ดี้ รวมพลนักกีฬาทีมชาติไทยร้องเพลง ต้นกล้าของพ่อ
"ต้นกล้าของพ่อ" บทเพลงเฉลิมพระเกียรติจากปลายปากกาของ "ดี้ - นิติพงษ์ ห่อนาค" ที่เป็นภาคต่อของเพลง "ต้นไม้ของพ่อ" ซึ่งครั้งนี้เกิดแรงบันดาลใจจากที่ได้เห็นความสำเร็จของคนรุ่นใหม่ ที่เปรียบเสมือนต้นกล้าที่เติบโตและเจริญงอกงามมาจากต้นไม้ที่พ่อได้ปลูกไว้ และตัวอย่างความสำเร็จของคนรุ่นใหม่ที่เห็นได้ชัดมากที่สุดนั้นก็คือนักกีฬาทีมชาติไทย ที่สร้างความภาคภูมิใจและชื่อเสียงมาให้กับประเทศชาติ ดี้ ได้เล่าถึงที่มาของเพลงนี้ว่า
"เคยแต่งเพลง ต้นไม้ของพ่อ มาแล้ว (พ.ศ. 2539) นั่นเป็นเรื่องของสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านได้ทรงปูทางทำไว้มา 60 ปี หลังจากนี้แล้วก็ควรจะมีคนรุ่นใหม่มาอาสาแสดงตัวกับต้นไม้ของพ่อ ที่จะเป็นคนที่พัฒนาและยกระดับในทุกภาคส่วนของประเทศ คนรุ่นใหม่ ถ้าจะเปรียบก็เหมือนเป็นต้นกล้า ที่จะเริ่มงอกงาม แข็งแรง เป็นต้นไม้ต้นต่อๆ ไปต่อจากที่พ่อได้ปลูกต้นไม้ไว้
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือนักกีฬา ดู น้องเมย์ (รัชนก อินทนนท์) แกสู้สะบัดเลย คือในระดับโลกที่คิดว่าเราไม่น่าจะไปถึง เป็นแชมป์ที่เมืองจีน ไปเอาชนะแชมป์คนจีนที่เมืองจีน อันนี้เป็นสัญลักษณ์ น้องเมย์นี่ทำให้คนไทยชื่นใจและเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าถ้าเราจะทำจริงๆ เราสามารถจะเอาชนะคนอื่นได้ เราเอาธงไทยเราไปปักได้ ไปที่บ้านเขา ซึ่งคนรุ่นใหม่ในวงการกีฬา ก็จะเป็นตัวอย่างให้กับคนรุ่นใหม่ในสาขาอื่นๆ ที่จะมีกำลังใจในการทำเพื่อประเทศชาติ ชื่อเสียงประเทศชาติแล้วก็ยกระดับมาตรฐานของหลายๆ เรื่องของประเทศชาติบ้านเมือง ซึ่งมันก็จะอยู่ในทิศทางเดียวกันกับที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านได้มีโครงการหลายๆ อย่างทำเอาไว้"
นอกจากนี้ ดี้ ได้ขนทัพนักกีฬาดาวรุ่งทั้งหมดกว่า 100 ชีวิต อาทิ นักมวยชื่อดัง "สมบัติ บัญชาเมฆ" หรือ "บัวขาว ป.ประมุข" นักเทนนิสหญิงชาวไทย "นก - นพวรรณ เลิศชีวกานต์" นักยกน้ำหนักหญิง "แต้ว - พิมศิริ ศิริแก้ว" นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบทีมชาติไทย "แวว - สายสุนีย์ จ๊ะนะ" นักกีฬาเทเบิลเทนนิสพาราลิมปิก "รุ่ง - รุ่งโรจน์ ไทยนิยม" และราชินีเจ้าสระอย่าง "อุ้ม - ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง" มาถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งบรรยากาศในการถ่ายทำครั้งนี้ เรียกได้ว่าอบอุ่น และเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มของเหล่าบรรดานักกีฬาที่มีให้กัน ระหว่างนักกีฬารุ่นน้องกับนักกีฬารุ่นพี่ ที่ได้มารวมตัวกันทำงานใหม่ๆ อย่างที่ตนเองไม่ถนัด แต่พอถึงเวลาสั่งเดินกล้อง อาจจะมีอาการเกร็งๆ ไปบ้าง แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี โดยพวกเขาได้เล่าถึงความรู้สึกในการถ่ายทำครั้งนี้
นักมวยขวัญใจคนไทยอย่าง บัวขาว กล่าวว่า "ตื่นเต้นครับ ตอนแรกที่ได้อ่านเนื้อร้องยอมรับว่ายังไม่คิดอะไร แต่พอได้ร้องไปหลายๆ รอบแล้ว รู้สึกว่าเพลงนี้ยิ่งใหญ่สำหรับผมมาก เรามีความภาคภูมิใจที่ได้สร้างชื่อให้กับประเทศ แล้วมีเพลงนี้ขึ้นมาเพราะได้แรงบันดาลใจมาจากพวกผม นักกีฬาทุกคน มันรู้สึกตื้นตัน" ด้าน แวว นักกีฬาหญิงวีลแชร์ฟันดาบ เล่าว่า "วันนี้ก็รู้สึกตื่นเต้นนะคะ ตอนแรกก็ทำการบ้านมาจากแผ่นเดโมที่ทีมงานส่งมาให้ฟัง เราก็ฟังวันละหลายๆ รอบเลย แต่พอถึงเวลามาถ่ายทำ ตื่นเต้นมาก ตอนที่ร้องเพลงนี้แล้วขนลุกมากในแต่ละท่อน คล้ายๆ เราทำตามพ่อที่ได้สอนไว้ คือเนื้อเพลงทุกท่อนมันกินใจ ยอมรับเลยว่าคนแต่งเก่งมาก คือแค่เราอ่านขนก็ลุกแล้ว เหมือนเป็นบุญของเราที่ได้ร้องให้พ่อ"
ฟากนักกีฬายกน้ำหนักได้ส่ง แต้ว มาเป็นตัวแทน "วันนี้รู้สึกภูมิใจมาก ที่ได้เป็นผู้ถ่ายทอดบทเพลงนี้ ซึ่งเป็นเพลงเฉลิมพระเกียรติ เป็นเพลงที่มีความหมายดีมาก อยากจะบอกเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่เปรียบเสมือนต้นกล้าว่าให้ลุกขึ้นมาสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อพ่อ เพื่อประเทศชาติของเรากัน" ต่อด้วยเงือกสาวคนเก่ง อุ้ม ได้บอกว่า "วันนี้ตื่นเต้นมาก เพราะไม่เคยได้ทำอะไรแบบนี้มาก่อน ปกติจะว่ายน้ำไม่ได้ใช้เสียงอะไร วันนี้ก็ได้มีโอกาสใช้เสียงเพื่อบอกกับทุกคนว่าเรารู้สึกยังไง ดีใจมากค่ะ"