วิจารณ์ Alexander
-
นัน
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 1 ธ.ค. 47 10:12
หนังไม่เวิร์กเลย ถ้าใครยังไม่ได้ไปดู แนะนำให้ไม่ต้องไปดูให้เสียดายตังค์ คล้ายหนังเรื่อง โจนส์ ออฟ อาร์ค ที่ออกแนวว่าหญิงโรคจิต ส่วนเรื่อง อเล็กซานเดอร์ เดอะ เกย์ ขอยกให้เป็นหนังของชายโรคจิตมากว่า ที่จะแสดงถึงความยิ่งใหญ่ให้สมกับ the great เลย รู้สึกแย่จริงๆ
-
v
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 1 ธ.ค. 47 10:00
ชื่นชมคำวิจารณ์ของคุณ M.L.Hist
แต่มีประเด็นที่ผมติคือ
1. หนังไม่ได้ชี้ว่าตัวละคร Alexander ในภาพยนตร์มีความสามารถอะไรที่เด่นเหนือคนทั่วไปตรงจุดไหนที่จะกลายเป็นมหาราชได้ ตัวเอกมีปมทางจิตโดยถูกกดดันจากแม่ และไม่ได้รับต้นแบบจากพ่อ แต่ได้รับแรงบันดาลใจต้นแบบจากฮีโร่ในตำนาน (ซึ่งหนังทำได้สมเหตุผลในเชิงจิตวิทยา) สังเกตว่า ตัวเอกไม่ได้ทะเยอทะยานอย่างที่หลายคนเข้าใจ (ไม่ได้คิดจะแย่งบัลลังค์พ่อตนเอง, ไม่กดหัวเมืองขึ้น) แต่มีพฤติกรรมเลียนแบบ อคิลิส และเฮราคิส เท่านั้น เด็กที่ตามฝันจะเป็นฮีโร่ กลายเป็นมหาราชได้ยังไง ดูไปแรงผลักดันคล้ายอาการทางจิตแบบโจนออคอาร์ค2. การสร้างหนังที่ดี หนึ่งเรื่องต้องสมเหตุผล สองบทต้องดี สามภาพและมุมกล้องต้องสวย และสี่อารมณ์หนังก็ได้ด้วย หนังเรื่องนี้อารมณ์หนังบางช่วงยืดไป บางช่วงสลับตัดไปมาแล้วสั้นเกินไป อารมณ์ขาดความต่อเนื่อง รวมทั้งตัวเนื้อเรื่องเองสร้างอารมณ์ที่ขัดแย้ง เช่น ปัญหาครอบครัว ปัญหาในกองทัพ และการรักร่วมเพศ ไม่ได้ลากอารมณ์ผู้ชมในเชิงประทับใจนัก -
ทอม
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 1 ธ.ค. 47 09:50
ไปดูมาเมื่อวานนี้เอง เป็นหนังที่ห่วยจริงๆ ไม่สงสัยเลยเปิดตัวฉายที่อเมริกาสัปดาห์แรกได้แค่อันดับ 6 ค่อนข้างผิดหวังมากๆสำหรับหนังเรื่องนี้ เน้นการสนทนามากเกินไปหน่อย แถมตัดต่อทำได้อย่างห่วยจริงๆ ดูแล้วไม่น่าเชื่อว่านี่คือหนัง Hollywood มีฉากรบแค่ 2 ฉากเอง และยังทำได้ห่วยจริงๆ เมื่อเทียบกับหนังแนวนี้นะ หนังสามชั่วโมงกับฉากรบแค่ 30 นาที นอกจากนั้นเป็นฉากพูดหมดเลย เป็นหนังที่มีผู้เล่าเรื่อง ไม่ใช่เป็นเนื้อเรื่องแบบต่อเนื่องเหมือนกับ Troy หรือ Gladiator สรุปแล้วน่าเบื่อมาก และไม่คุ้มกับเงินและเวลาที่เสียไปเลยจริงๆ ขอบอก
-
เราคิดว่าเปนงี้อ่า
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 1 ธ.ค. 47 09:39
