มาโกโตะ นำของรักมาประมูลช่วยผู้ประสบภัยในเมืองไทย

"มาโกโตะ โคชินะกะ" (Makoto Koshinaka) นักร้องนำวงร็อกชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น "ลูซิเฟอร์" (Lucifer) ซึ่งในปัจจุบันได้รวบรวมสมาชิกตั้งวงขึ้นมาใหม่ ทำหน้าที่ร้องนำให้กับวงที่มีชื่อว่า "ทริก" (Trick) จัดได้ว่าเป็นศิลปินต่างชาติที่แวะเวียนมาเยี่ยมเมืองไทยบ่อยครั้ง ทั้งมาแบบเดี่ยวๆ และมาเล่นคอนเสิร์ตพร้อมกับเพื่อนๆ วง ลูซิเฟอร์ และ ทริก แถมคราวนี้มาอยู่ไทยยาวนานเป็นพิเศษ โดยเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2554 และจะเดินทางกลับญี่ปุ่นในวันที่ 12 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ เรียกว่าตารางงานแน่นเอี๊ยดตั้งแต่วันแรกจนถึงวันกลับเลยทีเดียว

การเดินทางมาเมืองไทยหลักๆ ของ มาโกโตะ ในครั้งนี้ ก็เพื่อจัดงานร่วมกับแฟนเพลงเพื่อหารายได้นำไปสมทบทุนช่วยเหลือผู้ที่ประสบอุทกภัยในเมืองไทย และเนื่องในปีนี้เป็นปีมหามงคลของประชาชนชาวไทยที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ มาโกโตะ ก็มีโอกาสได้เดินทางไปลงนามถวายพระพร ที่โรงพยาบาลศิริราช ในช่วงเช้าของวันที่ 5 ธันวาคม 2554 และร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรในช่วงค่ำ อีกทั้งในวันที่ 11 ธันวาคม นี้ มาโกโตะ ก็ยังไปเป็นแขกรับเชิญร้องเพลงร่วมกับศิลปินไทยที่เจ้าตัวชื่นชอบอย่าง "บอดี้สแลม" (Bodyslam) ในงาน "บิกเมาน์เทน มิวสิก เฟสติวัล 3 มันใหญ่มาก" อีกด้วย

สำหรับ "Heart 2 Heart Greeting with Makoto" นอกจากจะมีขึ้นมาเพื่อเจอะเจอและร่วมสนุกกับเหล่าแฟนคลับกันแบบใกล้ชิดแล้ว งานนี้ มาโกโตะ ยังชวนแฟนๆ ร่วมทำบุญด้วยการประมูลของใช้ส่วนตัว โดยรายได้ทั้งหมดจะนำไปสมทบทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ประสบอุทกภัย ซึ่งบรรยากาศในงานก็เป็นการรวมตัวของเหล่าแฟนคลับพันธุ์แท้ของหนุ่ม มาโกโตะ จำนวน 100 คน กับรูปแบบสบายๆ และเป็นกันเอง ณ ร้านสลีปเลส การ์เดน เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมา พอนักร้องหนุ่มมาถึงก็ขออุ่นเครื่องด้วยการพูดคุยกันเล็กๆ น้อยๆ ก่อนที่จะร่วมกิจกรรมสนุกๆ ที่เตรียมมาเล่นกับแฟนคลับ

จำได้ไหมว่ามาเมืองไทยกี่ครั้งแล้ว

"เป็นครั้งที่ 20 แล้วครับ"

ความรู้สึกที่ได้กลับมาเมืองไทยครั้งนี้

"ก็รู้สึกดีใจมากครับ เมื่อวานนี้ที่สนามบินก็มีแฟนคลับมารอต้อนรับผมเยอะมากเลยครับ"

คราวนี้มาทำอะไรบ้าง

"ตอนนี้ตารางงานแน่นไปหมดแล้ว ก็จะมีทั้งถ่ายแบบ ถ่ายรายการโทรทัศน์ แล้วก็จะได้ร่วมเล่นคอนเสิร์ตกับบอดี้สแลมด้วยครับ"

