พิโกทาโร เป็นปลื้มได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทย-ญี่ปุ่น

"พิโกทาโร" (Pikotaro) เจ้าของผลงานเพลงติดหูอย่าง "PPAP" หรือ "Pen-Pineapple-Apple-Pen" ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรกในงาน "Japan Expo Thailand 2017" ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 10-12 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งศิลปินที่สร้างกระแสปากต่อปากคนนี้ก็ได้มาให้สัมภาษณ์แบบเป็นกันเอง พร้อมกับไขข้อสงสัยเรื่องผลงงานเพลงสุดโด่งดังอย่างหมดเปลือก ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ ในช่วงเย็นของวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา

มาประเทศไทยเป็นครั้งแรก มีอะไรที่รู้สึกประทับใจ และอยากทำอะไรบ้าง

"สวัสดีครับ (ภาษาไทย) ผมชื่อ พิโกทาโร มาครั้งแรกนะครับ ตั้งแต่ปล่อยเพลง PPAP คนไทยเป็นประเทศที่อัพโหลดคัฟเวอร์เพลง PPAP เยอะมากทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ผู้หญิง ผู้ชาย เยอะมาก มีน้องหมาด้วย รู้สึกถึงความรักจากประเทศไทยเลยครับ เป็นประเทศที่อยากมามากครับ วันนี้ดีใจมากที่ได้มา สิ่งแรกที่ได้กินเมื่อมาเมืองไทยคือขนมปังในโรงแรม ขนมปังฝรั่งเศสอีกต่างหาก ยังไม่ได้ทานอาหารไทยเลยครับ อยากทานผัดกะเพรา ผัดไทย ต้มยำกุ้ง อยากไปดูมวยไทยครับ อยากดูนักมวยชกกันสดๆ ที่สนามมวยลุมพินี แล้วก็อยากไปเกาะพีพีด้วย"

รู้สึกอย่างไรได้มาร่วมงานนี้ แล้วยังเป็นปีครบรอบความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น 130 ปี

"ตกใจว่า 130 ปีแล้วเหรอ ตอนอยู่ญี่ปุ่นผมรู้สึกว่าประเทศไทยเป็นอะไรที่ใกล้ชิดมากครับ ในหนึ่งสถานีมีร้านอาหารไทยประมาณ 3 ร้านได้ เยอะมาก แล้วก็มีไทยเฟสติวัลด้วย อาหารไทยเป็นที่รู้จักกันในประเทศญี่ปุ่น อาหารเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมมากแต่ยังไม่ค่อยมีเรื่องวัฒนธรรมเท่าไร ผมรู้จักแค่ โทนี่ จา (จาพนม ยีรัมย์) ที่เหลือก็เป็นมวยไทยหมดเลย ดีเซลน้อย (ดีเซลน้อย ช.ธนะสุกาญจน์) คุณบัวขาว (บัวขาว บัญชาเมฆ) ผมรู้สึกดีนะครับที่มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันนอกจากอาหาร รู้สึกดีใจมากเลยครับ"

เล่าถึงที่มาที่ไปของเพลง PPAP ที่โด่งดังขนาดนี้

"โปรดิวเซอร์ของผมมีเพลงมาให้ก่อน ให้ทำนองมาฟังก่อน จากนั้นจะเขียนเนื้อเพลงแล้วก็จับปากกาขึ้นมา กำลังจะเขียน ผมมีปากกา แล้วก็มีแอปเปิ้ลวางอยู่บนโต๊ะ ผมก็มีแอปเปิ้ลนะ เสียบซะเลย ก็ได้มาประมาณนี้ เสร็จแล้ว มีสับปะรดอยู่บนโต๊ะด้วย ก็ลองเสียบดู เอามาทำอะไรดีล่ะ แล้วก็เอามาต่อกันแค่นั้นเอง ก็เลยลองเต้นดู ก็เต้นได้ สนุกดีประมาณหนึ่งนาทีจบครับ คือเวลาการแต่งเพลงยาวกว่าเพลงจริงนิดเดียวเอง"