หนังเรื่องนี้ถ้าดูเอาข้อคิด คุณจะได้กลับไปเยอะมากเพราะเนื้อหาสาระมันสื่อถึงอะไรหลายอย่าง มันบ่งบอกถึงการสอนคนที่ทะเยอทะยานมากไปจุดจบจะเป็นเช่นไร และการสอนให้คนไม่ลืมตัวเมื่อมีอำนาจอยู่ในตัว และให้ข้อคิดอีกเยอะๆๆๆมากๆไว้เอาไปดูกันเองเเล้วกันเเต่เราว่าเรื่องนี้สอนหลายอย่างอ่า สรุปว่าชอบ หนังเรื่องนี้คนที่จะเน้นเอามันดูแบบไม่คิดเค้าก็จะเบื่อ มันแล้วแต่คนนะ หนังและเนื้อหาสาระเค้าไม่ต้องการเน้นฉากรบเท่าไหร่ แต่ฉากที่มีการรบกันก็ทำได้ดีนะก็มันดีอ่า เราว่าเข้าไปดูอ่าไม่เสียเงินเลยเพราะเป็นหนังทั้งอิงประวัติศาสตร์ แล้วยังมีข้อคิดการสอนอีกเยอะเป็นหนังดีสำหรับเราอ่า แต่เราว่าเนื้อเรื่องเศร้ามากนะน่าสงสารเอาเหอะดูดีๆเนื้อเรื่องบางอย่างมันสะท้อนถึงสังคมของปัจจุบันก็มีเยอะ
-
มินนี่
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 30 พ.ย. 47 22:01
เห็นด้วยกับคุณ me เป็นความเห็นส่วนตัวจิงๆ เราว่าเรื่องนี้ก็ดีนะ แต่นานไปหน่อย เมื่อยก้นจริงด้วย
-
me
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 30 พ.ย. 47 21:43
ถึงคุณหึหึหึ
คนที่ชอบหนังแนวนี้ แต่พอดูแล้วมันไม่ประทับใจก็มีไม่ใช่หรอ ถ้าไม่ลองไปดูก่อนแล้วจะรู้มั้ยว่าสนุกรึเปล่า รู้ได้ไงว่าคนอื่นเค้าไม่ชอบหนังแนวนี้แล้วดันไปดูอย่างที่บอกมา มุมนี้มันมุมวิจารณ์หนังนี่หน่า เค้าไม่ได่บ่น แต่วิจารณ์ตั้งหาก ต้องยอมรับความเห็นคนอื่นด้วย คนที่เค้าดูแล้วน่าเบื่อ บอกว่าห่วยก็สิทธิ ความเห็นส่วนตัวของเขาที่จะคิดแบบนั้น คนเรามันไม่เหมือนกันนิ คุณคิดว่าสนุกก็บอกสนุก ก็แล้วไปสิ ความคิดใครความคิดมัน
(ส่วนตัว คิดว่าหนังเรื่องนี้โอเค) -
หึหึหึ
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 30 พ.ย. 47 21:14
ใครที่บอกว่าน่าเบื่อและว่าหนังห่วยหนังไม่ดีเนี่ยช่วยคิดใหม่ได้ป่ะ
หนังจะดีหรือไม่ดีไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับฉากต่อสู้อย่างเดียวนี่หว่า และกะอีแค่ฉากต่อสู้เฉยๆเนี่ยจะเอามาตัดสินอะไรได้ยังไงกัน ดีไม่ดีดูโดยรวมทั้งหมดดิ ดูที่บทด้วยดิ เท่าที่ดูเรื่องนี้ก็โอเคออกนะ -
มิโนริ
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 30 พ.ย. 47 20:36
งั้นก้อรอดู Alexander The Great ที่ลีโอนาโดจะเล่นกะนิโคล คิดแมนละกันนะ ว่ามันจะเหมือนหรือต่างกันยังไง
รวมๆเราว่าเวอร์ชั่นนี้ก็โอแหละ แต่ทำให้เมื่อยตูดไปหน่อย เนื่องจากไม่ได้คาดว่ามันจะยาวขนาดนี้ - -" -
เบคแฮม
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 30 พ.ย. 47 15:07
