วิจารณ์ Alexander
-
Keir@_{L&O}
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 2 ม.ค. 50 13:50
ไปดูในโรงมา สนุกดี นักแสดงทุกคนเล่นได้สมบทบาท สื่ออารมณ์ออกมาได้ดี เฮ้อ ชีวิต
-
คนคลั่งอเล็กซานเดอร์
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 30 ต.ค. 49 21:14
ตอนแรกก็ไม่คิดจะสนใจนะ แต่พอเจอหนังสือที่โรงเรียนก็ทำให้อเล็กซานเดอร์อยู่ในใจตลอดเวลา สำหรับหนังถือว่าทำได้ดีแล้วก็ตรงตามหนังสือมากๆเลย แล้วก็เลือกนักแสดงได้เหมาะนะ
แล้วก็อยากรู้ว่าเป็นเกย์ผิดตรงไหน เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายที่ต้องคว้าเพื่อนสนิทมาแก้เหงา เราเข้าใจอเล็กซานเดอร์นะ ทั้งในหนังและในหนังสือ ถึงแม้เราไม่ใช่ผู้ชายและไม่มีสิทธิ์เป็นเกย์ก็เข้าใจ แต่สิ่งที่เรานึกถึงเสมอคือ "อเล็กซานเดอร์ไม่เป็นเพียงมหาราช แต่เป็นยิ่งกว่า พระองค์ไม่ได้สร้างอาณาจักรเพื่อทองคำ แต่สร้างเพื่อจิตใจ พระองค์ไม่ต้องการสร้างความแตกแยก แต่ต้องการรวบรวมอาณาจักร และความต่างทางเชื้อชาติ ให้เป็นปึกแผ่น" (เสียดายเกิดช้าไป ไม่ทันเห็นอเล็กซานเดอร์) -
*-*G*-*A*-*Y*-*
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 29 ก.ย. 49 12:41
ชอบมากเลย . . หนังประวัติศาสตร์ แบบนี้คุณทุกคนลองคิดดูว่าเรื่อง Alexander นั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงมาแล้วถ้าคุณคิดแบบนี้มันจะรู้สึกเข้าใจในเนื่อเรื่องของหนังมากยิ่งขึ้นในประวัติศาสตร์ *เราคิดว่าผู้ชายกรีก โบราณ เรื่องที่ว่าชายรักชายนั้นมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องผิดอะไรนิ ถ้าเกิดในสมัยนั้นคงดีไม่น้อย อีกอย่าง โคลิน เล่นบทนี้ได้ดีมาก สื่อถึง อเล็กซานเดอร์ที่มี ทั้งความแข็งแกร่ง และความอ่อน โยน ดูเรื่องนี้ชอบ โคลินขึ้นเยอะเลย
-
K-hard@hotmail.com
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 21 ธ.ค. 48 19:29
งึม...โอลิเวอร์สโตน เค้าพูดถึงความ HOMELESS ของ อเล็กซานเดอร์นะ
ตรงนั้นแหละที่สะเทือนใจมากกว่าความสนุกไร้สาระ และก็เรื่องเกย์ที่ผิวเปลือกมากกกกก
ทำไมไม่มีคนไทยคนไหนมองเห็นเลยนะ..เอ๊ะรึมี...??? -
อดิฐษ์พงษ์
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 23 ส.ค. 48 09:15
ชอบพระเอกมาก
-
gay
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 25 มิ.ย. 48 23:07
เป็นวิธีการอธิบายประวัติศาสตร์ ตามที่ผู้กำกับเชื่อ
แต่ผมว่ามันไม่ work เอาเลย
เคยได้ยินมาว่าต้นแบบภาพสลักพระพุทธเจ้าที่มีผม มีมวยผม(ทั้งที่จริงต้องโกนหัว)
มาจากอเล็กซานเดอร์เข้าไปในอินเดีย และศรัทธาพุทธศาสนาด้วย
แต่ดูแล้วเหมือนไม่ได้ยึดอินเดียเลย
ส่วเรื่องพฤติกรรมทางเพศนั้น เน้นมากไป ผมเป็นเกย์ยังไม่ชอบเลยอะ -
์Nelly
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 22 พ.ค. 48 20:09
