ซอนโฮยอง ควง 2 ศิลปิน เปิดมินิคอนเสิร์ตละลายใจแฟนๆ
"เอเชีย อิน วัน เดอะ โชว์เคส" (Asia In One The Showcase) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2550 เป็นมินิคอนเสิร์ตรวบรวม 3 ศิลปินเกาหลีมาไว้ในงานเดียว ทั้งหนุ่มยิ้มเพชฌฆาต "ซอนโฮยอง" (Son Ho-young) ที่เพิ่งออกอัลบั้มใหม่ในชื่อ "Yes 1st" ร่วมด้วย สาวๆ "เบบี้วอกซ์ รีฟ" (Baby V.O.X Re.V) ได้แก่ "อันจินกยอง" Ahn Jin-gyeong) "ยังอึนจี" (Yang Eun-ji) "ฮวางยอนกยอง" (Hwang Yeon-gyeong) และ 2 สมาชิกใหม่ "โอมินจิน" (Oh Min-jin) กับ "ปาร์กโซรี" (Park So-ri)
นอกจากนี้ยังเพิ่มความหลากหลายด้วย 6 หนุ่มนักเต้นเบรกแดนซ์ในแบบบี-บอย ที่กวาดรางวัลระดับโลกมาแล้วอย่างกลุ่ม "แกมเบลอร์" (Gambler) ซึ่งมีสมาชิกกลุ่มประกอบด้วย "สติล" (Still) "รัช" (Rush) "ซิก" (Sick) "บรูซ ลี" (Bruce Lee) "เซสตี้" (Zesty) และ "ป๊อป" (Pop) โดยก่อนจะถึงช่วงมินิคอนเสิร์ตได้จัดให้มีการสัมภาษณ์ศิลปินทั้ง 3 กลุ่มกันแบบพอหอมปากหอมคอ เริ่มจากกลุ่ม แกมเบลอร์
มารวมตัวกันได้อย่างไร
สติล "ตั้งแต่ปี 2002 ตอนนั้นมีการแข่งขันของพวกบี-บอยครั้งใหญ่มาก จัดที่เยอรมนี แล้วรอบคัดเลือกมาจัดกันที่เกาหลี จึงรวมตัวกันเพื่อไปแข่ง จากนั้นก็เปลี่ยนจากนักเต้นสมัครเล่นมาเป็นมืออาชีพ"
ส่วนใหญ่ใครเป็นคนคิดท่าเต้น
สติล "ทุกคนมีจุดเด่น มีคาแรกเตอร์ของตัวเอง เพราะฉะนั้นเวลาจะขึ้นแสดงแต่ละคนจะคิดท่าทางวิธีการเต้นของตัวเอง แต่เวลาจะแสดงใหญ่ก็จะมีคุยกันก่อนขึ้นแสดงว่าท่าของแต่ละคนลงตัวไหม"
รางวัลระดับนานาชาติที่เคยได้มีอะไรบ้าง
สติล "ส่วนใหญ่จะได้รับรางวัลที่เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุดของกลุ่มนักเต้นบี-บอย จะมี 4 เวทีก็ชนะหมดเลย ไล่มาตั้งแต่ปี 2004 ที่ประเทศเยอรมนี แล้วก็มีที่ญี่ปุ่นชื่อการแข่งขัน โอกินาว่าสตรีตไซต์ แล้วก็มีที่ฝรั่งเศส และล่าสุดคือ 2006 ชนะการเต้น บี-บอย ที่ ฮูสตัน อเมริกา แล้วก็เป็นทีมต่างชาติทีมแรกที่ได้รางวัลนี้ที่ไม่ใช่คนอเมริกัน"
ครั้งแรกที่มาเมืองไทยรึเปล่า
สติล "บรูซ ลี เคยมาเป็นกรรมการเต้นบี-บอย ที่จัดแข่งในประเทศไทยก่อนหน้านี้ ส่วนที่เหลือมาเป็นครั้งแรก"
