ได้เวลาตะลุยมหกรรมดนตรีแห่งปี แฟต เฟสติวัล ครั้งที่ 7
ทิ้งความฉงนไว้ให้เหล่าชาวแฟตทั้งหลายงงกันอยู่นานสองนานกับงาน "แฟต เฟสติวัล ครั้งที่ 7" (Fat Festival #7) ของคลื่นวิทยุ 104.5 แฟตเรดิโอ ที่มาในชื่อตอนว่า "ขอบคุณป้าเอ" จนในที่สุดก็ได้เฉลยกันไปแล้วว่า เจ๊ผมซอยดัดฟัน ที่เป็นสัญลักษณ์ของงานครั้งนี้ คือพนักงานคนหนึ่งของบริษัทที่บังเอิญหลุดปากความคิดเรื่องการจัดงานดนตรีออกมา จนเป็นการจุดประกายให้เกิดงานมหกรรมดนตรียิ่งใหญ่ที่รวมหลากศิลปินจากหลายค่ายนี้ขึ้นมาในที่สุด
งานในครั้งนี้มีขึ้นระหว่างวันที่ 10-11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ส่วนสถานที่ยังคงเป็น ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี เช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว โดยมีการสดุดี ป้าเอ ด้วยการสร้างรูปปั้น ป้าเอยืนตระหง่านชื่นชมผลงานต่างๆ ที่ตนเป็นแรงบันดาลใจอยู่ด้วย สำหรับพื้นที่ในงานยังคงเปิดเป็นแหล่งรวมสินค้าถูกใจขาแฟตทั้ง ซีดีใหม่ๆ จากวงดังและวงสมัครเล่น เสื้อยืด กระเป๋า ของที่ระลึกเก๋ๆ นิตยสารจากหลายสำนัก หนังสือทำมือ ไปจนถึงแผ่นภาพยนตร์ทั้งเก่าใหม่ รวมทั้งส่วนฉายภาพยนตร์ขนาดสั้น
เพิ่มความน่าสนใจด้วยส่วน ศิลปะเพื่อแรงบันดาลใจ ที่เต็มไปด้วยงานแปลกๆ เท่ๆ กระจายอยู่ตามบริเวณต่างๆ เช่น งานประติมากรรมขนาดใหญ่ของตลกหน้าตาย "อุดม แต้พานิช" ที่มีชื่องานว่า มาย สเปซ เป็นงานที่นำสิ่งเหลือใช้จากบ้านเขามาเรียงต่อกันจนสูงกลายเป็นบ้านย่อมๆ ได้อย่างเก๋ไก๋ลงตัว อีกงานหนึ่งที่เท่ไม่แพ้กัน ก็คือ คลับตัดหัว ซึ่งเป็นการต่อยอดจาก เธคเงียบ จากงานเดียวกันนี้ในปีก่อนๆ โดยให้ผู้ชมร่วมชมดนตรีสดได้เพียงแค่มุดศีรษะเข้าไปในกล่องด้านบน เพื่อเป็นการสลายความอายของคนไทยให้กล้าเต้นกันแบบไม่รู้ตัวดูบ้าง
มาถึงส่วนของเวทีกันบ้าง งานครั้งนี้แบ่งเวทีออกเป็น 5 ส่วนคือ A1 - A5 สำหรับเวทีที่น่าสนใจในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2550 คือเวที A1 ที่ขนทัพศิลปินดังมาบรรเลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่บ่ายยันดึกทั้ง "สครับ" "สควีซ แอนนิมอล" "โต๋ - ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร" "เบน ชลาทิศ" "ฟรายเดย์" "กรู๊ฟ ไรเดอร์ส" "อพาร์ตเม้นต์คุณป้า" "ฟลัว" ก่อนปิดท้ายถูกใจขาฮิปฮอปกับ "ไทยเทเนี่ยม" ในส่วนของเวทีอื่นๆ มีศิลปินที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ "ทอดด์ ทองดี" "ซามูไลลาว" "บลูด็อค" "มอร์นิ่งเซิร์ฟเฟอร์" "เคลิ้มสมาคม" "ลิปตา" "อีทีซี" "เพชร โอสถานุเคราะห์" "เดย์ ทริปเปอร์" เป็นต้น รวมทั้งทอล์กโชว์เรียกเสียงฮาจากสองหนุ่มอารมณ์ดี "กิ๊กและจิ๊บ" จากเวที A4 ด้วย