ได้เจอกับแฟนๆ วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง

"ตัวผมเองก็ทวิตเตอร์ตลอดเวลาว่าเป็นห่วงเมืองไทย รักเมืองไทย ผมรู้สึกดีใจมากๆ ที่วันนี้ได้เห็นหน้าแฟนๆ ที่มาร่วมงานด้วยสีหน้าที่มีความสุข ตอนแรกก็รู้สึกกังวลว่าเหตุการณ์น้ำท่วมจะส่งผลกระทบอะไรกับแฟนเพลงบ้างหรือเปล่า"

ความรู้สึกที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

"หลังจากได้ทราบข่าวน้ำท่วมที่ประเทศไทย ทางญี่ปุ่นก็มีการบริจาคเงิน ทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประเทศไทย ตัวผมเองก็เป็นห่วงประเทศไทยเหมือนกัน การเดินทางมาเมืองไทยครั้งนี้ถ้าสามารถช่วยอะไรได้ แม้ว่าจะเล็กๆ น้อยๆ ก็รู้เป็นเกียรติมากเลยครับ"

แฟนคลับบอกรัก มาโกโตะ มีอะไรอยากบอกแฟนๆ ไหม

"ผมรักคุณ (ภาษาไทย) มีแฟนเพลงหลายคนที่ทวิตรูปบ้านตัวเองที่โดนน้ำท่วมแล้วมีเขียนข้อความว่า น้ำท่วมบ้านฉันแล้ว ในตอนนั้นผมคิดว่าไม่ควรทำให้แฟนเพลงรู้สึกเศร้าไปมากกว่าเดิม ก็เลยทวิตตอบกลับแต่เรื่องที่สดใสๆ เวลาที่แฟนเพลงได้เห็นทวิตที่สดใสของผมแล้วจะได้รู้สึกคลายเศร้าไปได้บ้าง แม้ว่าจะสดใสขึ้นมาเล็กน้อยก็ยังดีครับ"

พอคุยกันหอมปากหอมคอ ก็เข้าสู่ช่วงกิจกรรมเล่นเกมกับแฟนคลับเพื่อหาผู้โชคดีที่จะได้ร่วมรับประทานอาหารมื้อเย็นด้วยกัน เริ่มจากเกมแรกกับเกมจ้องตา ใครหลบหน้าก่อนแพ้ ซึ่ง มาโกโตะ ก็พยายามหาวิธีต่างๆ มาสู้กับแฟนๆ ทั้งจ้องหน้าใกล้ๆ เพื่อให้เขิน หรือจะพยายามเอาทิชชูที่เสียบในจมูกตัวเองแล้วไปเสียบจมูกแฟนคลับ ก็มีทั้งแฟนคลับต้องยอมแพ้และก็มีที่สู้สุดหยิบตาจน มาโกโตะ ต้องยอมแพ้ไปเองก็มี ต่อด้วยเกมเหยียบลูกโป่ง ที่ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ซึ่งเกมนี้ก็ทำเอา มาโกโตะ ถึงกับเหนื่อย พอจบเกมปุ๊บก็เอ่ยขอเวลาพักก่อนทันที

ซึ่งในระหว่างที่ปล่อยให้เหล่าแฟนๆ ได้พักครึ่งกับกิจกรรมของงาน หนุ่ม มาโกโตะ ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงการมาเยือนเมืองไทยในครั้งนี้ว่า

ทักทายกันหน่อย

"สวัสดีครับ ผมชื่อมาโกโตะครับ (ภาษาไทย)"

ทำไมถึงคิดที่จะจัดงานในครั้งนี้ขึ้นมา

"ที่ผมจัดงานมีตติ้งในครั้งนี้ขึ้นมา เพราะว่ามีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมก็เลยนำของใช้ของผมมาประมูลด้วยครับ ผมในฐานะที่เป็นคนญี่ปุ่น ตอนที่ญี่ปุ่นเกิดสึนามิคนไทยก็ได้ให้ความช่วยเหลือกับคนญี่ปุ่น ผมก็เลยมีความรู้สึกว่าอยากจะตอบแทนบุญคุณของคนไทยด้วยการจัดงานมีตติ้งครั้งนี้ครับ"