ประสบการณ์มาเมืองไทยคราวที่แล้วเป็นยังไงบ้าง
บรูซ ลี "เมื่อก่อนที่มาครั้งแรกก็ยังไม่ค่อยรู้จักเมืองไทยเท่าไหร่ ตอนที่มาครั้งแรกก็ไม่รู้ว่าบี-บอยเมืองไทยเป็นยังไง คนชอบบี-บอย กลุ่มที่เต้นบี-บอย มีมากแค่ไหน แล้วเต้นเก่งรึเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่พอได้มาเห็นก็ถือว่าความสามารถของกลุ่มบี-บอย เมืองไทยก็ใช้ได้เลย แต่ถ้าพูดถึงเมืองไทยโดยทั่วๆ ไปแล้วเนี่ย คราวที่แล้วมานี่อย่างรถก็ยังไม่ค่อยเดิร์น แต่มาคราวนี้เห็นรถเดิร์นๆ รถเจ๋งๆ เยอะ แล้วก็ตึกรามบ้านช่องดูเจริญมากขึ้น ก็คิดว่าน่าจะพัฒนามากขึ้น"
นอกจากการเต้นแล้วมีอาชีพหลักอย่างอื่นอีกรึเปล่า
สติล "อย่างเป็นทางการแล้วก็การเต้นเป็นหลักเลย"
ที่บอกว่าแต่ละคนแตกต่างกันนั้น มีเอกลักษณ์แตกต่างกันยังไงบ้าง
สติล "แตกต่างกันที่เรื่องของสไตล์ แต่ถ้าจะให้อธิบายว่าแตกต่างกันยังไง ไล่ไปแต่ละคนผมคิดว่าคืนนี้ก็คงไม่จบ ถ้างั้นเดี๋ยวไปพบกันในโชว์เคสดีกว่า ถ้าเห็นปุ๊บจะรู้เลยว่าสไตล์ของแต่ละคนเป็นยังไง"
มาถึงสาวๆ เบบี้วอกซ์ รีฟ งานนี้มากันในชุดขาวยกกลุ่ม เมื่อออกมาก็ไหว้และทักทายสื่อมวลชนเป็นภาษาไทย ก่อนจะแนะนำ 2 สมาชิกใหม่ คือ โอมินจิน และ ปาร์กโซรี จากนั้นจึงเข้าสู่ช่วงคำถาม
การมาครั้งนี้มีอะไรพิเศษมาฝากชาวไทยกันบ้าง
จินกยอง "คราวนี้จริงๆ มาเมืองไทยเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ปกติก็ควรมีอัลบั้มใหม่ถือติดไม้ติดมือมาด้วย แต่คราวนี้ยังไม่ได้เอาอัลบั้มใหม่มา แต่ว่าตามรุ่นพี่ คือ ซอนโฮยอง มาโชว์เคสที่เมืองไทย และภายในไม่เกิน 1 เดือนก็ให้สัญญาว่าจะเอาอัลบั้มใหม่มา รับรองว่าทุกคนต้องชอบแน่นอน"
เห็นว่าจะร้องเพลง Never Say Goodbye เป็นแบบภาษาไทยด้วย
อึนจี "ใช่ค่ะ การออกเสียงภาษาไทยนี่ยากมาก วันนี้ก็ช่วยฟังกันด้วยนะคะว่าสำเนียงภาษาไทยเของพวกเราป็นไงบ้าง"
แสดงว่าอนาคตอาจจะมีออกอัลบั้มไทยด้วยรึเปล่า
อึนจี "ตอนนี้ก็ตั้งใจเรียนภาษาไทยกันมาก เพราะฉะนั้นก็ไม่แน่เหมือนกัน ถ้าเก่งๆ แล้ว อาจจะมีแผนออกอัลบั้มเป็นภาษาไทยเหมือนกัน"
จะมีคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบบ้างไหม