ผมว่าผู้กำกับให้ความสำคัญกับความรักของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ผิดธรรมชาติมาก การทำสงครามรวบรวมดินแดนแถบเอเชีย ที่ทำให้ชื่อเสียงของท่านเป็นตำนานถึงทุกวันนี้ ฉากที่ว่านี้กับเป็นการเล่าเรื่องของตาแก่ซะส่วนมาก มีแค่ฉากรบกะกองทัพเปอร์เซียกะทัพช้างของอินเดียแค่เนี้ยแล้วในหนังทัพมาเซโดเนียจะแพ้อยู่แหละทัพช้างเผือกหนี - -" ทั้งที่ในประวัติศาตบอกว่าทัพมาเซโดเนียชนะ แต่ไม่แน่นะโอลิเวอร์อาจต้องการสื่อสภาพแวดล้อมความกดดันทางจิตใจของท่านทั้งแม่ทั้งกองทัพที่ไม่เห็นด้วยต่อการรบอย่างบ้าคลั่งของท่าน และความรักที่ไม่เป็นที่ยอมรับต่อสายตาคนอื่น ก็ได้
-
Pallas Athena
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 21 พ.ค. 48 23:13
ฮือ......อเล็กซานเดอร์ต้องไม่เเป็นเกย์แน่ๆ แต่อยากรู้ว่าเขาเอาข้อมูลมาจากไหนที่ว่า เขาเป็นพวกไบเซ็กชวล เราว่าไม่ใช่ ทำไมต้องให้โรซานน์เป็นผู้หญิงนิกรอยด์ ความจริงน่าจะใช้ผู้หญิงธรรมดาที่หน้าคล้ายๆผู้หญิงแถบๆตะวันออกกลางเช่นคนที่แสดงเป็นเจ้าหญิงสตาไทร่าก็ได้ ที่พูดเนี่ยไม่ใช่พวก Klu Klax Kan(ชมรมเหยียดสีผิวในอเมริกา) หรอกนะ มันเป็นความคิดส่วนบุคคล เพื่อนๆที่ดูแล้วก็บอกเหมือนกัน เรื่องฉากก็อลังการมากๆ ส่วนคุณพี่คอลิน ฟาร์เรล ก็....น่ารักดี สำหรับความคิดเห็นของคุณหิมาลัย ม.4 ครับ การที่คุณบอกว่าเรื่องมันไม่ประติดประต่อ เราพอจะเดาออกว่า หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใช้คนที่เล่าเป็นคนที่เคยอยู่กับอเล็กซานเดอร์นั่นเองถ้าพูดตรงๆก็คือ การเล่าประวัติของเขาจากปากของคนที่เคยอยู่กับอเล็กซานเดอร์ เราเคยอ่านนิยายเรื่องอเล็กซานเดอร์ โอรสแห่งความฝัน เขาใช้วิธีเริ่มเรื่องคล้ายๆอย่างนี้แหละ แล้วที่บอกว่ามันมีฉากไร้สาระเยอะ คุณต้องเข้าใจนะว่ามันเป็นหนังอิงประวัติศาสตร์ถ้าเขาเอาแต่เนื้อๆ เชื่อเลยมันก็จะน่เบื่อ คุณลองไปสังเกตดูเรื่องสุริโยไทสิก็มีฉากที่เพิ่มสีสันเหมือนกันซึ่งมันอาจจะอยู่หรือไม่อยู่ในพงศาวดารก็ได้ เช่น ฉากพระสุริโยไทตอนวัยเยาว์สเด็จไปดูคล้องช้าง ตอนที่ขุนพิเรนทรเทพเจอกับพระสวัสดิราช
สรุปย่อๆก็คือ มันเป็นศิลปพในการทำภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ -
อะเฮ
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 20 พ.ค. 48 00:10
เป็นภาพยนตร์ที่ดีมากเรื่องหนึ่งให้เรารู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ของวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ของโลก เนื้อเรื่องก็ดี อเล็กซานเดอร์จะเป็นเกย์หรือไม่ไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าเขาเป็นผู้ที่รวมโลกของเราไว้ถ้าไม่มีเขาเราจะเป็นได้เหมือนได้ทุกวันนี้ไม่ ถึงเขาจะรักชายกับชาย(เฮฟาอีสเทียน) แต่เขาก็ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนนิน่า ดูแล้วเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ต่างหากที่ทำตามสัญญาที่ได้พูดไว้กับ เฮฟาอีสเทียน ว่าถ้าผู้ใดเป็นผู้ฆ่า เฮฟาอีสเทียน เขาจะเเก้แค้นให้แล้วจะฆ่าตัวตายเพื่อจะได้ไปอยู่ด้วยกัน เป็นความรักที่หาได้ยากมากๆๆๆๆๆ ความรักเกิดจากความซื่อสัตย์ การห่วงใย และการมอบความรู้สึกที่ดีๆให้กับเขา(คนที่รัก) และอเล็กซานเดอร์กับเฮฟาอีสเทียนอยู่ด้วยกันตั้งแต่เล็กจนตายจากกันเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมาก ถึงจะมีบุคคลที่สามเข้ามาก็ไม่ทำให้เขารู้สึกอะไร และเขาจะคอยเป็นห่วงเป็นใยกันตลอดและเสมอดูจากตอนที่เฮฟาอีสเทียนป่วยใกล้จะตายจนตาย และอเล็กซานเดอร์สติไม่ดีตอนที่ทหารว่าเขาเฮฟาอีสเทียนคอยพูดให้เข้าใจแล้วก็กับมาเป็นเหมือนเดิมชอบฉากที่ตอนตีบาบีรอนแตกแล้วอเล็กซานเดอร์อ่านจดหมายแม่อยู่แล้วเฮฟาอีสเทียนเข้ามาแล้วก็อยู่ด้วยกันตอนที่พูดกันที่ระเบียง (ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆ)เลยที่เดี่ยว ไม่น่ามีโรซานเข้ามาในชีวิตของอเล็กซานเดอร์ก็ดีนะจริงๆๆ แต่ก็ชอบตอนที่เฮฟาอีสเทียนตายแล้วอเล็กซานเดอร์เข้าไปหาโรซานแล้วพูดว่าโรซานก่อนจะโดนฆ่าตายแต่เป็นความตายที่ยินยิมจากอเล็กซานเดอร์เองที่จะตายเพื่อจะได้ไปอยู่กับเฮฟาอีสเทียน และอยากจะบอกว่าคนที่มารับบท เฮฟาอีสเทียน ตาสวยมากๆๆๆๆๆๆๆจริงๆๆๆนะๆๆๆขอบอก เฮฟาอีสเทียน อเล็กซานเดอร์
-
หิมาลัย ม.4 ครับ
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 20 ธ.ค. 47 22:26
พูดได้คำเดียวว่า...โปรดอย่าอคติ และอารมณ์ส่วนตัวมาตัดสินเรื่องนี้ ไม่ดี
ฉากเกย์ผมว่าเป็นธรรมดาน่ะ .... เพราะผู้ชายสมัยนั้น เป็นแบบนี้อยู่แล้ว ตามข้อมูลยังระบุว่า เทพเจ้าซีอุส เป็นเกย์ ( รึเปล่า ) ยังมีลือๆ กันมา
ผมว่าถ้ามามองว่ามันคือสีสันของหนังอีกแบบ ไม่ได้คิดมากไร น่าจะโอเคกว่ามั้ย
แต่ก็ต้องยอมรับว่า
ไม่ประทับใจเท่าไรนัก
เนื้อเรื่องยืดเกิน
อันที่จริง 2 ชม. ควรจบได้แล้ว
นี่อืดไปถึง 3 ชม.กว่า ข้างๆผม เค้าหลับตั้งแต่ฉากที่ โจลี่ เอางูมาปล่อยให้อเล็กซานเดอร์ลองจับ ตอนยังเด็ก จนจบ ยังไม่ตื่น ....
นำเสนอฉากไร้สาระมากไปหน่อย เนื้อเรื่องขาดความปะติดปะต่อ
แต่มองในแง่เอาความรู้ประวัติศาสตร์ และแง่คิดดีๆ เรื่องนี้ ยังพอขายออกครับ ...หุหุ
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
- เก๋า..เก๋าเข้าฉายปี 2006 แสดง อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต, ปิยะ ศาสตรวาหา, จักรพงศ์ สิริริน
- The Parkเข้าฉายปี 2003 แสดง แมทธิว ดีน, เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์, ภูเบศร์ มากะนิตย์
- A Bug's Lifeเข้าฉายปี 1998 แสดง Dave Foley, Kevin Spacey, Julia Louis-Dreyfus
เกร็ดภาพยนตร์
- The Imitation Game - เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ ผู้รับบท อลัน ทัวริง ยอมรับว่าเขาไม่สามารถหยุดร้องไห้ได้ตอนที่ถ่ายทำฉากท้ายๆ เรื่อง เพราะเขาชอบตัวละครตัวนี้มาก หลังจากทำความเข้าใจจิตใจของ อลัน ว่าเขาต้องทรมานแค่ไหน อ่านต่อ»
- เศียรสยอง - เดิมที ภาม รังสี คือผู้ที่รั้งตำแหน่งผู้กำกับภาพยนตร์ แต่หลังจากมีข่าวฉาว ได้ระบุ บอย - สิทธิชัย ผาบชมภู ในฐานะผู้ควบคุมงานสร้างและนักแสดงของเรื่องนี้ เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
สงกรานต์ แสบสะท้านโลกันต์ เรื่องวุ่นๆ เกิดขึ้นในค่ายมวยที่เต็มไปด้วยนักมวยฝีมือฉกาจ พร้อมศิษย์สาวหุ่นดี ร่วมขำไปกับเรื่องราวบนสังเวียนที่เต็มไปด้...อ่านต่อ»