โดม เปิดตัวอัลบั้มใหม่ เผยความเปรี้ยวสุดฤทธิ์เสรีสุดโต่ง

กลับมาอีกครั้งสำหรับ "โดม - ปกรณ์ ลัม" กับสังกัดใหม่ มอร์มิวสิค ภายใต้ชายคาแกรมมี่ กับชื่อวงเก๋ๆ ว่า "Nologo ปกรณ์ ลัม" ที่มี 2 สาว "ชมพู่ - โสภวรรณ ปาลิโพธิ" (คีย์บอร์ด) และ "หญิง - จิตรานันท์ ผงพิลา" (กีตาร์) ออกอัลบั้ม "How to be a rock star?" ที่นำเสนอความประทับใจและร่องรอยอิทธิพลของทศวรรษที่ 80 ต้นกำเนิดความรุ่งเรืองของดนตรีสังเคราะห์ ผสมความดิบห่ามทางความคิดของพังก์ ออกมาเป็นอัลบั้มที่เปรี้ยวสุดฤทธิ์ เสรีสุดโต่ง

โดยมีงานแถลงข่าวเปิดตัวอัลบั้มนี้ไปเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ที่ตึกจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ซึ่งบรรยากาศภายในงานวันนั้น นอกจากจะคราคร่ำไปด้วยสื่อมวลชนต่างๆ แฟนคลับ และเหล่าพี่น้องคนดนตรีอย่าง "เจ - มณฑล จิรา" "เป๊กซ์ - ปราชญ์ พงษ์ไชย" (นักร้องนำวงซีล) "เคน - ปรัชญา มีบำรุง" (มือกลองวงซีล) "ทราย - พิราพร พรานมนัส" (นักร้องนำวงฟาเรนไฮต์) ยังมี "พลอย - ไลลา (เฌอมาลย์) บุญยศักดิ์" หวานใจตัวจริง ที่หอบกุหลาบขาวช่อใหญ่มาให้กำลังใจอีกด้วย

โดมและสมาชิก Nologo ออกมาโชว์เพลงเด็ดในอัลบั้มเป็นครั้งแรก ถึง 4 เพลง เริ่มกันที่เพลง "แฟชั่นโชว์" ตามมาติดๆ กับเพลงชื่อแปลก "ฉาวโฉ่" ลุยต่อในเพลง "โลกแคบ" และปิดท้ายซึ้งๆ กับเพลงช้าในอัลบั้ม "หลีกหนี" หลังจากนั้น โดม หญิง และชมพู่ ก็ได้นั่งเปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงงานเพลงชุดนี้อย่างละเอียดยิบว่า

พูดถึงที่มาที่ไปของอัลบั้มนี้หน่อย

โดม "อัลบั้มนี้ก็ชื่อว่า How to be a rock star? เพื่อนใหม่ค่ายใหม่ ใช้เวลาเตรียมงานประมาณ 15 เดือน ตอนนั้นยังไม่ได้เข้ามาคุยกับทางมอร์มิวสิคเลย เรียนอยู่ที่ต่างประเทศ แล้วมีโอกาสได้ทำเพลง ณ ตอนนั้นก็ 3 ปีแล้วที่ไม่ได้ออกอัลบั้มมา กลับบ้านมาว่างๆ ก็น่าจะทำเพลงเก็บไว้ดู

บังเอิญเอไทม์มีคอนเสิร์ต เดอะ เรโทร พอมาร่วมคอนเสิร์ตปุ๊บ ทางผู้ใหญ่ก็เรียกเข้ามาคุย ก็เริ่มมีการคิดว่าแนวดนตรีจะเป็นแบบไหน พี่เล็ก - บุษบา ดาวเรือง ก็บอกว่าถ้าเราคิดจะทำเพลงแบบนั้น ก็มีอยู่ 2 - 3 ค่ายที่พอจะคุยกันได้ หนึ่งในนั้นก็มีมอร์มิวสิค พอได้เจอพี่ป้อม - อัสนี โชติกุล ก็แฮปปี้มาก ประทับใจในความเป็นกันเอง และความเป็นนักดนตรีของพี่ป้อม ก็เลยเลือกมอร์มิวสิคองค์ประกอบมันครบแล้วนี่ ก็ชั่งน้ำหนักดู มีบอสที่ดี แล้วเราก็ได้ทำเพลงอย่างที่เราอยากทำ ตรงนั้นเป็นจุดกำเนิดในอัลบั้มชุดนี้"

