1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

โอริเวอร์ จูงมือ ยี่หวา ร่วมลงทุนเป็นหุ้นส่วนชีวิตคู่

โอริเวอร์ จูงมือ ยี่หวา ร่วมลงทุนเป็นหุ้นส่วนชีวิตคู่

ร่วมลงทุนเป็นหุ้นส่วนชีวิตด้วยกันอีกคู่สำหรับนักแสดงหนุ่มรุ่นใหญ่ "โอริเวอร์ เพ็งทรัพย์" หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า "โอริเวอร์ บีเวอร์" เปิดตัวว่าที่ภรรยาสาวอดีตนางแบบ "ยี่หวา - สุธาสินี ทองสาริกา" จูงมือมาประกาศตัวเป็นครอบครัวใหม่ของวงการบันเทิงไทย ในวันที่ 3 มีนาคม 2557 ณ สโมสรทหารบก วิภาวดี เริ่มต้นในช่วงกลางวันด้วยพิธีไทย โดยถือเวลาดี 13.09 น. เป็นฤกษ์หมั้นและหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ ตามด้วยการสวมแหวนและจดทะเบียนสมรสในเวลา 13.49 น. บรรยากาศภายในงานเน้นเรียบง่ายและเป็นกันเองในระหว่างการดำเนินพิธีก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม ซึ่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวเปิดใจถึงช่วงเวลาแห่งความสุขที่เกิดขึ้น

พบกันครั้งแรกที่ไหน

โอริเวอร์ "เจอกันที่สนามไดร์ฟกอล์ฟ ผมอ่ะไปไดร์ฟ เขาอ่ะไปไดร์ฟ เพื่อนเขารู้จักกับผมเราซ้อมไดร์ฟเลนติดกัน ก็นั่นแหละจุดประกายหลังจากนั้นก็ชวนเขามาไดร์ฟ หาเรื่องไดร์ฟไปเรื่อย คุยไปคุยมา"

ยี่หวา "ตามสไตล์ผู้ชายจีบไว้ก่อนได้ไม่ได้อีกเรื่องหนึ่ง แล้วมาหลงเสน่ห์หนูไง"

เจ้าบ่าวเป็นคนอย่างไร

ยี่หวา "น่ารัก ร่าเริง อารมณ์ดี แล้วก็เป็นคนใจดี เรียกว่าเป็นคนดี ใจกว้าง จนบางครั้งหวาก็พยายามเบรกกับเรื่องบางเรื่อง เรื่องบางเรื่องใจดีไปไม่ได้ค่ะ แล้วก็ถือว่าเราเป็นคู่ชีวิตเขา เราก็ต้องพยายามเบรกเขาว่าลองเปลี่ยนเป็นวิธีคิดแบบนี้สิ ลองดูวิธีนี้สิ เพราะว่าเรามองโลกแง่ดีเกินไปไม่ได้"

เคล็ดลับมัดใจฝ่ายชาย

ยี่หวา "นึกไม่ออกอ่ะ ก็ทำทุกอย่างที่เราอยากทำให้คนรัก ก็ทำหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นเอาทิชชูเช็ดปากหรือว่าเตรียมกับข้าวให้กินหรืออะไรก็ทำหมด หรือว่าล่าสุดนี้ก็ตัดผมให้ เขาก็ยอม"

โอริเวอร์ "คือผมอายุขนาดนี้แล้ว ผมยังไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนรักผมเท่าขนาดนี้ เขารักผมมากกว่าผมรักตัวเองด้วยซ้ำนะผู้หญิงคนนี้ แล้วก็คำหนึ่งที่เขาชอบพูด พูดอีกทีสิว่าทุกครั้งที่มีผมอยู่ด้วย"

ยี่หวา "รู้สึกปลอดภัย ทั้งปัจจัยภายนอกหรือว่าภายในก็ตามค่ะ ก็หวาว่าทุกอย่างหวามั่นใจในตัวผู้ชายคนนี้"

โอริเวอร์ "ก็ไม่กลัว ไม่กลัวอะไรเลยเขาชอบพูดแบบนี้ เขาไม่เคยกลัวอะไรเลยถ้าอยู่กับผม"