ได้แรงบันดาลใจมาจากไหน

"ผมเล่นทวิตเตอร์อยู่ แล้วมีแฟนเพลงส่งภาพความเสียหายในเมืองไทย แม้แต่ในข่าวที่ญี่ปุ่นก็ทำให้เห็นว่าตอนนี้เมืองไทยน้ำท่วมหนักมาก ผมก็เลยรู้สึกว่าตัวผมเองทำอะไรไม่ได้เลยเหรอเพื่อประเทศไทย ก็คิดว่าผมกับแฟนคลับน่าจะมาช่วยกันแล้วก็ทำอะไรเพื่อประเทศไทยครับ การจัดมีตติ้งครั้งนี้กับแฟนๆ ชาวไทย ก็คืออยากให้แฟนๆ กลับมาสดใสร่าเริง แล้วก็อยากจะนำเงินที่ได้จากการประมูลของในครั้งนี้ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยครับ"

มาเมืองไทยหลายครั้ง ประทับใจอะไรมากที่สุด

"ครั้งแรกที่ผมได้มาเมืองไทย มีแฟนเพลงมารอต้อนรับผมที่สนามบิน รู้สึกเหมือนได้รับพลังจากแฟนเพลงเหล่านั้น ผมก็เลยรู้สึกว่าผมชอบเมืองไทย ก็เลยต้องมาเมืองไทยเพื่อแฟนๆ ที่ยังรอผมอยู่เสมอครับ"

คราวนี้มาอยู่เมืองไทยนานมาก มีแผนที่จะทำอะไรบ้าง

"หลักๆ ของการมาครั้งนี้คือการจัดมีตติ้งแล้วก็มาเป็นอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยส่วนตัวแล้วผมชอบผลงานของบอดี้สแลม ถ้าได้ร่วมงานกันก็คงดี ก็มีการติดต่อกันผ่านทวิตเตอร์บ้าง แล้วก็ได้รับโอกาสคือก่อนวันที่จะกลับญี่ปุ่นก็จะขึ้นคอนเสิร์ตเวทีเดียวกับบอดี้สแลม ผมเฝ้ารอคอนเสิร์ตครั้งนี้อย่างใจจดใจจ่อเลยครับ"

มาร่วมงานกับ บอดี้สแลม ได้อย่างไร

"ตอนนั้นผมกำลังเดินเที่ยวอยู่แล้วได้ยินเพลงก็รู้สึกว่าเป็นเพลงเจ๋งมาก ก็เลยถามกับสตาฟฟ์ว่าเป็นเพลงของใคร ผมไม่รู้ว่าบอดี้สแลมดังมากในเมืองไทย พอได้ติดตามก็ถึงรู้ว่าบอดี้สแลมเป็นวงที่ดังมาก พอเริ่มชอบก็เริ่มหาทวิตเตอร์ ทวิตเตอร์ไปหาพี่ตูน (อาทิวราห์ คงมาลัย) ไปหาสมาชิกของบอดี้สแลม ผมก็เลยได้รับเกียรติจากสมาชิกบอดี้สแลมเชิญไปห้องอัดของพวกเขา ในตอนนั้นพี่ตูนร้องเพลงให้ฟังสดๆ ก็เลยรู้สึกว่าไม่ผิดหวังจริงๆ ที่ชอบบอดี้สแลม หลังจากได้เจอกันครั้งนั้นก็มีการติดต่อกันบ้างเป็นระยะๆ ครับ แล้วตอนที่ได้ไปห้องอัดก็ได้มีการพูดคุยกัน สมาชิกในวงก็บอกผมว่าพวกเขามีโอกาสได้ไปดูคอนเสิร์ตที่ลูซิเฟอร์มาเล่นที่เมืองไทยเมื่อสมัย 10 ปีก่อน ก็รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก ก็มีการคุยกันว่าถ้าได้ร่วมงานกันก็คงจะดี แล้วก็ได้มาร่วมงานกันครั้งนี้ครับ"