ก่อนหน้านั้นมีข่าวว่าจะไปออกกับสมอลล์รูม

โดม "ใช่ฮะ เพราะเรารู้สึกว่าทำอะไรเป็นแมสส์มาเยอะแล้ว ก็เลยมาอยู่สมอลล์รูม ก็เกิดความเป็นเพื่อนความผูกพัน นี่ก็เป็นเหตุให้เพื่อนๆ ที่รู้จักกันมาช่วยงานในชุดนี้ เหตุผมที่ตอนนั้นไม่ได้ออกกับสมอลล์รูม ตัวผมนี่ยังไงก็ช่างก็คงลบภาพของความเป็นแมสส์ไม่ได้ สิ่งที่ตอบโจทย์ได้ดีก็คือค่ายที่ใหญ่ มีเงินทุนที่จะทำให้เราสนุกกับงานในสเกลใหญ่ๆ ได้ นี่เป็นคำตอบที่ผมเลือกที่จะมาอยู่มอร์มิวสิค"

แล้วไปเจอ 2 สาวนี้ได้ยังไง

โดม "หญิงเค้าเป็นนักดนตรีอาชีพเล่นกลางคืนอยู่ ส่วนผมก็ไปทานอาหารในสถานที่ที่เค้าเล่น ก็เลยมีโอกาสได้เจอเค้า คือต้องบอกก่อนเลยว่าโจทย์ผมตั้งแต่แรกอยากจะมองหานักดนตรีเล่นกีตาร์ที่เป็นผู้หญิงจริงๆ พอมีโอกาสไปเจอ ก็คนนี้เค้ามีคาแร็กเตอร์ของเค้านะ และเค้าก็มีฝีมือในการเล่นที่พอตัวเลย เราก็ชักชวนกัน งงๆ เล็กน้อยว่าจะให้ไปทำอะไรไปเป็นแดนเซอร์หรือเปล่า (หัวเราะ)"

"ชมพู่นี่เป็นอาจารย์หลายแขนงเลย ที่เด่นๆ เลยเป็นอาจารย์สอนเปียโน คีย์บอร์ด ก็มีการประกาศหากัน แล้วมีเพื่อนฝูงของชมพู่เนี่ยรู้ข่าวมา แล้วเราก็รู้จักทางเพื่อนเค้าด้วย ก็เลยไปติดต่อมาร่วมงานกันครับ แล้วเจอกันครับ ทั้งสองคนนี่ก็ร้องเพลงได้ดีด้วย มันเป็นการวางภาพไว้ในหัว แล้ว 2 คนนี้ก็ตรง"

ชมพู่ กับ หญิง ได้ร่วมงานกับโดมแล้วเป็นไงบ้าง

ชมพู่ "จริงๆ มันก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างแปลกใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแนวดนตรี หรือว่าการทำงานเป็นวงน่ะนะคะ คนละแนวกับการสอนดนตรี"

หญิง "ก็เปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนทัศนคติ แต่ก่อนก็เห็นพี่เค้าเป็นนักร้องวัยรุ่นธรรมดาทั่วไปเฉยๆ พอร่วมงานกับก็รู้สึกว่าเค้ามีอะไรมากกว่าที่เราเห็น เวลาทำงานเค้าจริงจังมากๆ เวลาเล่นก็จะเฮฮาไปเลย บางทีจริงจังมากๆ ดุเลย ก็กลัวเหมือนกัน"

ชื่ออัลบั้มมีอะไรลึกๆ เป็นพิเศษหรือเปล่า

โดม "จริงๆ เราชอบวิถีชีวิตและมุมมองของร็อกสตาร์ นักดนตรีเค้ามีทั้งความสับสนวุ่นวายในชีวิต และอีกมุมหนึ่งก็มีความหลุดพ้นจากอะไรเดิมๆ ที่เป็นวัฏจักรน่ะฮะ ไม่ได้หมายความว่าทำยังไงถึงจะเป็นร็อกสตาร์"

ภาพรวมเป็นยังไง

โดม "ภาพรวมของอัลบั้มชุดนี้จริงๆ แล้วผมไม่อยากจะมากำหนดฮะว่าแนวนู้นแนวนี้ พื้นฐานก็คือเพลงป๊อป เอาง่ายๆ เลย ซึ่งมีพังก์แอตติจูดอยู่ในนั้นบวกดนตรียุค 80 ที่เป็นเรโทร"

