้าม ไม่กล้าไปห้ามเขาหรอก ได้ยังไงก็ไม่เป็นไร แต่ได้ทำแล้ว ได้เอาใจ สิ่งที่อยู่ในใจไปไว้ในจอแล้วเนี่ย เราก็ชื่นใจแล้วนะครับ หวังว่าท่านมาดูแล้วก็คงจะได้รับความชื่นใจกลับไปครับ"

โน้ต กล่าวฝากผลงาน เหลือแหล่ ว่า "ภาพยนตร์เรื่องนี้ฝากไว้ด้วยนะครับ คือผมกับโย่งคุยกันว่าเราอยากทำหนังตลกวัฒนธรรม มีแต่คำสวยๆ แล้วที่น่าภูมิใจที่สุดนะครับ กองเซ็นเซอร์ของภาพยนตร์ ให้เรตของภาพยนตร์เรื่องนี้ ท. ทั่วไป พอดูหนังเราจบปุ๊บคณะกรรมการทุกท่านลุกขึ้นปรบมือให้หนังเรา ต้องขอบคุณทางพี่หมึกดำ - พลเอกธันวาคม ทิพยจันทร์ ด้วย ทุกท่านให้ความสนใจกับหนังเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้ท่านอาจจะมองว่าจะเชยหรือเปล่า ต้องไปดู เพราะเอาเด็กวัยรุ่นมาเล่นให้ร่วมสมัยขึ้นครับ"

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยอนุรักษ์และสืบสานศิลปวัฒนธรรมความเป็นไทยไปกับ เหลือแหล่ ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน นี้เป็นต้นไปในโรงภาพยนตร์

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15
  • รูปภาพ 16
  • รูปภาพ 17
  • รูปภาพ 18
  • รูปภาพ 19
  • รูปภาพ 20
  • รูปภาพ 21
  • รูปภาพ 22
  • รูปภาพ 23
  • รูปภาพ 24
  • รูปภาพ 25
  • รูปภาพ 26
  • รูปภาพ 27
  • รูปภาพ 28
  • รูปภาพ 29
  • รูปภาพ 30
  • รูปภาพ 31
  • รูปภาพ 32
  • รูปภาพ 33
  • รูปภาพ 34
  • รูปภาพ 35
  • รูปภาพ 36
  • รูปภาพ 37
  • รูปภาพ 38
  • รูปภาพ 39
  • รูปภาพ 40
  • รูปภาพ 41
  • รูปภาพ 42
  • รูปภาพ 43
  • รูปภาพ 44
  • รูปภาพ 45
  • รูปภาพ 46
  • รูปภาพ 47
  • รูปภาพ 48
  • รูปภาพ 49
  • รูปภาพ 50
  • รูปภาพ 51
  • รูปภาพ 52
  • รูปภาพ 53
  • รูปภาพ 54
  • รูปภาพ 55
  • รูปภาพ 56
  • รูปภาพ 57
  • รูปภาพ 58
  • รูปภาพ 59
  • รูปภาพ 60
  • รูปภาพ 61
  • รูปภาพ 62
  • รูปภาพ 63
  • รูปภาพ 64
  • รูปภาพ 65

ความคิดเห็น

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ในอดีต

  • Alexander
    เข้าฉายปี 2004
    แสดง Colin Farrell, Jared Leto, Angelina Jolie
  • Puss in Boots
    เข้าฉายปี 2011
    แสดง Antonio Banderas, Salma Hayek, Zach Galifianakis
  • ฝนตกขึ้นฟ้า
    เข้าฉายปี 2011
    แสดง นพชัย ชัยนาม, ศิริน หอวัง, อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Unbroken - เดน ดีฮาน เกือบได้แสดงบท หลุยส์ แต่สุดท้ายแล้วบทนี้ตกเป็นของ แจ็ก โอ'คอนเนลล์ อ่านต่อ»
  • Focus - เป็นภาพยนตร์เรต R เรื่องแรกของ วิลล์ สมิธ ผู้รับบท นิกกี หลังจาก Bad Boys II (2003) อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

โจ มาร์ช (เซอร์ชา โรแนน) ได้สะท้อนชีวิตของเธอออกมา เล่าถึงเรื่องราวของพี่น้องตระกูลมาร์ช อันเป็นที่รักของเธอ หญิงสาว 4 ...อ่านต่อ»