เพลงที่อยากร้องกับ บอดี้สแลม เป็นพิเศษ

"ตอนนี้เพลงที่ผมชอบก็คือเพลง ความรัก ก็กำลังฝึกภาษาไทยอยู่ อยากจะร้องกับพี่ตูนให้ได้ ก็เลยบอกไปว่าขอร้องเพลง ความรัก กับพี่ตูนได้หรือเปล่า ซึ่งตอนนี้ทางบอดี้สแลมเขาก็บอกโอเคมาแล้วครับ เมื่อวานนี้ผมได้ไปซื้อเสื้อยี่ห้อนึงที่พี่ตูนเป็นพรีเซนเตอร์และออกแบบเอง เดี๋ยวผมจะแอบเซอร์ไพร์สพี่ตูนด้วยการใส่เสื้อตัวนั้นขึ้นบนคอนเสิร์ต อยากให้พี่ตูนดีใจ ความจริงผมก็ยังพูดภาษาไทยไม่ค่อยได้ แล้วการออกเสียงในเนื้อเพลงก็ค่อนข้างยาก บนเวทีผมอาจจะดูโพยไปร้องเพลงไป แต่ผมก็อยากจะสื่อความรู้สึกให้รู้ว่าผมชอบบอดี้สแลมแล้วผมก็ชอบคนไทยด้วยครับ ผมอยากส่งความรู้สึกนี้ไปให้กับทุกคน"

เริ่มติดต่อพูดคุยกับ ตูน ตั้งแต่เมื่อไร

"นอกจากทวิตเตอร์แล้วก็ยังไม่ได้มีการติดต่อกับพี่ตูนโดยตรง ผมหวังว่าหลังจากคอนเสิร์ตนี้ก็คงจะได้ติดต่อ ได้เป็นเพื่อนกับพี่ตูน พี่ตูนเป็นคนที่เท่มาก แต่งตัวก็ดี แถมในแคตตาล็อกของแชปส์ พี่ตูนกล้ามล่ำมาก ถ้าผมเป็นผู้หญิง พี่ตูนคือผู้ชายในสเปกเลย แถมยังเป็นสุภาพบุรุษอีกต่างหาก ใจดีด้วย ถ้าเป็นผู้หญิงแล้วได้คบกับพี่ตูนก็คงจะมีความสุขมาก"

มีโอกาสไหมที่วง ทริก กับ บอดี้สแลม จะได้ร่วมงานกัน

"ผมคิดว่าเพลงของบอดี้สแลมถ้าเปลี่ยนจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ เพลงของบอดี้สแลมสามารถที่จะสื่อได้กับคนทั้งโลก ก่อนหน้านี้ ทาทา ยัง ก็ได้เดินทางไปทำกิจกรรม ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ประเทศญี่ปุ่น ผมมีความรู้สึกว่าถ้าบอดี้สแลมได้ไปบ้าง แม้ว่าตัวผมจะเป็นเสียงเล็กๆ แต่ก็จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ แล้วตอนนี้ผมยังได้ทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ให้กับวงเกาหลีวงนึงอยู่ ก็จะมีการเดบิวต์ในปีหน้าครับ ปีหน้ามีอะไรสนุกๆ เยอะแยะ อยากให้รอติดตามกันครับ"

จะไปลงนามและจุดเทียนชัยถวายพระพรในหลวงด้วย

"ใช่ครับ ผมเคยได้อ่านพระอาการของในหลวงผ่านทางทวิตเตอร์อย่างละเอียดอยู่ตลอดเวลา ก็มีความรู้สึกเป็นห่วง เลยอยากที่จะไปลงนามถวายพระพรครับ"