ยอนกยอง "ตอนนี้อัลบั้มยังไม่เสร็จดี เดี๋ยวต้องรีบกลับไปสรุปรวมปิดอัลบั้มให้เรียบร้อย ถ้าแฟนๆ ชาวไทยให้การต้อนรับอัลบั้มใหม่นี้ของ เบบี้วอกซ์ รีฟ เป็นอย่างดีก็รับรองแน่นอนว่าต้องมีคอนเสิร์ตเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ"
มีสมาชิกใหม่เข้ามานี่งานเพลงต้องปรับอะไรบ้างไหม
ยอนกยอง "ถึงแม้จะมีสมาชิกใหม่เข้ามา แต่ก็ยังคงรักษาคอนเซ็ปต์เดิม คือความเป็นผู้หญิงและความเซ็กซี่เหมือนกับที่ เบบี้วอกซ์ รุ่นแรกเคยทำเอาไว้"
สุดท้ายไปกันที่หนุ่ม ซอนโฮยอง ที่มาแบบยิ้มแย้มและโบกมือให้สื่อมวลชน ตามด้วยกล่าวทักทายว่า "สวัสดีแฟนๆ ชาวไทย ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ได้ร้องเพลงให้แฟนชาวไทย ก็ขอบคุณสำหรับโอกาสนี้ แล้วผมจะตั้งใจทำงานให้เต็มที่"
ไปออกรายการ สาระแนโชว์ มาเป็นยังไงบ้าง
"สนุกมาก มีแอบถ่ายด้วย ตลกมาก ถ้าเป็นไปได้อยากออกรายการนี้อีกครั้ง"
รู้สึกยังไงกับแฟนเพลงชาวไทย
"แฟนๆ ชาวไทยน่ารักมากเลย เวลาเจอก็จะยิ้มให้ ก็รู้สึกประทับใจ แต่ก็ฝากเตือนถึงแฟนๆ เพราะเคยมีแฟนๆ วิ่งตามลงมาบนถนนที่มีรถแล่นอยู่ อันนี้ไม่ดีนะ อย่าทำ อันตราย"
มีอะไรเป็นพิเศษมาฝากชาวไทย
"สำหรับโชว์เคสวันนี้ก็เตรียมเพลงมาเยอะเลย แล้วก็มีเพลงที่เคยร้องสมัยอยู่วง จี.โอ.ดี (G.O.D) ด้วย"
ถ้ามีโอกาสอยากไปไหนในเมืองไทย
"ตอนนี้ยังนึกไม่ออกว่าจะไปไหน แต่อยากไปเที่ยวทั้งวัน ไปดูสถานที่ต่างๆ แล้วก็ทานอาหารไทย ใช้เวลาให้คุ้มค่า 1 วันเต็มเลย"
เห็นว่าเป็นหนุ่มยิ้มสวยของสาวเกาหลี แล้วสาวไทยนี่สู้ได้ไหมเนี่ย
" (หัวเราะ) ขอบคุณสำหรับคำชม ผมยิ้มได้เพราะแฟนๆ ถ้ายังมีแฟนๆ ที่คอยให้กำลังใจผมตลอดไป ก็รับรองว่ารอยยิ้มนี่จะมีอยู่เรื่อยๆ ตลอดไป"
ได้ลองทางอาหารไทยบ้างหรือยัง ชอบอะไรเป็นพิเศษบ้าง
"ชอบหมดเลยทั้งอาหารทะเล แล้วก็พวกแกงแบบไทยๆ ของหวานก็ชอบข้าวเหนียวมะม่วง"
ได้ไปเที่ยวที่ไหนในเมืองไทยมาแล้วบ้าง
"ไม่ได้ไปไหนเลย ตั้งแต่เช้าถึงค่ำทำงานอย่างเดียว ที่ไปคือโรงแรม สตูดิโอถ่ายงาน แค่นี้เองครับ"
ฝากอะไรถึงแฟนเพลงชาวไทยหน่อย
