รัดเกล้า สุดปลื้ม ร่วมพากย์เสียงใน The Jungle Book

นักร้องนักแสดงคุณภาพ "ต๊งเหน่ง - รัดเกล้า อามระดิษ" สุดปลื้มกับการให้เสียง รักชา ใน "The Jungle Book" ภาพยนตร์แอนิเมชันจากค่าย วอลท์ ดิสนีย์ โดยเจ้าตัวเผยความรู้สึกว่า "เมื่อทราบข่าวว่าทาง ดิสนีย์ ไทยแลนด์ อยากให้มาร่วมงานครั้งนี้ต้องบอกเลยว่าดีใจมากๆ ค่ะ เพราะตัวเราเองไม่ได้ร่วมงานกับทางดิสนีย์มาก็สักระยะหนึ่งแล้ว คิดถึงบรรยากาศในการทำงาน คิดถึงการพากย์การให้เสียง คิดถึงเวลาที่ตัวละคร และเสียงของเราโลดแล่นอยู่ในหนังของดิสนีย์ค่ะ เพราะฉะนั้นความตื่นเต้น ความดีใจ การนั่งนับรอวันว่าเมื่อไรจะถึงวันทำงานมันปริ่ม มันล้นออกมาเลยจริงๆ ค่ะ แล้วเมื่อถึงวันที่ได้เข้าไปพากย์ไปทำงาน บอกได้คำเดียวค่ะว่ามีความสุขมาก ผลงานที่ผ่านมาร่วม 20 ปี ที่เคยได้ร่วมงานกับทางดิสนีย์มาหลายๆ เรื่องเลยทีเดียว เช่น The Prince of Egypt, Mulan, Beauty and the Beast พี่เองบอกเลยว่าคือแฟนตัวจริงของดิสนีย์ และหนังแอนิเมชันของดิสนีย์เลยนะคะ ติดตามตั้งแต่เด็กจนโต"

นักแสดงมากฝีมือกล่าวถึงตัวละคร รักชา ว่า "ตัวรักชาที่พากย์ครั้งนี้คือหมาป่าค่ะ ที่ผิดแผกไปจากเผ่าพันธุ์ของหมาป่านิดหน่อยก็คือเขาเลี้ยงลูกมนุษย์ ด้วยความที่เธอคือสัตว์ป่าเพศแม่ เธอจึงมีความอ่อนโยน ที่ได้เลี้ยงเมาคลีไว้ตั้งแต่ต้น ด้วยความรัก ความเมตตามีสูงมาก ตัวรักชาเลี้ยงเมาคลีแบบลูก และเมื่อตัวเองมีลูกๆ ที่เป็นหมาป่า ก็สอนว่าเมาคลีคือพี่ พวกเธอคือน้อง สอนให้รักกันสามัคคีกัน พี่ว่ามันเป็นคุณธรรมขั้นสูงอีกขั้นหนึ่งที่ตัวรักชามี เมื่อวันที่เธอไปเจอทารกตัวเล็กๆ ผิวแดงระเรื่อ ด้วยสัญชาตญาณคือเธอเป็นสัตว์เดรัชฉาน เธอต้องกิน ต้องฆ่า แต่นี่เธอกลับนำมาเลี้ยงดูฟูมฟักด้วยความรัก จนกระทั่งเติบโต และสอนให้เรียนรู้และอยู่ได้ในป่ากว้างแห่งนี้"