เข้าสู่วันที่สองของงาน ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2550 ณ เวที A1 ยังคงเต็มไปด้วยศิลปินขวัญใจวัยรุ่น เช่น "พาราด็อกซ์" ที่มาในเพลงชวนโดด อาทิ "นักมายากล" "น้องเปิ้ล" และ "ร.ด. แดนซ์" ซึ่งก็แน่นอนว่าต้องมีเหล่าตัวประหลาดออกมาเต็มเวที รวมทั้ง "สอง - จักรพงศ์ สิริริน" มือเบสของวง ก็ยังคงการแต่งตัวเปรี้ยวสุดขอบและเต้นแบบลืมโลกเช่นเคย แต่น่าเสียดายที่ความสนุกในคอนเสิร์ตนี้เลยเถิดจนมีการปาขวดน้ำและมีผู้ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นหัวแตกเลยทีเดียว
ยังอยู่ที่เวที A1 กับ "เครสเชนโด้" ที่เปลี่ยนตัวนักร้องนำจาก "บี - พีระพัฒน์ เถรว่อง" มาเป็น "ริค - วชิรปิลันธิ์ โชคเจริญรัตน์" ซึ่งเธอถึงกับบอกคนดูตรงๆ เลยว่า "เครสเชนโด้ไม่มี บี อีกต่อไปแล้ว ใครที่มาเพื่อรอดู บี ก็ขอโทษด้วย" โดยวันนั้น เครสเชนโด้ มาพร้อมเพลงจากอัลบั้มใหม่ที่มี ริค เป็นผู้ขับร้อง พร้อมออกลีลาขรึมขลังตามแบบฉบับของเธอ โดยมีเพลงที่เริ่มติดหูกันบ้างแล้วอย่าง "ใต้แสงตะวัน" ด้วย
สนุกกันต่อกับ "บุดดาเบลส" ซึ่ง 3 หนุ่มออกมาเปิดทอล์กโชว์ย่อยๆ เรียกเสียงฮา พร้อมด้วยเพลงดังๆ ของพวกเขาอย่าง "ไฟร์" "ใจเย็นๆ" "ลำยอง" "ชิงหมาเกิด" จบด้วย "บั๊ม บูม บูม" จากนั้นย้ายมาที่เวที A2 กับวง "สวีท มัลเลท" ที่ใส่ไม่ยั้งกับเพลง "หลอมละลาย" "เพลงของคนโง่" และ "ตอบ" ขณะที่วง "อินสติงค์" มากับเพลงซึ้งจากอัลบั้มใหม่ อาทิ "ผิดสัญญา" "นับถอยหลัง" ส่วนวง "ซีล" ก็ชวนคนดูโยกกันไปกับเพลง "ล้มทั้งยืน" เป็นต้น
ส่วนวง "อาร์มแชร์" จากเวที A5 ก็เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ไปได้เต็มๆ แม้ว่า "อ้วน - อธิศว์ ศรสงคราม" มือคีย์บอร์ดของวงจะยังไม่กลับจากประเทศเยอรมนีก็ตาม ซึ่ง อาร์มแชร์ ได้หยิบเพลงจากหลายอัลบั้มมาให้ฟังกันทั้ง "อยู่ที่เธอทุกอย่าง" "วันที่ฉันป่วย" "พรุ่งนี้" "รักแท้" ตามด้วยเพลงใหม่อย่าง "ลืมตา" ก่อนปิดท้ายด้วย "ไปด้วยกันรึเปล่า"
นอกจากนี้ยังมีศิลปินคนอื่นๆ ที่มาร่วมเล่นในวันที่สองของงานอีก เช่น "แบล็คเฮด" "แฮงแมน" "ซูเปอร์ซับ" "กรุงเทพมาราธอน" "ดาจิม" "ภูมิจิต" "บาสเก็ท แบนด์" ""บอล - จารุลักษณ์ ชยะกุล" "พีทูวอร์ชิพ" "เต็น - ธีรภัค มณีโชติ" "โซฟา" "เพลย์กราวด์" และ "โมเดิร์นด็อก"