"ฝากถึงโชว์เคสวันนี้ซึ่งมีการแสดงของผม ของ แกมเบลอร์ และของ เบบี้วอกซ์ รีฟ ก็ฝากการแสดงและผลงานทั้ง 3 วงไว้กับแฟนๆ ด้วย แล้วอีกเรื่องที่อยากพูดคือวันที่มาถึงที่เมืองไทยได้ยินข่าวเรื่องการประชวรของในหลวง ซึ่งทำให้รู้สึกไม่ดีมากเลยที่มาถึงแล้วได้ยินข่าวที่ไม่ดีอะไรแบบนี้ แต่ได้ยินว่าวันนี้ออกจากโรงพยาบาลศิริราชแล้ว และพระอาการดีขึ้น ก็สบายใจมากขึ้น เพราะว่าวันแรกที่มายังทรงอยู่ในโรงพยาบาล และยังไงก็อยากจะขอให้พระเจ้าอยู่หัวหายจากอาการประชวรโดยเร็ว"
แล้วก็ได้เวลาที่ทุกคนรอคอยกันแล้ว กับการแสดงของทั้ง 3 ศิลปิน เริ่มด้วยหนุ่มๆ แกมเบลอร์ ออกมาเต้นเบรกแดนซ์ ซึ่งลีลาของแต่ละคนนั้นก็จัดจ้านสมกับที่กวาดรางวัลมาได้จากหลายเวที จากนั้นสาวๆ เบบี้วอกซ์ รีฟ ออกมาโปรยเสน่ห์น่ารักเซ็กซี่มัดใจหนุ่มๆ บ้างในเพลง "Shee" ต่อด้วยเพลง "Never Say Goodbye" ในแบบภาษาไทยที่แม้สำเนียงจะยังไม่ชัดเจน แต่ความน่ารักของพวกเธอก็ชนะใจแฟนๆ ไปได้อีกตามเคย
มาถึงหนุ่มยิ้มบาดใจอย่าง "ซอนโฮยอง" กันบ้าง เริ่มเปิดตัวด้วยเพลง 3 เพลงเร็ว "Geu Ryeo Bon Da (See)" "Call Me 5500" และ "Yes!" จากนั้นไปที่เพลงช้าความหมายซึ้งๆ "Sa Rang Eun Ee Byul Eul Dae Re Go O Da (Love Brings Seperation)" จนมาถึงเพลง "Ja Geun Ka Bang (Small Bag)" ซึ่งหนุ่ม ซอนโฮยอง หันหน้าไปร้องให้บรรดาแฟนคลับที่มาเชียร์กันอยู่ข้างๆ เวทีแทน
จากนั้น ซอนโฮยอง กล่าวขอบคุณแฟนเพลงและบอกว่าเพิ่งคิดได้ว่าต้องหันหน้าไปหาแฟนๆ ที่อยู่ทางข้างเวที ซึ่งจากเดิมตอนแรกเขาจะหันหน้ามาทางสื่อมวลชน จึงขอให้สื่อมวลชนเข้าใจด้วยว่าต้องหันไปหาแฟนๆ บ้าง ทำเอาเหล่าแฟนคลับกรี๊ดถูกอกถูกใจกันใหญ่
มาต่อกันที่เพลงจังหวะสนุกอย่าง "Gi Bun Joh Eun Sang Sang (Happy Imagination)" ตามด้วยเมดเล่ย์รวมเพลงดังของวง จี.โอ.ดี ได้แก่ "Cos Bul Ha Na" "Ni Ga Iss Eo Ya Hal Gos" ปิดท้ายด้วย "0%" หลังจบเพลง ซอนโฮยอง ก็เดินเข้าหลังเวทีไป ทำให้เกิดเสียงร้องเรียกชื่อกันยกใหญ่ จนในที่สุดเขาก็ออกมาอีกรอบกับเพลง "Ha Neu Re Nae Ma Eun Mi (My Heart is in Heaven)" ซึ่งแฟนทั้งหลายต่างร้องตามกันลั่น ก่อนปิดท้ายหยอดคำหวานไว้ว่าแฟนคลับชาวไทยน่ารัก จึงแถมอีกเพลงหนึ่งให้ ถ้าน่ารักแบบนี้ต่อไปก็จะมีอะไรมาให้เรื่อยๆ
อัลบั้ม Yes 1st ของหนุ่ม ซอนโฮยอง จะวางแผงที่ประเทศไทยในเดือนธันวาคม 2550 นี้ รวมถึงวง เบบี้วอกซ์ รีฟ ก็เตรียมคลอดอัลบั้มใหม่เร็วๆ นี้แน่นอน