รู้สึกอย่างไรบ้างกับงานวันนี้

โอริเวอร์ "ดีนะที่เราไม่จัดเช้า (หัวเราะ) โคตรเมื่อยอ่ะ ไม่นึกว่าพิธีการจะเยอะขนาดนี้ เราก็ไม่รู้นะ เราเคยถ่ายละคร จะสังเกตในพิธีก็จะมีติดตลกนิดหน่อย ก็กันเองครับ ส่วนมากเป็นญาติพี่น้องที่กันเอง ญาติกันหมดจะมานั่งเก๊กกันทำไม ผมก็อยากให้สบายๆ ก็มีลูกติดตลก"

ยี่หวา "แต่นี่ก็สบายๆ ตื่นสายๆ ได้กินข้าวเช้า ไม่ต้องรีบแต่งหน้า เล่นตลอดเลย ไม่ เพราะหนูกลัวว่าหนูจะเก็บอาการไม่ได้ก็จะหัวเราะ พอหัวเราะเดี๋ยวไม่สวย"

โอริเวอร์ "จริงๆ ผมไม่เคยคิดแต่งงาน เดิมทีตั้งแต่เด็กๆ เลยจนโตมาจนทำงาน จนเล่นละคร คือคิดเสมอผมไม่อยากมีครอบครัว ผมไม่ชอบ ผมอยากอยู่คนเดียว ผมอยากอยู่กับแม่ผม ทำงานเล่นละครไป ไม่ต้องไปอะไร แต่ก็วันหนึ่งผมก็มาเจอเขานี่แหละ ก็เปลี่ยนความคิดผมได้นะครับ คือผมก็มีแฟนของผมมาเรื่อยแหละ ปกติผู้ชายคนหนึ่งอายุขนาดนี้"

ทำไมถึงตัดสินใจแต่งงาน

โอริเวอร์ "เขาก็เปลี่ยนความคิดผมได้ว่าคือเราคบกันได้ 5 ปี แล้วก็ประมาณ 3 ปีเขาก็เริ่มพูดเรื่องแต่งงาน ซึ่งผมยังเฉยๆ แล้วก็แรกๆ มันเป็นสตอรีเลยนะ โคตรเหมือนละครเลยนะ คือแม่ผมกับเขาไม่ถูกกัน โอ้โห สตอรีนี้เหมือนอย่างกับตัวเองเล่นละครเลย มีทั้งดรามาแล้วก็ดรามา แล้วผมก็เลยตั้งเป้าไว้ว่าถ้าสมมติว่าเขาเข้ากับแม่ผมไม่ได้ มันก็ไม่ได้ เพราะผมนับถือแม่เป็นหลัก มาอยู่วันหนึ่งซึ่งผมไม่ได้บังคับด้วยนะ แล้วแต่ชะตาฟ้าลิขิตแล้วกัน วันหนึ่งเขากับแม่ก็เข้ากันได้ดี คือด้วยความพยายามของเขา"

ใช้เวลานานไหมว่าจะพิชิตใจคุณแม่ได้

ยี่หวา "ประมาณ 2 ปีได้ไหมคะ ประมาณ 2 ปี คือหนูก็พยายามแสดงตัวตนของตัวเองว่าหนูเป็นคนพูดเอาใจคนไม่เป็น เป็นคนประจบประแจงไม่เป็นนะ เราพยายามอธิบายตัวตนที่เราเป็นว่าเราเป็นคนห่ามๆ อาจจะเป็นคนแบบนี้ ก็พยายามคิดว่าทุกอย่างต้องใช้เวลา"

ช่วงเวลาที่กำลังถูกขอแต่งงานว่าเป็นอย่างไร

ยี่หวา "ก็ไม่ได้ขอยังไง คือตอนแรกตลอดเวลาเป็นการพูดคุยของเราเรื่อยๆ มากกว่าว่า เออ พร้อมแล้วนะ"

โอริเวอร์ "มันเป็นการพูดคุยแล้วก็หาเดือนหาปีที่เหมาะสม เดิมทีจะแต่งเมื่อประมาณเกือบ 2 ปีที่แล้ว แล้วผมเป็นคนขอเลื่อนมา พอดีตอนนั้นผมยังไม่ได้มีอะไรทำอะไรมาก แต่คราวนี้ธุรกิจหลายอย่างผมเริ่มลงตัว เริ่มต่อยอดทางธุรกิจ เริ่มเห็นความมั่นคงก็เลยตัดสินใจว่า เออ จะเป็นปีนี้"

ประทับใจช่วงไหนที่สุดในพิธีหมั้น

โอริเวอร์ "ผมว่าพรที่เราได้จากผู้ใหญ่นะ ทั้งญาติทั้งผู้ใหญ่ทั้งคนที่เป็นผู้ใหญ่ ผมมีความรู้สึกว่ามันก็เป็นพิธีไทยที่สืบกันมานานแสนนาน แล้วเดิมทีผมเองก็ไม่ได้ให้ความสำคัญนะ แต่พอเราอยู่ในพิธีแล้วเรารู้สึกได้เลยนะว่า อย่างที่ผู้ใหญ่ชอบว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นในอนาคตให้นึกถึงวันๆ นี้เอาไว้ เออ ผมมานั่งคิดตอนรดน้ำสังข์ ก็จริงอย่างที่เขาพูดนะใช่ไหมครับ ผมว่ามันเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์แล้วเป็นพิธีที่มีเกียรติด้วยพิธีหนึ่งเลยของคนไทยเลยนะครับ"

ยี่หวา "ดีใจนะคะที่ได้เห็นคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงอยู่รวมกันก็มีความสุข มีความสุขมากค่ะ"

ใช้เลข 9 ลงท้ายในทุกๆ รายละเอียดของงาน

โอริเวอร์ "ผมเป็นคนดวงกับเลข 9 อ่ะ อะไรแล้วแต่ 2 ตัวหรือ 3 ตัว หาร 9 ลงตัวหรือว่ารวมกันแล้วได้ 9 มักจะเป็นอย่างนี้โดยตลอด ชื่อบริษัทก็เป็นเลข 9 ฤกษ์แล้วก็สินสอดก็เน้นเลข 9 หมดเหมือนกัน"

ใช้แหวนเกลี้ยงฝังเพชรแทนแหวนเพชรวงโต

ยี่หวา "จริงๆ แล้วฝรั่งจะนิยมใช้แหวนเกลี้ยงใช่ไหมคะ แต่หวาพยายามบอก ผู้หญิงก็ต้องมีเพชรบ้าง ก็เลยคนละครึ่งทาง ก็ขอเกลี้ยงแต่ขอเพชรนิดนึง"

โอริเวอร์ "คือแหวนเพชรเนี่ยผมบอกกับเขา บอกว่าผมอยากได้แหวนสองวงที่เหมือนกัน ส่วนแหวนเพชร เดี๋ยวผมซื้อให้หลังจากแต่งงานอีกที แต่วันเนี่ยผมก็อยากใส่เหมือนกัน ผมเห็นฝรั่ง หรือแม่ผมกับพ่อผมก็จะเหมือนกัน แล้วข้างในก็จะสลัก ของเขาจะเป็นชื่อผม ของผมจะเป็นชื่อเขา แล้วก็มีวันที่แต่งงาน เดี๋ยวแหวนเพชรเนี่ยซื้อให้อีก ตอนนี้บอกเขารอให้ละครปิดกล้องก่อนเพราะเอาเงินไปลงละครเยอะ แต่ก็มีชุดเพชรให้ เครื่องเพชร มีทอง 60 บาทแล้วก็มีเงินสด รวมถึงเช็คที่สั่งจ่ายชื่อเขาโดยตรงเลย"

จะไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่ไหน

โอริเวอร์ "น่าจะเป็นช่วงสงกรานต์ครับ น่าจะไปยุโรป"

วางแผนมีลูกเลยไหม

โอริเวอร์ "ยังๆ ทำงานก่อนละครเพิ่งเปิดกล้อง ยังไม่ได้ครับ เพราะว่าละครเพิ่งเปิดกล้องแล้วเป็นละครเรื่องแรกของค่ายด้วย มันค่อนข้างที่จะทุ่มเท ถ้ามีอะไรตอนนี้มันจะลำบาก บริษัท 9 บีเวอร์ ฟิล์มส์ ละคร เนตรนาคราช เป็นละครบู๊ ช่อง 7 ผมจะลำบากถ้าสมมติเขาตั้งครรภ์ขึ้นมา เพราะว่าเขาถือการเงิน เขาเป็นกำลังสำคัญในเรื่องระบบการเงิน เงินทองไม่รั่วไหล"

ยี่หวา "ก็คงต้องต้องหลังช่วงปีนี้ค่ะ เพราะว่าปีนี้ก็เพิ่งเริ่มทำละครก็ต้องใช้เวลานิดนึงกับทางบริษัทละคร"

ปลูกเรือนหอไว้ที่ไหน

โอริเวอร์ "เดี๋ยวอีกหลังหนึ่งครับ กำลังจะซื้อครับ ผมคงดูแถวลาดพร้าวครับ ก็มองไว้ประมาณ 400 กว่าไร่ แต่ว่าคงไม่มีปัญญานะ เอาแค่นี้นะครับ 80 วา (ตารางวา)"

มีคำมั่นสัญญาอะไรมอบให้กันหรือเปล่า

โอริเวอร์ "สำหรับผมกับเขา ผมจะไม่ตั้งใจทำวันพรุ่งนี้ที่อุปโลกน์ขึ้นเอง แต่ผมจะทำวันนี้ให้ดีเท่ากับเมื่อวาน แล้วก็จะทำพรุ่งนี้ให้ดีเหมือนกับวันนี้ แต่ผมจะไม่อุปโลกน์ หรือจะไม่สร้างความหวัง หรือจะไม่พูดอะไรที่เกินความเป็นจริง เราไม่ใช่เทพ เรารู้ได้ไงว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น แต่ผมรู้ว่าวินาทีนี้ผมรักเขาเหมือนกับวินาทีและชั่วโมงนี้ของเมื่อวาน ถ้าผมทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากวันก็เป็นปีได้เอง จากปีมันก็เป็นหลายปี โห โคตรซึ้งอ่ะ (หัวเราะ)"

ยี่หวา "ชอบ (หัวเราะ) ชอบฟัง เพราะว่าปกติพี่โอ้ไม่ค่อยพูด ก็จะมีอีกคำหนึ่งที่พี่โอ้พูดตลอดก็คือว่าเขาจะทำให้หวาหัวเราะได้ทุกวัน"

โอริเวอร์ "ขนาดเช้างอนกัน เย็นผมก็ทำให้เขาหัวเราะได้นะ"

ด้วยอายุห่างกัน นิสัยของทั้งคู่เหมือนกันไหม

โอริเวอร์ "เราเป็นคนขี้เล่นเหมือนกันนะครับแล้วผมเป็นคนขี้เล่นอยู่แล้ว หวาเป็นผู้หญิงที่ลุยผมก็เป็นคนลุย ผมเหมือนกับเป็นคนง่าย กินง่ายอยู่ง่าย ไปง่ายตัดสินใจทำอะไรง่าย ไม่เรื่องมากไม่เยอะอย่าง หวาเป็นผู้หญิงที่ไม่เยอะ หวาเป็นคนที่ดูแลตัวเองได้ประมาณหนึ่ง ซึ่งจะต่างจากผู้หญิงหลายๆ คน ที่แค่นี้ทำเองไม่ได้ เขารับผิดชอบตัวเขาเองได้สูงมาก คล้ายๆ ผมกินอะไรข้างทางเขาก็กินได้ เขาไม่เคยเรียกร้องที่ต้องซื้อกระเป๋าใบละ 5-6 หมื่น เขาซื้อของหน้ารามฯ ก็ได้ ซื้อของแพงก็ได้ ลุกส์เขาคือคุณหนูแต่ความเป็นจริงแล้วเขาเป็นคนรู้จักการใช้เงินมาก ซึ่งผมเชื่อว่าเขาได้จากทางคุณพ่อคุณแม่ที่สอนเขามานะครับ ได้ความขยันขันแข็งไม่เกี่ยงงานได้มาจากแม่นะครับ อดออมได้จากทั้งคุณพ่อคุณแม่อันนี้เท่าที่ผมเห็น เป็นคนโอบอ้อมอารีนะครับ แล้วก็เป็นคนที่รักษาผลประโยชน์ให้ผมได้อย่างสูงสุด แม้กระทั่งเป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว"

เมื่อเจอปัญหามีหลักในการแก้ไขปัญหาชีวิตคู่กันอย่างไร

โอริเวอร์ "อย่างที่ผมบอกเมื่อกี้ ผมพยายามทำวันนี้ให้ดีเท่าเมื่อวาน แล้วก็เตรียมทำพรุ่งนี้ให้ดีเหมือนวันนี้ ผมไม่มองข้ามไปไกลๆ ว่าฉันจะต้องรักเธอจนตาย ในอนาคตฉันจะไม่มีใคร เราไม่ใช่เทพหยั่งรู้ฟ้าดินไม่ได้ รู้อย่างเดียวว่าวินาทีข้างหน้าที่กำลังจะเกิดคือทำให้เหมือนเมื่อวานหรือทำเหมือนกับวินาทีที่ผ่านๆ มา คนเราถ้าเราทำอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า องค์ประกอบอื่นๆ จะตามมา ผมเป็นคนแบบนี้"

ยี่หวา "ของหวาก็พยายามเติมเต็มในส่วนที่พี่เวอร์เขาขาด เช่นสมมติเขาทำงานหนัก เขาอาจจะกินแต่พวกข้าวกองหรือว่ากินราดหน้า อาหารตามสั่งอะไรง่ายๆ ถ้าทำงานหนักก็ต้องกินของอร่อยสิ ก็พยายามหาของอร่อยให้เขากิน พยายามทำแบบนี้ทุกๆ วัน ทำบ่อยๆ มาเติมเต็มส่วนที่เขาหายไป เพราะว่าคนทำงานหนัก ต้องนอนห้องนอนสบายๆ อยู่บ้านเข้ามาต้องนั่งโซฟาสบาย ดูทีวีอยู่บ้านมีความสุข เพราะทำงานมาเหนื่อยแล้วถูกไหมคะ ก็พยายามดูแลเขาส่วนที่เขาไม่ได้ดูแลตัวเอง"

สำหรับสินสอดที่ฝั่งเจ้าบ่าวรับขวัญเจ้าสาว มีเงินสด 9 แสน เช็คเงินสดมูลค่า 999,999 บาท ทองคำน้ำหนัก 60 บาท และเครื่องเพชร 1 ชุด แหวน 1 วง และก็แถมหุ้นส่วนบริษัทของเจ้าบ่าวให้อีกด้วย ส่วนงานพิธีฉลองมงคลสมรสในเวลา 18.00 น. จัดขึ้น ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ ซึ่งเหล่าคนบันเทิงมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง อาทิ "แคท - แคทรียา อิงลิช" "ไผ่ - พาทิศ พิสิฐกุล" "อาร์ต - พศุตม์ บานแย้ม" "นก - อุษณีย์ วัฒฐานะ" "มิค - บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ" "แพนเค้ก - เขมนิจ จามิกรณ์" ที่ควงคู่มากับแฟนหนุ่ม "หมี - พ.ต.ต.ศักดิ์สุนทร เปรมานนท์"

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15
  • รูปภาพ 16
  • รูปภาพ 17
  • รูปภาพ 18
  • รูปภาพ 19
  • รูปภาพ 20
  • รูปภาพ 21
  • รูปภาพ 22
  • รูปภาพ 23
  • รูปภาพ 24
  • รูปภาพ 25
  • รูปภาพ 26
  • รูปภาพ 27
  • รูปภาพ 28
  • รูปภาพ 29
  • รูปภาพ 30
  • รูปภาพ 31
  • รูปภาพ 32
  • รูปภาพ 33
  • รูปภาพ 34
  • รูปภาพ 35
  • รูปภาพ 36
  • รูปภาพ 37
  • รูปภาพ 38
  • รูปภาพ 39
  • รูปภาพ 40
  • รูปภาพ 41
  • รูปภาพ 42
  • รูปภาพ 43
  • รูปภาพ 44
  • รูปภาพ 45
  • รูปภาพ 46
  • รูปภาพ 47
  • รูปภาพ 48
  • รูปภาพ 49
  • รูปภาพ 50
  • รูปภาพ 51
  • รูปภาพ 52
  • รูปภาพ 53
  • รูปภาพ 54
  • รูปภาพ 55
  • รูปภาพ 56
  • รูปภาพ 57
  • รูปภาพ 58
  • รูปภาพ 59
  • รูปภาพ 60
  • รูปภาพ 61
  • รูปภาพ 62
  • รูปภาพ 63
  • รูปภาพ 64
  • รูปภาพ 65

ความคิดเห็น

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Badlapur - เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ใช่แนวตลกเรื่องแรกที่ วรุณ ธาวาน ผู้รับบท รักฮาฟ แสดง อ่านต่อ»
  • Chappie - ชาร์ลโต คอปลีย์ ผู้รับบท แชปปี้ กับผู้กำกับ นีลล์ บลอมแคมป์ เรียนโรงเรียนเดียวกันสมัยมัธยมศึกษา ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน ชาร์ลโต จึงร่วมแสดงในภาพยนตร์ทุกเรื่องที่ นีลล์ กำกับก่อนหน้านี้ ได้แก่ District 9 (2009) และ Elysium (2013) อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

เรื่องราวชีวประวัติของ เฮเลน เรดดี (ทิลดา คอปแฮม-ฮาร์วีย์) นักร้องนักแต่งเพลงหญิงที่ขับเคลื่อนพลังสตรีนิยมในช่วง 1970 อ...อ่านต่อ»