ไอ้แมงมุม ทุบสถิติทั่วโลก เตรียมแผนสร้างภาคต่อทันที
นิตยสาร วาไรตี้ นิตยสารเกี่ยวกับธุรกิจรายงานว่า Spider-Man หนังสร้างจากการ์ตูนของ มาร์เวล คอมมิกส์ ทำรายได้จากการเข้าฉายสัปดาห์แรก ถล่มสถิติเดิมทั้งใน อเมริกา เอเชีย ตะวันออกกลาง และ ยุโรปตะวันออก และทาง มาร์เวล เอ็นเตอร์ไพรส์ ผู้สร้างการ์ตูนฮีโร่ตัวนี้ และ โซนี่ คอร์ป บริษัทแม่ของ โคลัมเบีย พิคเจอร์ ผู้สร้าง Spider-Man ปี 2002 ประกาศสร้างภาคต่อของมนุษย์แมงมุมทันที พร้อมหนังของการ์ตูนฮีโรอีกหลายเรื่องเตรียมพาเหรดเข้าโรง
Spider-Man เปิดฉายอย่างเป็นทางการในเขตอเมริกาเหนือ (สหรัฐและแคนาดา) เมื่อวันศุกร์ที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่บางส่วนรวมทั้งประเทศไทย หนังเข้าฉายตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม รายได้รวมของการฉายสามวันแรกในอเมริกาทำลายสถิติเดิมหลายรายการ ด้วยยอด 114 ล้านเหรียญสหรัฐ แย่งตำแหน่งแชมป์ทำเงินสูงสุดในการเปิดฉายมาจาก The Lost World 92.2 ล้านเหรียญและ Harry Potter and the Sorcerer's Stone ที่ทำไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วด้วยยอด 90.3 ล้านเหรียญ
นอกจากจะเป็นแชมป์หนังทำเงินสูงสุด 3 วันแรกที่เข้าฉายแล้ว ไอ้แมงมุม โดยผู้กำกับ แซม ไรมี่ ซึ่งมีรายงานว่าใช้ทุนสร้างตกราวๆ 120-130 ล้านเหรียญ ยังเป็นแชมป์ทำเงินรายวันสูงสุดอีกด้วย โดย Spider-Man ทำเงินในวันเสาร์ที่ 4 พ.ค. วันเดียวได้ 43.7 ล้านเหรียญ แซงแชมป์เก่าอย่าง Harry Potter and the Sorcerer's Stone ที่ทำได้ 33.5 ล้านเหรียญ และหนังการ์ตูนฮีโร่เรื่องนี้สามารถทำเงินเกินหลัก 100 ล้านเหรียญภายในเวลาเพียง 3 วัน ขณะที่หนังพ่อมดน้อยแฮรี่ต้องใช้เวลาถึง 5 วัน
รายได้เฉลี่ยต่อโรง 31,535 เหรียญสหรัฐ นับเป็นสถิติที่สูงสุดสำหรับหนังที่เปิดฉายไม่ต่ำกว่า 3,000 โรงทั่วอเมริกา (Spider-Man ฉาย 3,615 โรง)
เจ้าแมงมุมยังชักใยมหัศจรรย์ไปทั่วโลก กับรายได้รวม 10.6 ล้านเหรียญสหรัฐในการฉาย 17 ประเทศ นับถึงวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา และยังทำลายสถิติในหลายประเทศ
ในสิงคโปร์กวาดไป 1.36 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ไทเปเมืองหลวงของไต้หวันหนังทำรายได้ 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐ และในมาเลเซีย 1.02 ล้านเหรียญสหรัฐเท่ากับในฟิลิปปินส์ และฮ่องกงได้ 1.12 ล้านเหรียญ
ส่วนประเทศไทยนั้น เก็บไป 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 51.9 ล้านบาท หลังจากเข้าฉายไปแล้ว 5 วัน จำนวน 166 โรง นับเป็นรายได้สูงสุดสำหรับหนังอเมริกันที่เข้าฉายในไทย และรายได้เป็นรองแค่ สุริโยไท ภาพยนตร์แห่งสยามประเทศเจ้าเดียว ตามรายงานของนิตยสารวาไรตี้เมื่อ 7 พ.ค. ในประเทศไทย หนังการ์ตูนฮีโร่ทำเงินได้มากพอสมควร ปี 2000 X-Men หนังสร้างจากการ์ตูนของมาร์เวล คอมมิกส์เช่นกัน ทำรายได้ไป 70.6 ล้านบาท
ในแถบเอเชีย Spider-Man ยังกวาดรายได้ถล่มทลายจากเกาหลี 2.67 ล้านเหรียญ ทำเงินสูงสุดตลอดกาลสำหรับรายได้สามวันแรกเป็นอันดับ 2 รองแค่ Harry Potter
สำหรับในญี่ปุ่น ตลาดผู้ชมที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากอเมริกาเหนือ กวาดไป 2.7 ล้านเหรียญจากการเข้าฉายรอบอุ่นเครื่องในจำนวนโรงจำกัด 420 โรง ช่วงวันหยุดยาวของชาวอาทิตย์อุทัย ก่อนจะเข้าฉายรอบปกติทั่วประเทศในวันเสาร์ที่ 11 พ.ค.นี้
สถิติทั้งหมดนี้อาจจะเป็นเพียงชั่วคราว เพราะในซัมเมอร์อเมริกานับจากเดือนหน้าเป็นต้นไป มีหนังฟอร์มยักษ์บิ๊กบึ้มจ่อคิวฉายอย่าง Star Wars Episode II, Austin Powers 3 : The Goldmember และ Men In Black 2 อย่างไรก็ตาม ในบรรดาหนังสร้างจากการ์ตูนดังที่ประสบความสำเร็จมาก่อนหน้านี้ได้แก่ Blade II เปิดฉายในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาทำรายได้ 32.5 ล้านเหรียญ ขณะที่ X-Men เปิดตัวในปี 2000 เก็บได้ 54.5 ล้านเหรียญ และ Batman ของค่าย ดีซี คอมมิกส์ คู่แข่งของ มาร์เวล ผู้จุดประกายการจับการ์ตูนฮีโร่ขึ้นจอเงิน เปิดตัวได้ 43 ล้านเหรียญในปี 1989
โซนี่ คอร์ป บริษัทแม่ของ โคลัมเบียร์ พิคเจอร์ ผู้สร้างหนังเรื่องนี้ได้ออกมาแถลงเมื่อวันจันทร์ที่ 6 พ.ค.ว่า จะมีการสร้าง Spider-Man ภาค 2 ออกมาอย่างแน่นอน พร้อมกับแจ้งกำหนดวันฉาย วันที่ 7 พ.ค. 2004 โดยวางตัว โทบี้ แม็คไกวร์ และ เคียร์สเทน ดันสท์ มารับบท ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ มนุษย์แมงมุม และ แมรี่ เจน วัตสัน เช่นเดิม
ทางฝ่ายมาร์เวลส์ เอนเตอร์ไพรส์ เจ้าของ มาร์เวล สตูดิโอ และลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนของ มาร์เวล คอมมิกส์ ประกาศเซ็นสัญญาสร้างหนังกับทาง โซนี่ คอร์ป ทั้ง X-Men ภาค 2 ซึ่งกำหนดการเริ่มถ่ายทำในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ และจะเข้าฉายในเดือนพฤษภาคมปี 2003 ตามด้วย The Hulk ซึ่งได้ อัง ลี มากำกับเตรียมเข้าฉายในปี 2003 เช่นกัน ซึ่งรายหลังได้ออกมาชิมลางในอเมริกาเป็นหนังตัวอย่างในโรงฉาย Spider-Man เรียกน้ำย่อยไปก่อนแล้ว
นอกจากนั้นยังมี Daredevil จะฉายเดือนมกราคม 2003 เบน เอฟเฟล็ค สวมบทฮีโร่ ตามด้วย Blade 3 ที่ นิวไลน์ซีนีม่า เตรียมพร้อมลุยต่อจากสองภาคแรกอย่างต่อเนื่องทันที และกลายเป็นตัวเบิกร่องของการทำหนังภาคต่อจากงานการ์ตูนของ มาร์เวล คอมมิกส์ ซึ่งจะต้องมีตามมาอีกหลายเรื่อง ลำพังแค่ปี 2003 ปีเดียวก็มีถึงสี่เรื่องแล้ว
งานที่เตรียมขึ้นจอเงินจากการ์ตูนของมาร์เวล คอมมิกส์
- Daredevil ผู้สร้าง นิว รีเจนซี่ นำแสดง เบน เอฟเฟล็ค, เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ กำหนดฉาย มกราคม 2003 ผู้จัดจำหน่าย ฟ็อกซ์ กำกับ มาร์ค สตีเวน สัน
- X2 (X-Men ภาค 2) ผู้สร้าง ฟ็อกซ์ นำแสดง แพทริก สจ๊วร์ต, ฮัล แบร์รี่ กำหนดฉาย พฤษภาคม 2003 กำกับ ไบรอัน ซิงเกอร์
- The Hulk ผู้สร้าง ยูนิเวอร์แซล นำแสดง เอริก บานา, เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี่ กำหนดฉาย มิถุนายน 2003 กำกับ อัง ลี
- Punisher ผู้สร้าง อาร์ติซาน กำหนดฉาย สิงหาคม 2003 กำกับ โจนาธาน เฮนสลีห์
เรื่องที่ยังอยู่ในระหว่างการร่างบท
- Sub-Mariner นายทุน ยูนิเวอร์แซล
- Ghost Rider นายทุน โซนี่
- Fantastic Four นายทุน ฟ็อกซ์
- Dr. Strange นายทุน ไดเมนชั่น ฟิล์มส์
- Iron Man นายทุน นิวไลน์
- Prime นายทุน ยูนิเวอร์แซล
- Punisher และ Iron Fist นายทุน อาร์ติซาน
งานนี้มาร์เวลรับทรัพย์อย่างเดียว เพราะไม่เพียงจะได้ส่วนแบ่งจากรายได้ในโรงแล้ว ยังมีรายได้จากเวอร์ชั่นดีวีดี ค่าลิขสิทธิ์ตามสายเคเบิ้ลทีวีทั่วโลก และค่าลิขสิทธิ์ที่บริษัทผลิตของเล่นนำตัวการ์ตูนเหล่านี้ออกฉายอีกด้วย