เต๋อ เล่าช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตผ่าน Die Tomorrow
"เต๋อ - นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์" ผู้กำกับภาพยนตร์ดัง อาทิ "Mary Is Happy, Mary Is Happy." "ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย..ห้ามพัก..ห้ามรักหมอ" กลับมาพร้อมผลงานล่าสุด ซึ่งเป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 5 "พรุ่งนี้ตาย" หรือ "Die Tomorrow" โดย เต๋อ ลงมือเขียนบท กำกับ ตัดต่อ และดูแลกระบวนการผลิตภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยตัวเอง นักแสดงส่วนใหญ่ของเรื่องนี้เคยร่วมงานกับ เต๋อ มาแล้ว อาทิ "ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์" "เต้ย - จรินทร์พร จุนเกียรติ" "วี - วิโอเลต วอเทียร์" "จูน - พัชชา พูนพิริยะ" "ออกแบบ - ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง" "เมโกะ - ชนนิกานต์ เนตรจุ้ย" เข้าฉายในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2560
ผู้กำกับอธิบายเรื่องราวในภาพยนตร์ว่า "มันมีหลายๆ แนว เพราะว่าตัวหนังมันจะแบ่งเป็นหลายๆ ตอนเล็กๆ แบบประมาณ 6 ตอน 10 ตอน ซึ่งแต่ละตอนจะพูดถึงความตายในแง่มุมที่แตกต่างกัน แต่โดยรวมคือจะเล่าผ่านหนึ่งวันก่อนที่จะมีใครเกิดเหตุเสียชีวิตหรืออะไรอย่างนี้ แล้วมันก็จะมีทั้งพาร์ตที่เป็นนักแสดงที่เราเขียนบทให้เขาแสดง แล้วก็มีทั้งเป็นสารคดี มีฟุตเทจเก่าๆ บางอัน มีสถิติอะไรอย่างนี้ มันรวมๆ กันหลายๆ อย่าง เพื่อรับส่งกันครับ ก็จะเป็นการเล่าที่แปลกใหม่หน่อย แต่คิดว่าไม่ได้ดูยากเลย เพราะว่าทุกเรื่องน่าจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใกล้ตัวผู้คน"
เต๋อ แง้มแรงบันดาลใจในการทำภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "3-4 ปีที่ผ่านมาก็มีคนใกล้ๆ ตัวเราอยู่บ้างไม่อยู่บ้าง หรือบางทีก็เป็นเรื่องของคนอื่นๆ เอาง่ายๆ คือได้ไปงานศพบ่อยขึ้นโดยอัตโนมัติพอๆ กับงานแต่ง เราก็รู้สึกว่าเรื่องความตายใกล้ตัวขึ้นโดยที่เราไม่ต้องรอให้อายุ 50 หรือแก่เลย ก็เลยรู้สึกว่าเป็นท็อปปิกที่น่าสนใจ ก็สำรวจแง่มุมต่างๆ มันอาจจะไม่ใช่ความน่ากลัวหรือเปล่า มันอาจจะมีเรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ ซึ่งพอทำไปสักพัก ครึ่งปี ปีหนึ่ง เราก็พบว่าจริงๆ แล้วมันคือการเอ็กซ์พลอร์ชีวิต ไปๆ มาๆ ความตายคือการกำหนดความหมายของการมีชีวิตอีกทีหนึ่ง จริงๆ ชีวิตคุณทรัพยากรมีจำกัด คุณต้องไปบริหารชีวิตกันเองว่าคุณจะใช้ชีวิตยังไง"
ผู้กำกับมากความสามารถพูดถึงความคาดหวังของเรื่องนี้ว่ามีน้อยมาก "เรื่องนี้คือน้อยมากที่สุดเลยฮะ สมมติว่าถ้าผมย้อนไปทำ ฟรีแลนซ์ ผมก็รู้สึกว่าเป็นหนังที่เราทำฉายทั่วประเทศครั้งแรก เราก็รู้สึกว่าอย่างน้อยก็ไม่อยากให้เจ๊ง ไม่ต้องร้อยล้านก็ได้ แต่ก็ให้โอเคมีคนมาดูเยอะ ดูสนุก เอ็นจอยไปได้ มันก็มีโกลอยู่ หรือว่าสมมติย้อนไปทำหนังอินดี้เรื่องแรก เราก็อยากให้มันโอเคหน่อย เพราะว่ามันเป็นเรื่องแรกของเรา แต่พอมาเป็นเรื่องนี้มันเหมือนกับว่า อาจจะเป็นเพราะว่ามันเป็นเรื่องที่ 5 แล้ว และก็มันเหมือนกับเราไม่ได้มีเป้าหมายอะไรเป็นพิเศษฮะ เราไม่ได้มีความเสี่ยงทางการลงทุนอะไรอยู่ด้วย เราเลยรู้สึกว่า ถือว่าโชคดีมากๆ ที่ไม่ต้องมีอะไรต้องกังวล"
ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตในแง่มุมที่แตกต่างจากผลงานการกำกับของ เต๋อ จะเป็นอย่างไร ติดตามได้ใน Die Tomorrow ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 เป็นต้นไป ในโรงภาพยนตร์