แต่เราว่าหนุกดีนะได้รู้ด้วยว่าอเล็กซานเดอร์เป็นเกย์ แต่อย่างว่าบางฉากก็น่าเบื่อนะแต่เราว่าก็ยังดีกว่าหนังบางเรื่องแหละ
-
M.L.Hist
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 30 พ.ย. 47 11:08
ใครที่ไปดูอาจมีความรู้สึกแตกต่างกัน บางคนรับได้ บางคนรับไม่ได้ เราพึงเข้าใจว่าเราควรจะเข้าใจโลกในยุคมนุษยนิยมก่อนเกิดคริสตจักร ว่าอารยธรรมกรีก โรมันเน้นในความเสรีของมนุษย์ ไม่แยก ชายหรือหญิง ความสุข จินตนาการบนโลก เทพเจ้า และการเข้าถึง ล้วนเป็นสิ่งที่คนยุคนั้นใฝ่หา จนเมื่อ คริสตจักรเกิดขึ้น มนุษย์เริ่มถูกความมีเกณฑ์เข้าครอบงำ มีดำ ขาว ดี ชั่ว ถูก ผิด อย่าง คนละขั้ว ความเป็นมนุษย์ ความรัก ในธรรมชาติ สิ่งที่จรรโลงใจอย่างที่คนกรีก และคนในโลกยุคก่อนคริสตจักรเคยเป็น จึงถูกเบียดบังตกขอบ นักปราชญ์กรีก โรมัน ต่างๆ ถูกบีบคั้นกดดัน เกิดยุคมืดคริสตจักรสร้างภาวะเหล่านี้จนมนุษย์ในปัจจุบันไม่มีหัวคิดที่จะแสวงหาแกนของชีวิตเหมือนดังที่อเล็กซานเดอร์ทำ ยังมีประเด็นอีกมากที่คนดูหนังเรื่องนี้พึงเข้าใจว่าเราไม่สามารถตัดสินคนยุคก่อนได้โดยใช้บรรทัดฐานของคนยุคปัจจุบันเพราะเราไม่มีสติปัญญาพอในการรับรู้และเข้าถึง ดังที่นักประวัติศาสตร์ อย่างที่ทราบกันในใจโดยทั่วว่า "การศึกษาประวัติศาสตร์นั้นศึกษาเพื่อให้รู้ว่าอะไรได้เกิดขึ้นแล้วในอดีต แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่า คือการศึกษาว่าสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นในอดีตนั้นต้องการให้เรารู้อะไร" ผมว่าหนังเรื่องนี้สะท้อนมุมความรู้ของปรัชญายุคที่โลกยังไม่ถูกครอบงำด้วยศาสนใดๆมากนักยังคงเป็นอภิปรัชญาที่น่าสนใจว่าทำไมคนถึงต้องตามหาตนเองและค้นพบได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตามเราไม่เคยเข้าใจคนในโลกยุคก่อนเป็น พอรู้อะไรที่ไม่เคยรู้เข้าหน่อยนึงเลยไม่มีความรู้พื้นฐานมารองรับ จึงเกิดความขัดเคืองใจขึ้น ผมจะยกตัวอย่ากรณีในประวัติศาสตร์ เช่น
1. กรณีตเบงชะเวตี้ ในสุริโยทัย ถ้าใครได้ไปดู จะเห็นว่า แมน (ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์) รับบทเป็นตเบงชะเวตี้ ทาหน้าขาว แต่หนังไทยอธิบายเพียงว่า พระองค์ทรงพระสำอางค์ แต่ในพงศาวดารที่คนทั่วไปไม่เคยทราบนอกจากนักประวัติศาสตร์ จะรู้ว่าพระองค์นั้นมีความสัมพันธ์กับหนุ่มโปรตุเกส อายุ 18 ปี และหลังจากกลับจากศึกสุริโยทัยครั้งนั้น พระองค์ก็ถูกปลงพระชนม์ ด้วยราชสำนักพม่าที่รับกับพฤติกรรมไม่ได้ ยังมีเหตุการณ์อีกมากแต่คงพิมพ์ไม่หมด ยกไว้เป็นกรณีและกัน