เพลง PPAP นี้มีความหมายแฝงหรือเปล่า

"ไม่มีเลย ไม่มีความหมายแฝงอะไรทั้งสิ้นครับ ไม่มีความหมายอะไรเลย เป็นเพลงที่อาจจะไม่มีความหมายแต่เป็นเพลงที่อยากจะลองร้องดู ไม่คิดเหรอครับว่าไพน์แอปเปิ้ลมันสนุกดีนะ ร้องไปแล้วรู้สึกสนุกกับการได้พูดคำเหล่านี้แล้วก็เอามาผสมกันแค่นั้นเอง แต่ถ้าคิดเยอะไปคิดลึกไปเดี๋ยวคนหลายประเทศจะไม่ค่อยเข้าใจ เราไม่อยากคิดลึก เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะคิดลึกกับเพลงนี้ก็ตามอิสระเลยครับ แต่ผมไม่ได้คิดอะไร"

เริ่มแต่งเพลงตั้งแต่ตอนไหน

"ผมตอนนี้อายุ 53 แล้วครับ ตั้งแต่อายุ 25 ประมาณ 28 ปีที่แล้ว ก่อนหน้านั้นเป็นพนักงานเคเบิลต่อไฟ บางทีก็ดูดผมบ้าง รู้สึกว่าเป็นงานที่ลำบากมากครับ แล้วผมก็ชอบร้องเพลงมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เล่นกีตาร์ก็ไม่เป็น เปียโนก็เล่นไม่เป็น ที่บ้านมีคอมพิวเตอร์พอกดไปมันก็มีเสียง แล้วก็คิดว่าจะถือคอมพิวเตอร์ร้องเพลงดีไหม ตอนแรกผมก็ไปร้องเพลงตามสวนสาธารณะแถวบ้านแต่โดนตำรวจจับเพราะหนวกหู ก็เลยเฟ้นหาสถานที่ที่เล่นดนตรีได้ เป็นไลฟ์เฮาส์บ้าง จนมาเมื่อ 5 ปีที่แล้วได้มาเจอกับโปรดิวเซอร์ของผมนั่นเอง เพราะฉะนั้นที่เริ่มงานเพลงอย่างเป็นทางการก็เมื่อ 5 ปีที่แล้ว"

ท่าเต้นใน PPAP ดูมีเอกลักษณ์ ได้แรงบันดาลใจมาจากไหน

"คือเพลงมันก็มีแค่นั้นแหละครับ คือมันไม่น่าจะมีการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อน คือถ้าฟังเพลงแล้วมันน่าจะเรียบๆ ผมก็คิดว่าเพลงนั้นมันจะเหมาะกับท่าแบบไหน ก็เลยลองไปเรื่อยๆ หลายอย่าง แล้วผมก็คิดว่าท่านี้มันเหมาะสุด มันมาจากความรู้สึกนั่นเองครับ คือไม่ได้เป็นท่าเต้นนะครับ คือเผลอเต้นมากกว่า"

มีคนนำเพลง PPAP ไปร้องเยอะมากรู้สึกอย่างไรบ้าง และมีฉบับไหนที่ชอบเป็นพิเศษ

"ถ้าเป็นที่เมืองไทยก็ของ บี้ เดอะสกา เขาเต้นเก่งชอบฉบับของเขามากครับ แล้วก็ของเยอรมันครับเป็นแบบเมทัล อันนั้นผมก็ชอบสนุกดีครับ แต่แบบของอินเดียสนุกที่สุด คือเห็นเด็กที่อยู่ข้างๆ เล่นอะไรก็ไม่รู้ ดูแล้วหัวเราะเลยครับฮามาก อยากจะร่วมงานกับเขาเลย รู้สึกว่าจะเป็นนักออกแบบท่าเต้นชื่อดังของอินเดีย ผมก็อยากจะเจอตัวจริงอยากจะได้คุยกับเขา"