ความรู้สึกที่ได้ช่วยเหลือเมืองไทย และได้ร่วมลงนามถวายพระพร

"การที่ได้ไปเยี่ยมผู้ประสบภัยที่ศูนย์พักพิงราชการเฉลิมพระเกียรติ (กรมธนารักษ์ แจ้งวัฒนะ) และการไปลงนามพระพรในหลวงเป็นเรื่องที่ผมควรจะทำ เพราะว่าสำหรับผมแล้วประเทศไทยคือส่วนหนึ่งของผม ไม่ได้มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ ก็เหมือนกับทุกคนที่อยากจะปกป้องครอบครัวของตัวเอง ผมก็มีความรู้สึกอย่างนั้นเหมือนกันครับ"

อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ ที่ไม่ได้มาร่วมงานนี้ไหม

"สำหรับแฟนๆ ที่มาร่วมงานในครั้งนี้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะว่าปีหน้าผมจะมาอีกบ่อยๆ ยังไงก็ช่วยติดตามด้วยแล้วกันครับ"

จากนั้นเป็นช่วงของการประมูลของรักของหวงทั้ง 5 ชิ้นที่ขนาด มาโกโตะ ยังบ่นเสียดายเอง เพราะของแต่ละชิ้นมีความหมายและมีความพิเศษกับเจ้าตัวมาก แถมบางชิ้นยังเป็นชิ้นสุดท้ายที่มีอีกด้วย แต่ก็ตัดใจนำออกมาประมูลเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยโดยเฉพาะ ซึ่งของที่นำมาประมูลนั้นมีทั้ง สมุดภาพคอนเสิร์ตครบรอบ 10 ปีของวง ลูซิเฟอร์ พร้อมลายเซ็น ต่อด้วยเสื้อของวง ทริก ที่ใส่เล่นบนคอนเสิร์ตเมื่อไม่นานมานี้

ส่วนชิ้นที่ 3 เป็นเสื้อที่ใส่ทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกของวง ลูซิเฟอร์ ที่เจ้าตัวมีเป็นตัวสุดท้าย ตามมาด้วยกล่องดนตรีสำหรับใส่เครื่องประดับ ซึ่งผลิตมาไม่ถึง 20 ชิ้น เพื่อมอบเป็นที่ระลึกให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อตั้งวง ลูซิเฟอร์ แม้แต่สมาชิกภายในวงเองก็ยังไม่มีใครมีของชิ้นนี้ แต่ มาโกโตะ แอบไปเอามาจากบ้านคุณพ่อ และปิดท้ายด้วยเสื้อเชิ้ตลายทางสีแดงที่ใส่มาปรากฏตัวให้แฟนๆ ที่เมืองไทยได้เห็นเป็นครั้งแรกเมื่อ 11 ปีที่แล้ว

แล้วที่เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ ได้มากที่สุด ก็เป็นการประมูลที่เจ้าตัวคิดขึ้นมาสดๆ ร้อนๆ กับการประมูลจุ๊บ ซึ่งก็มีแฟนเพลงประมูลจุ๊บหน้าผากจาก มาโกโตะ ไปในมูลค่า 10,100 บาท โดยรายได้จากการประมูลทั้งหมดรวมเป็นมูลค่า 58,400 บาท ก็จะนำไปร่วมสมทบทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ประสบอุทกภัยต่อไป นอกจากนั้นผู้ร่วมประมูลทั้งหมดก็ยังได้รับสิทธิ์ทานอาหารในบรรยากาศแบบเป็นกันเองร่วมกับ มาโกโตะ อีกด้วย

เท่านั้นยังไม่พอ มาโกโตะ ก็ยังเตรียมของขวัญพิเศษมามอบให้กับแฟนๆ โดยลงมือจับฉลากเลือกแฟนคลับผู้โชคดีทั้ง 10 คนด้วยตัวเอง แล้วเหล่าแฟนๆ ยังได้ใกล้ชิดกับนักร้องหนุ่มขวัญใจตัวเองแบบสุดๆ กับการประกบคู่ถ่ายภาพร่วมกันแบบตัวต่อตัวอีกด้วย ก่อนจะปิดท้ายงานด้วยบรรยากาศที่จะหาจากที่ไหนไม่ได้ เมื่อหนุ่ม มาโกโตะ ไปยืนรออยู่หน้าประตู เพื่อส่งเหล่าแฟนๆ ให้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย