ฝึกรบฝึกรักไปกับปฏิบัติการสุดฮาเฮใน กองพันครึกครื้นฯ

"โน้ต เชิญยิ้ม" หรือ "บำเรอ ผ่องอินทรีย์" เริ่มผลงานในวงการภาพยนตร์ด้วยการเป็นนักแสดง ก่อนจะผันตัวเองมาเป็นผู้กำกับ ตามมาด้วยการเป็นโปรดิวเซอร์ ล่าสุดก็ได้ขยับขยายเปิดค่ายภาพยนตร์ใหม่ภายใต้ชื่อบริษัท ยิ้มแย้มฟิล์ม แอนด์ โปรดักชั่น จำกัด ซึ่งอยู่ในเครือของ พระนครฟิลม์ ที่ขอเปิดประเดิมด้วยภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับการเกณฑ์ทหาร หน้าที่ของลูกผู้ชายไทยที่ต้องปฏิบัติใน "กองพันครึกครื้น ท.ทหารคึกคัก" แถมยังลงมาแสดงและกำกับเอง โดยมีทายาทที่ควบหน้าที่ผู้ช่วยอย่าง "โน้ต จูเนียร์" หรือ "จิตต์สิน ผ่องอินทรีย์" ทำทั้งเบื้องหลังและสอนการแสดงให้นักแสดงหน้าใหม่ ซึ่งเปิดตัวไปแล้วเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ณ เอสเอฟเอ็กซ์ ซีเนม่า เซ็นทรัล ลาดพร้าว

งานนี้มีนักแสดงทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่าตบเท้ามาร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียง อาทิ "ไอซ์ - วราภัทร์ เพชรสถิตย์" "แพรว - พิชญาภร สุวรรณวุฒิพิจัย" "แอร์ - ภัคภร พุทธวิบูลย์" "ไอซ์ - จีรนันท์ ปรีดากุล" "แหม่ม - วิชุดา พินดัม" รวมถึง 3 หนุ่ม "บุดดาเบลส" ได้แก่ "อุ๋ย - นที เอกวิจิตร" "เอ็ม - กิตติพงษ์ คำสาตร์" และ "โต้ง - สุรนันต์ ชุ่มธาราธร"

นอกจากนั้นก็ยังมีคนกันเองมาร่วมเล่นด้วย อย่างคนในครอบครัว เริ่มจากน้องชาย "จ๊อด เชิญยิ้ม" หรือ "สุราช ผ่องอินทรีย์" และลูกๆ "แบงค์ - ยติวัฒน์ ผ่องอินทรีย์" "แตงกวา - ศรัณย์กร ผ่องอินทรีย์" รวมถึงเพื่อนพ้องในวงการตลก ไม่ว่าจะเป็น "เจี๊ยบ เชิญยิ้ม" "ค่อม ชวนชื่น" และ "ปลาคาร์ฟ เชิญยิ้ม"

เริ่มเปิดความคึกคักด้วยเพลง "เบื่อก็ทนเอา" จาก บุดดาเบลส ก่อนที่จะไปเริ่มพูดคุยกับผู้กำกับและนักแสดง โดย โน้ต แย้มที่มาของการเปิดบริษัทก่อนว่า "ต้องขอบพระคุณทางพระนครฟิลม์ เฮียจุ้ย (ธนพล ธนารุ่งโรจน์) และ เฮียซ้ง (วิชัย ธนารุ่งโรจน์) คุณแหลม - ธวัชชัย พันธุ์ภักดี ด้วยที่เปิดโอกาสให้ผม บอกว่าผมทำงานรับใช้พระนครฟิลม์มา เราทำงานร่วมกันมาร่วม 10 ปีแล้ว ก็บอกว่าก็น่าจะโตได้แล้ว ก็น่าจะเปิดเป็น ยิ้มแย้มฟิล์ม เป็นบริษัทขึ้นมา แต่ก็ยังเป็นบริษัทลูก ยังอาศัยทุนของพระนครฟิลม์ ประเดิมด้วยภาพยนตร์ทหารสักเรื่องไหม เราก็เอาพลอตไปให้กับบิ๊กบอสทางเฮียจุ้ย น้าแหลม ทั้งหมดก็บอกถ้าโน้ตอยากทำก็ทำ ก็ให้งบมา ก็เลยเป็นที่มาของ ยิ้มแย้มฟิล์ม แอนด์ โปรดักชั่น ครับ"

ในส่วนของการเลือกนักแสดงหน้าใหม่มาแสดงนั้น โน้ต ได้ให้ เหตุผลของแต่ละคน เริ่มที่ บุดดาเบลส ก่อนว่า เกิดต้องชะตาและชอบฝีมือการแสดงของทั้ง 3 หนุ่มหลังจากที่มาเล่นรับเชิญให้ในภาพยนตร์ "หลวงพี่เท่ง 2 รุ่นฮาร่ำรวย" ทำงานด้วยแล้วมีความสุข ส่วนหนุ่ม ไอซ์ ก็เป็นเด็กในสังกัดของผู้กำกับ "พจน์ อานนท์" ที่แนะนำมา ซึ่งพอเห็นแล้วก็ชอบ นิสัยดี น่าจะสร้างให้ดังได้ ส่วนนางเอกนั้น โน้ต เกิดอาการปิ๊งตั้งแต่ แพรว ไปเต้นประกอบเพลงในรายการ ชิงช้าสวรรค์ วงดนตรีจากโรงเรียนศึกษานารี จึงอยากดันให้เป็นนางเอก แต่ตอนนั้น แพรว ยังเด็กเกินไป จนได้มาเจออีกครั้งที่พระนครฟิลม์ ตอนที่ แพรว เข้ามาคัดเลือกเป็นนักแสดง ก็เลยเลือก แพรว มาเป็นนางเอกได้สมใจ