จัสติน บีเบอร์ ก็ยังลงเพลง PPAP ในทวิตเตอร์และบอกว่าเป็นเพลงโปรดด้วย

"ผมรู้สึกว่าที่ผมดังทั่วโลกได้อาจจะเป็นเพราะ จัสติน บีเบอร์ (Justin Bieber) เลยก็ว่าได้นะครับ ถ้าเป็นผู้หญิงสวยๆ ผมแต่งงานไปแล้ว ผมรู้สึกประทับใจมากๆ แล้วก็ได้เจอตัวจริงตอนร่วมงานกัน เป็นคนคุยง่ายชอบไฮทัช ผมเคยบอกไปว่าอยากเจอนะ เขาก็ตอบกลับมาว่าอยากเจอเหมือนกัน ประทับใจมากครับ เป็นคนที่ติดดินมากไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นคนดังระดับโลก"

เพลง PPAP ดังขนาดนี้ มีเหตุการณ์ไหนที่รู้สึกคาดไม่ถึงเกี่ยวกับเพลงนี้ไหม

"ก็เป็น จัสติน บีเบอร์ แหละครับ ที่ได้ร่วมงานกับเขา แล้วผมแอบได้ยินมาว่าหลานของทรัมป์ (Donald John Trump) เต้น PPAP ด้วย น่ารักดีครับ อีกอย่างคือตอนนี้ผมไม่อยากเชื่อด้วยซ้ำว่าผมอยู่เมืองไทยได้มาเจอกับทุกๆ คนแบบนี้ ผมรู้สึกประทับใจมาก"

การแต่งตัวในเพลง PPAP มีเอกลักษณ์มาก ได้แนวคิดมาจากไหน

"ผมชอบแฟชันครับ ชอบแบรนด์ดังๆ หลายแบรนด์ ก็หาชุดที่ยังไม่มีในนั้น พยายามหาชุดที่ยังไม่มีบนรันเวย์ ก็ซื้อในเน็ตครับถูกดี ทั้งชุดไม่ถึงสองหมื่นเยน มีคนทักว่าแต่งตัวเหมือนคนไทยด้วย คนไทยแต่งตัวอย่างนี้เหรอ วันนี้ผมได้เห็นคนไทยแล้วก็ไม่มีใครแต่งแบบนี้ซะหน่อย"

มีประเทศไหนที่อยากไปแสดงคอนเสิร์ตไหม

"ก่อนอื่นประเทศไทยเป็นประเทศที่อยากมามากครับ วันนี้ได้มาก็ดีใจมาก ฝรั่งเศส เบลเยียม ไต้หวัน เกาหลี สิงคโปร์ ไปมาแล้ว ไปอเมริการ่วมงาน แกรมมี อวอร์ดส์ อยากไปประเทศแอฟริกาด้วยครับ ตอนปล่อยเพลงอาทิตย์แรกที่ยูกันดาขึ้นอันดับหนึ่งครับ ก็เลยอยากไปยูกันดาครับ"

ศิลปินคนไหนที่อยากให้มาร่วมร้องเพลง PPAP มากที่สุด

"จัสติน บีเบอร์ เขายอมร้องไปแล้ว อารีอานา กรานเด (Ariana Grande) สตีวี วันเดอร์ (Stevie Wonder) โทนี่ จา ดีเซลน้อย มาดอนนา (Madonna)"

เพลง PPAP โด่งดังขนาดนี้ ทำให้รู้สึกกดดันในการทำเพลงต่อๆ ไปหรือไม่

"ตอนแต่งก็ไม่ได้คิดว่าจะดัง และไม่คิดว่าจะตั้งใจให้มันเป็นเพลงอารมณ์ประมาณนี้ เป็นเพลงที่มันออกมาเองก็ไม่ได้ตั้งใจขนาดนั้นครับ ไม่ได้คิดว่าจะทำให้เพลงดัง ไม่ได้คิดว่าจะทำเพลงฮิต คือขอแค่ได้แต่งเพลงที่สนุกที่ทุกคนฟังแล้วรู้สึกยิ้มก็ดีใจแล้วครับ ถามว่ากดดันไหมก็ไม่เลยครับ"

แนวคิดของเพลงล่าสุด I Like OJ มาจากไหน

"ผมชอบน้ำส้มครับ แค่อยากจะบอกแค่นั้นเอง น้ำองุ่นอร่อยนะ น้ำมะม่วงก็อร่อยนะ นมก็อร่อยนะ แต่น้ำส้มใช่เลย แค่อยากจะบอกแค่นั้นว่าชอบน้ำส้มครับ"

ถ้ามีเวลาว่างมักจะทำอะไร

"อ่านหนังสือครับ ชอบอ่านหนังสือประวัติของคน อ่านสองหน้าเสร็จแล้วก็ปิด"

ทราบมาว่าจะจัดคอนเสิร์ตครั้งแรก เป็นอย่างไรบ้าง

"จะได้จัดที่ นิปปอน บูโดกัน เป็นสถานที่ที่ใหญ่ เดอะ บีเทิลส์ (The Beatles) เดอะ โรลลิง สโตนส์ (The Rolling Stones) เซ็กซ์พิสทอลส์ (Sex Pistols) อีริก แคลปตัน (Eric Clapton) ก็เคยแสดงที่นั่น เป็นสถานที่ใหญ่เพราะฉะนั้นก็จะมีแขกรับเชิญเยอะครับ มีคอนเซปต์ด้วย ไม่ใช่การแสดงเดี่ยวธรรมดาหรืองานเฟสติวัลนะครับ แต่เป็นปาร์ตี้ครับ อยากให้คนมาดูคอนเสิร์ตแต่งตัวเหมือนมางานปาร์ตี้แล้วก็มาสนุกกัน"

มีอะไรอยากฝากถึงแฟนๆ ชาวไทยไหม

"ขอบคุณสื่อมวลชนทุกคนครับที่มาร่วมงานนี้ ชีวิตนี้ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้มานั่งอยู่ตรงนี้ ขอบคุณครับ (ภาษาไทย) เหมือนฝันเลยครับ แม้เพลงผมจะสั้นแค่หนึ่งนาที แต่ผมมั่นใจว่าเพลงของผมจะเพิ่มความสุขให้กับคนฟังได้ โลกตอนนี้มีทั้งสงครามมีทั้งความไม่สงบ แต่ถ้าเกิดฟังเพลงของผมเพียงหนึ่งนาทีแล้วคุณสามารถมีความสุขได้ผมก็ดีใจครับ ผมเชื่อว่าการได้หัวเราะการได้เต้นน่าจะมีความสุขที่สุดแล้ว เพราะฉะนั้นอย่าคิดเยอะครับมาสนุกไปกับผม ถ้าใครอยากไปเจอกันทางออนไลน์ก็ไปที่ยูทูบ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงสดหรือจะเป็นในโลกออนไลน์ก็อยากให้ทุกคนมาติดตามกัน ฝากด้วยนะครับ"

สำหรับบรรยากาศภายในงานมหกรรมญี่ปุ่นสุดยิ่งใหญ่ Japan Expo Thailand 2017 ก็ได้ขนกองทัพศิลปินมาแบบจัดเต็มไม่แพ้ปีก่อนๆ โดยในช่วงเย็นของวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2560 พิโกทาโร ก็ได้ร่วมแสดงบนเวที ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งนักร้องคนนี้ได้พาเพลงที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก อาทิ "PPAP" หรือ "Pen-Pineapple-Apple-Pen" มาร้องให้ฟัง รวมถึงเพลงกวนๆ "I Like OJ" ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกที่เจ้าตัวได้มาทำการแสดงที่ประเทศไทย แถมยังได้ชื่นชมกันแบบใกล้ชิดสุดๆ ท่ามกลางแฟนคลับชาวไทยที่มารอต้อนรับกันอย่างหนาแน่น