2. กรณีกองทัพจีนที่ต้องนำเอาชายหนุ่มวัยเด็กๆ ไปในกองทัพเพื่อใช้ในกิจการเรื่องเซ็กส์ เพราะคนในยุคก่อนไม่ได้ให้ความสนในเรื่องชาย หญิง แต่กระบวนการทางเพศเป็นระบบหนึ่งซึ่งคนในยุคก่อนปฏิบัติไม่เหมือนคนยุคนี้ เพราะสังคมยุคนี้มีศาสนาเข้ามาครอบกระบวนการต่างๆไว้ ถ้าคุณศึกษาพระไตรปิฎกคุณจะพบว่าพระพุทธเจ้าได้ผ่านเหตุการณ์เหล่านี้มาจนเจนตา ถึงกับต้องบรรญัติพระธรรมวินัยไม่ให้ล่วงละเมิด ทางมุขมรรค (ปาก) เวจมรรค(ทวารหนัก) ปัสสาวะมรรค (ทวารเบา) เหล่านี้มีตั้งแต่ยุคพุทธกาล อเล็กซานเดอร์ เกิดยุคใกล้พระพุทธเจ้า เกิดก่อน พระไครส์ (เยซู คริสต์) จึงมีภาวะต่างๆ เหนือกว่าที่ศาสนาจะครอบงำ ดังนั้นกระบวนการทางเพศระหว่างชายกับหญิงนั้น ในอดีต หลักคิดคือ การสืบเผ่าพงศ์วงวานมนุษย์ แต่รักระหว่าง ชายกับชาย หญิงกับหญิง คนกับสัตว์ เป็นความรักหรือเป็นภาวะที่อยู่บนเงื่อนไขของความเป็นปัจจเจกบุคคล
คงยกเพียงกรณีเท่านี้ก่อนอย่าลืมว่า "การศึกษาประวัติศาสตร์นั้นศึกษาเพื่อให้รู้ว่าอะไรได้เกิดขึ้นแล้วในอดีต แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่า คือการศึกษาว่าสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นในอดีตนั้นต้องการให้เรารู้อะไร"
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
- เก๋า..เก๋าเข้าฉายปี 2006 แสดง อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต, ปิยะ ศาสตรวาหา, จักรพงศ์ สิริริน
- The Parkเข้าฉายปี 2003 แสดง แมทธิว ดีน, เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์, ภูเบศร์ มากะนิตย์
- A Bug's Lifeเข้าฉายปี 1998 แสดง Dave Foley, Kevin Spacey, Julia Louis-Dreyfus
เกร็ดภาพยนตร์
- Cinderella - ชุดราตรีที่ ซินเดอเรลลา รับบทโดย ลิลี เจมส์ สวมไปงานเต้นรำ ตัดเย็บจากผ้ายาวกว่า 270 หลา ด้ายยาวกว่า 3 ไมล์ และคริสตัลจากสวารอฟสกีกว่า 10,000 เม็ด อ่านต่อ»
- Everly - เดิมที เคต ฮัดสัน ถูกวางตัวให้แสดงบท เอเวอร์ลี แต่ภาพยนตร์อยู่ในขั้นตอนพัฒนาเรื่องนานจน เคต ถอนตัว และภายหลัง ซัลมา ฮาเยก จึงเข้ามารับบทแทน อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
Manikarnika: The Queen of Jhansi เรื่องราวของ รานี ลักษมีไพ หนึ่งในบุคคลสำคัญของการก่อกบฏของอินเดียในปี 1857 และการต่อต้านของเธอต่อราชวงศ์อังกฤษ...อ่านต่อ»