แล้วพังก์แอตติจูดนี่ต้องก้าวร้าวรุนแรงหรือเปล่า

โดม "จริงๆ พังก์แอตติจูดมาจากสภาพแวดล้อมพื้นฐานของแต่ละคนใช่มั้ยฮะ เราเป็นคนไทย พังก์แอตติจูดก็เป็นแบบคนไทยเวอร์ชั่น เข้มข้นแบบกลิ่นไทย อยู่ในกรอบ"

เห็นว่าอัลบั้มนี้มีเพลง พารานอยด์ ถึง 2 เวอร์ชั่น แตกต่างกันยังไง

โดม "เราทำพิเศษออกมาเป็นวิทยุกับทีวี ซึ่งเนื้อหาบางส่วนอาจถูกเปลี่ยนไป คำบางคำอะไรอย่างเงี้ย เพราะมันออนแอร์ลำบาก โดยเนื้อหาอยากจะสื่อถึงมุมมองคนเมืองที่มีต่อความชุ่ยของสังคม ผมว่าสังคมไทยมีคนดีๆ เยอะแยะ คนบรรลัยๆ ก็เยอะแยะ ตรงนี้ทำให้ชีวิตเราประจำวันเนี่ยถูกเบียดเบียนโดยปริยาย โดยไม่ได้ตั้งตัวไม่ได้ตั้งใจ มีการข้ามไลน์ เห็นแก่ตัวตลอดเวลา

ตรงนี้เราก็เลยหยิบขึ้นมาเป็นประเด็นของเรื่องนี้ เราก็มีเมโลดี้ มีสระที่ลงตัว เราอยากทำให้มันติดปาก เป็นไทยเวอร์ชั่นครับ เพลงนี้เป็นเพลงแปลก มีความเป็นอิเล็กโทรจ๋าเลย อยากให้คนหยุดฟัง ช็อกคน ไม่ใช่เพลงเพราะ อายุของมันก็คงจะสั้น อาทิตย์สองอาทิตย์เอง”

ไปได้แนวคิดเพลงพารานอยด์นี้มาจากไหน

โดม " ��ราทำเพลงที่ดนตรีมันยาก วุ่นวาย ไม่คุ้นหู เราก็ต้องคิดว่าเราขายเพลงในเมืองไทย ถ้าดนตรียากอย่างเนี้ย เราก็ต้องขายความเป็นไทยเป็นพื้นบ้านหน่อย ซึ่งก็คงต้องเป็นอะไรที่มีความตลก น่าสนใจอยู่ในเนื้อเพลง สองคนไทยชอบอะไรก็ร้องตามสามารถเอามาเป็นประเด็นพูดกันได้ ตรงนี้ก็เลยคิดว่า คำพวกคล้องจองน่าจะเอามาเล่นในเพลงนี้ ผมว่ามันดูตลกด้วยนะ แต่พอมาอยู่ในดนตรีแนวนี้ ทำให้ดูไม่ฮามาก

แล้วสระแอะมันก็สนุกปาก แต่เนื้อหาแต่ละท่อนจะไม่เหมือนกันหรอก จริงๆ มันเรื่องเดียวกันทิศทางเดียวกัน เป็นเรื่องความชุ่ยของคนเมืองใหญ่ เพียงแต่เราเสนอเราเล่าในสถานการณ์ที่แตกต่างกันแต่ประเด็นเดียวกั� "

แล้วเพลง แฟชั่นโชว์ ล่ะ จะพูดถึงอะไร

โดม " ��ฟชั่นโชว์นี้เราอย่าเพิ่งมองไปถึงเสื้อผ้านะฮะ คำว่าแฟชั่นมันพูดถึงวิธีความคิดด้วยนะฮะ วิธีการพรีเซนต์ตนเองในสังคมไทยวันนี้ ซึ่งไม่ต้องไปดูตามแคตวอร์กเลย ถนนฟุตบาทเนี่ยแหละตัวดีเลย ผู้คนที่เดินมาเหมือนกันหมดเลย พรีเซนต์อะไรเหมือนกัน ทุกคนอยากสวยอยากเด่นอยากดีเหมือนกันหมดเลย เพลงนี้ก็เลยอยากนำเสนอว่าน่าเบื่อ อยากจะออกมาแล้ว อะไรๆ ก็เป็นแพตเทิร์น เหมือนพูดกับตัวเองว่าออกดีกว่� "

มาถึงอีกเพลงหนึ่งที่ดุมาก ฉาวโฉ่

หญิง " ��าวโฉ่ก็พูดถึงเรื่องจริงในวงการบันเทิง ในเพลงดูเหมือนไปกัดใครเค้าเข้า แต่จริงๆ มันเป็นมุมมองของเร� "