รัดเกล่า เอ่ยถึงความน่าสนใจของ The Jungle Book ฉบับปี 2016 ว่า "The Jungle Book ที่เรารู้จักตั้งแต่เด็กๆ ด้วยการฟัง จำไม่ได้จริงๆ ว่าฟังจากไหน เมื่อไร จากคุณแม่ด้วยมั้งคะ คือรู้เรื่อง ผ่านตา ได้ดูตอนที่เป็นแอนิเมชันด้วยในตอนเด็กๆ จนมาวันนี้ก็ยิ่งทำให้เราอยากรู้อยากดูว่า เอ๊ะ ดิสนีย์จะนำเสนอในรูปแบบไหนในครั้งนี้ การที่เอาเด็กคนหนึ่งมาเล่น มาแสดงกับเหล่าสัตว์ร้ายนานาชนิดที่เต็มไปหมดในป่าผืนนี้มันน่าสนุกดีนะ ในใจที่เราคิดว่าเราอยากจะเห็นเหลือเกิน และยิ่งรู้ว่าครั้งนี้นักแสดงหนุ่มน้อยที่เล่นเป็นเมาคลี คือหนึ่งเดียวที่เป็นคน เป็นสิ่งมีชีวิตจริงๆ ที่ต้องเล่นกับคอมพิวเตอร์กราฟิก เล่นกับซีจีทั้งเรื่อง เมื่อเราได้เข้าห้องพากย์เสียงคือได้เห็นในบางฉากบางตอน คือว้าว นี่มันคือสิ่งที่เราเฝ้าตั้งตาคอยกันเลยทีเดียว"

ดาราสาวกล่าวชื่นชมถึงความน่าตื่นตาตื่นใจในรายละเอียดของภาพว่า "มันคือสิ่งที่อัศจรรย์มากๆ ทำให้เราประหลาดใจเลยจริงๆ งงมากเหมือนจริงมาก ความละเอียดความประณีต ขน เมื่อผิวหนังสัมผัสน้ำ แววตา การเยื้องย่าง ท่าทาง ทุกๆ อย่างมันคือสิ่งที่ดิสนีย์ใส่ใจในทุกๆ ขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น เสือ หมี สัตว์เลื้อยคลาน ฝูงวัวกระทิง นานาชนิด และที่สำคัญที่สุดอารมณ์ของสัตว์เล็กๆ แววตา การแสดงออกจะแตกต่างจากสัตว์ที่โตเต็มที่ สัตว์ที่มีความเมตตา การแสดงออกจะแตกต่างจากสัตว์ที่ดุดัน เกรี้ยวกราด ร้าย หรืออำมหิต รักชา หมาป่าที่เราได้พากย์เสียง ไม่ใช่แค่การใช้เสียงสำหรับเราแล้ว มันคือการเล่าผ่านเสียงที่บอกเข้าไปให้ถึงในห้วงลึกของคุณธรรม ความเมตตา ความผูกพัน ความเป็นแม่ ที่แม่มีต่อลูกค่ะ ตอนที่พากย์บางตอนเราเผลอลืมไปด้วยว่านี่กำลังให้เสียงหมาป่า แต่พากย์เหมือนตัวเองเป็นแม่ที่สอนลูก ดูแลลูก รักลูก อย่างนั้นเลย บางครั้งทรงพลัง บางครั้งดุดัน ปกป้อง"

นักแสดงมากประสบการณ์พูดถึงความเหมือน และความแตกต่างของ รักชา กับตัวเองว่า "รักชา กับ รัดเกล้า เหมือนกันไหม ที่ยังไม่มีเหมือนเธอคือยังไม่ได้มีโอกาสปกป้องเลี้ยงดูลูก ไม่มีประสบการณ์ตรงนั้น แต่ถ้าเมื่อไรเราได้เจอะเรื่องราวเหตุการณ์แบบนั้น ก็คงทำไม่แตกต่างจากเธอ คือต้องเอาชีวิตของเราเป็นเดิมพัน เพื่อรักษาชีวิตลูกของเราไว้ค่ะ คิดว่าแม่ทุกคนคงจะเป็นแบบนี้ แต่ความเข้มแข็งรัดเกล้าคงสู้รักชาไม่ได้อย่างแน่นอน การได้มาพากย์เสียงครั้งนี้ทำให้เราได้รู้ได้เห็นว่า บางครั้งสัตว์ที่เราเรียกเขาว่าสัตว์เดรัจฉาน เขายังมีคุณธรรมที่สูงส่ง มีเมตตา มีความรัก ความห่วงใยกว่าอะไรหรือใครในโลกนี้อีก มันคือบทเรียนที่สอน และที่ได้จากการมาร่วมงานในหนังของดิสนีย์ครั้งนี้ค่ะ"

ติดตามเรื่องราวความสนุกตื่นเต้นของ The Jungle Book พร้อมซาบซึ้งไปกับความรักของผู้เป็นแม่ ได้ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2559 นี้ ในโรงภาพยนตร์