โดม " ��ูดตรงๆ เลยนะ เราเห็นกระแสปาปาราซซี่ หนังสือซุบซิบกอสซิบต่างๆ เรารู้สึกว่าคนในสมัยนี้ บวกกับความเป็นส่วนตัวนี่แทบจะไม่มีเลย เราก็เลยรู้สึกว่ามันฉาวโฉ่ทุกวันนี้ อะไรก็ฉาวโฉ่ไปหมด จะพูดถึงขอบเขตว่าอยู่ตรงไหน ไม่อยากโชว์ไม่อยากฉา� "

แล้วเพลง โลกแคบ ล่ะ

โดม " ��ือเรามองถึง 2 ฝ่าย ฝ่ายซ้ายก็คือคนที่เป็นคนอนุรักษ์นิยมหัวโบราณ ฝ่ายขวาก็คือเป็นเด็กรุ่นใหม่ โจทย์ 2 โจทย์ เราก็มามองว่าซ้ายสุดขวาสุดไม่ดีแน่ ควรเป็นอะไรที่อยู่ตรงกลางและยอมรับซึ่งกันและกัน ผมว่าคนชอบอยู่แบบเก่าๆ แบบเก่าๆ ที่ดีนะฮะ แล้วอีกแบบก็คือแบบใหม่ๆ แต่แบบใหม่ๆ ที่ดี

ในทางตรงกันข้ามเราจะเห็นเสมอว่าคนที่ชอบแบบเก่าๆ มักจะไม่ค่อยเปิดใจรับอะไรแบบใหม่ๆ แม้ว่าจะเป็นแบบใหม่ๆ ที่ดี ตรงนี้ก็เกิดเป็นเพลงนี้ขึ้นมา ผมเปรียบเปรยว่าพวกนี้เหมือนของหมดอายุ เหมือนขนมปังขึ้นราต้องเอาไปทิ้ง อะไรอย่างเนี้� "

แต่ก็มีเพลงช้า ออกแนวโรแมนติก เพลงหลีกหนี

โดม " ��พลงนี้ได้ พี่กอล์ฟ - ซูเปอร์เบเกอร์ มาบรรเลงให้ ตอนแรกเราก็รู้สึกว่ามันตรงกับตัวพี่กอล์ฟนะ แต่พอเราฟังมันก็ตรงกับตัวเรานะ เราก็โดนเหมือนกัน พูดจริงๆ เพลงนี้ไม่ใช่เพลงรัก แต่อยากจะบอกอยากจะอธิบายอยากจะเล่าเรื่องของผู้ชายคนหนึ่ง เออ! บางมุมผู้ชายก็มีความอ่อนโยนมีความไขว้เขวมีความอ่อนแอ เพลงนี้ก็เหมือนเพลงที่ให้นึกภาพนะฮะ ว่านอนอยู่บนเตียง นอนไม่หลับ คิดเรื่องเศร้าๆ เรื่องไม่ดี ที่เราคิดตอนที่เราอ่อนแ� "

แล้วเพลงที่ชื่อเก๋ๆ ว่า พจนานุกรม ล่ะ

โดม " ��พลงนี้ เจ - มณฑล จิรา ทำ รู้สึกว่าเพลงนี้ทั้งดนตรีและเนื้อหาลงตัวดี เพลงนี้ได้ พี่เชาว์ เชาวเรศ มาเล่นให้ ก็พูดเรื่องพจนานุกรม เรื่องภาษา เรื่องการสื่อสารของมนุษย์ ยกตัวอย่างคน 2 คนพูดคำเดียวกัน สื่อสารกัน อาจจะเข้าใจผิดกันไปคนละคำ สรุปแล้วพจนานุกรมมีไว้หาความหมายที่แท้จริงของคำๆ นั้น อีกนัยหนึ่งก็คือไว้หาความซับซ้อนของมนุษย� "

มีเพลงหนึ่งในอัลบั้มที่ชื่อ สเกล อยากวัดอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า

โดม " ��พลงนี้ผมชอบมากเลยนะครับ ชอบมาก พูดถึงว่าทุกวันนี้มนุษย์เริ่มจะไม่ได้ใช้ความเป็นมนุษย์ เพื่อที่จะรับรู้หรือรับรสอะไรต่างๆ แล้ว มนุษย์ใช้มาตราใช้ค่าวัดอะไรต่างๆ เป็นตัวกำหนด หนาวไหม ร้อนไปไหม วันไหนอากาศดี มีสเกลวัดทุกอย่างเลย ผมอยากจะพูดว่าบางอย่างไม่จำเป็นนะ เช่นความรู้สึกใช้สัญชาตญาณความเป็นมนุษย์ดีกว่าใช้เซ้นต� "

เพลงที่ชื่อว่า ไม่ใช่วันสุดท้าย 26.12.04 หมายถึงอะไร

โดม "26.12.04 เป็นวันที่เกิดสึนามิ เพลงนี้ต้องยกให้ พี่เจ - เจตมนต์ มละโยธิน ถ่ายทอดออกมา เรารู้สึกว่าเบื้องหลังของการสูญเสียครั้งนี้นอกจากจะเสียใจแล้ว มีความพลัดพรากจากลาอยู่ด้วย เราก็หยิบยกขึ้นมา"

รู้สึกว่าเพลงรักในอัลบั้มนี้น้อยนะ

โดม "เรียกว่าแทบจะไม่มีเลย จะไม่มีเพลงที่ขึ้นต้นมารู้เลยว่าเพลงจะเป็นยังไง คือทุกเพลงเราจะพยายามสร้างอารมณ์สร้างบรรยากาศในเพลง ไปเปิดในที่ไหนผู้ฟังก็สามารถเอาอารมณ์ของตนเองเข้าไปเจือปนในเพลงนั้น แล้วสะท้อนกลับมาถึงเรื่องราวของตนเอง ไม่ใช่แบบฉันรักเธอเธอรักฉัน เธอรักอีกคนหนึ่ง เสียใจเลิกจบ ไม่ใช่อย่างนั้น เป็นงานที่เปิดๆ ทุกคนเอาความรู้สึกตนเองไปผสมได้"

ตลาดกับอัลบั้มนี้ ไม่กลัวเหรอ

โดม "เราต้องมีจุดยืนแต่แรกแล้วว่าเราจะเป็นไปในทิศทางไหน ถ้าอยากจะขายได้หลายๆ แสนตลับในยุคนี้เนี่ยก็คงเป็นไปไม่ได้ในเพลงแบบนี้ ตรงนี้ก็ต้องดูว่าเราต้องการอะไร จุดมุ่งหวังของเราคืออะไร ตรงนี้ผมคิดว่าผมได้ทำเพลงซักชุดหนึ่งให้มันแบบสะใจ ให้เราคิดว่าอีก 5 ปี 10 ปี เรามองย้อนกลับมาว่าเราภูมิใจกับอัลบั้มชุดนี้ และจุดนั้นผมก็คงทำได้ในจุดตรงนั้นแล้ว ณ วันนี้นะครับ"

สุดท้ายให้ โดม ชมพู่ หญิง ฝากอะไรถึงแฟนเพลงหน่อย

โดม "ครับ หนึ่งก็ขอบคุณพี่ๆ สื่อมวลชนทุกแขนงเลย แล้วสองก็ต้องขอบคุณแฟนๆ อยากให้ลองเปิดใจ ลองฟังกันดู ผมคิดว่ามันไม่ยากเกินไป ถ้าเกิดบางคนเจอพารานอยด์เข้าไปงง ชุดนี้ยังไงเนี่ย ผมว่าลองฟังเพลงอื่นๆ ในอัลบั้มดูนะฮะ คงไม่ยากจนเกินไป และคิดว่าคงจะสนุกและก็เอนจอยกับมันได้"

ชมพู่ "อย่างที่บอกว่าอาจจะแปลกหน่อย แต่ก็อยากให้ลองฟัง อาจต้องคิดนิดนึง และก็ต้องฟังให้จบทั้งเพลง

หญิง " ��็อยากจะบอกว่าทุกเพลงมีความหมายของมัน ถ้าฟังแล้วจะรู้ว่าในซีดีมีอะไรมากกว่าที่คิดจริงๆ ฟังให้จบไปเลยนะคะ (หัวเราะ "

โดม " หัวเราะ) มีเพลงอยู่เพลงหนึ่งที่ซ่อนเอาไว้ ไม่มีชื่อเพลง ไม่มีนัมเบอร์แทร็ก แต่มีจริงๆ นะ 4 นาทีกว่า เพลงนั่นแหละเพลงรัก"

ไร้กรอบ สมชื่อวง Nologo จริงๆ แสดงความเป็นเจ้าของกันได้แล้ว ตั้งแต่ 10 พฤษภาคมนี้ ทุกแผงเทปทั่วประเทศ