โน้ต บอกว่าถ้าเรื่องไหนเป็นคนคัดเลือกนักแสดงเอง ไอซ์ ลูกสาวของ ค่อม ชวนชื่น จะได้เล่นทุกเรื่อง ซึ่งสาว ไอซ์ พูดว่า "ชอบนะคะ ได้ทำอะไรใหม่ๆ แปลกๆ บ้าง สนุกดีค่ะ เป็นหนังเต้น เป็นสาวเกาหลี แล้วก็ในเรื่องหนูเต้นดีสุดด้วยค่ะ" แต่ทั้งคุณพ่อและผู้กำกับก็ต่างค้านเป็นเสียงเดียวกันว่า กว่าจะเต้นได้ขนาดนี้ โดนดุไปแล้วไม่รู้กี่รอบ

ต่อด้วย แอร์ บอกบทบาทของตัวเองว่า "ในเรื่องเป็นยุนอาค่ะ เป็นเพื่อนกับยูริ ชอบการเต้นเกาหลีเป็นชีวิตจิตใจ คาแรกเตอร์จะเป็นสาวไฮเปอร์ พูดเก่ง" ส่วน แตงกวา กล่าวว่า "รับบทเป็นซูยองนะคะ เป็นคนที่จะสันทัดเรื่องเกาหลีที่สุดในกลุ่ม รู้เรื่องเกาหลีแทบจะทุกอย่าง ชอบการเต้น ตั้งกลุ่มเต้นกับเพื่อนค่ะ"

ทางด้านผู้ช่วยอย่าง โน้ต จูเนียร์ ก็บอกว่าไม่กดดันที่ต้องทำงานร่วมกับคุณพ่อ "ไม่ครับ จริงๆ ก็ทำงานกับป๋ามาทุกเรื่องอยู่แล้วครับ ก็เลยสบาย ผมว่าดีซะอีกนะ ส่วนตัวผมปกติก็ไม่ค่อยได้อยู่กับป๋า พอมาทำงานด้วยกันรู้สึกสนิทขึ้น กล้าพูดอะไรกันมากขึ้นครับ" ส่วนคุณพ่อก็ช่วยเสริมว่า "อีกอย่างลูกชายเขาจบทางนี้มา ทางเราก็จบทางมหาวิทยาลัยชีวิต แต่เขาเรียนทางทฤษฎีมา แต่เราทำภาคปฏิบัติ ถ้าเราลองเอาทฤษฎีกับปฏิบัติมารวมกัน งานจะออกมาราบรื่น งานจะออกมาดีไหม แล้วก็ออกมาอย่างที่เห็นเนี่ยแหละครับ แล้วอีกอย่างที่เขามีความสุข คือเขาจะรุ่นราวคราวเดียวจะไล่ๆ กับพวกบุดดาเบลส เขาก็จะสื่อสารกันในภาษาคำพูดวัยรุ่นในการช่วยเรากำกับได้"

ด้าน แหม่ม ที่ทิ้งช่วงไปนานถึง 18 ปี จากภาพยนตร์เรื่อง "มีนากะอาทิตย์" ก็เผยความรู้สึกที่กลับมาเล่นภาพยนตร์อีกครั้งว่า "ตั้งแต่ตอนนั้นอายุ 15 ตอนถ่ายภาพยนตร์ตอนนั้นนานแล้ว 10 กว่าปี ก็ลืมไปล่ะว่าเล่นหนังเล่นยังไง พอมาร่วมงานกับทีมนี้รู้สึกถ่ายหนังก็ง่ายแบบนี้เอง ทำงานง่าย ทำงานสนุกมาก ไม่อยากให้ปิดกล้องเลยค่ะ"

อุ๋ย กล่าวความประทับใจที่ได้ร่วมแสดงว่า "สนุกครับ ประทับใจครับ ไม่เคยเล่นเต็มๆ มาก่อน พอลองเล่นดูก็ชอบครับ ติดใจ การทำงานคือเป็นผู้กำกับที่ไม่มีอีโก้ เสนอความคิดเห็นได้ตลอด ผมว่าทำด้วยแล้วสบายใจมากครับ" ส่วน เอ็ม ขอค้าน แหม่ม ที่บอกว่าเล่นเรื่องนี้ง่าย "เมื่อกี้เห็นพี่แหม่มบอกว่าเล่นง่ายใช่ไหมครับ แต่พวกผม 3 คนยากครับ เพราะว่าเล่นกับน้าค่อมก็ต้องกลั้นขำกลั้นยิ้มมากๆ เวลาเข้าฉากด้วยกัน ก็ต้องคิดเรื่องอื่นครับ"

โน้ต กล่าวถึงสิ่งที่จะได้รับหลังจากการชมภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ผมอยากให้คนไทยทั้งประเทศเข้าใจว่าการเป็นทหารเกณฑ์ได้อะไรมากกว่าที่คิด แล้วถ้าลูกหลานท่านมาเกณฑ์ทหารแล้วรับใช้ชาติ ถูกต้องแล้วครับ ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน เป็นทหารเกณฑ์ไม่ใช่ลำบาก อย่าไปเชื่อเขาลือ ลูกผมไปศึกษาในการเป็นทหารเกณฑ์แล้ว มันสนุกครับ นอกจากนั้นแล้วเด็กๆ ของเราได้มาเป็นทหารเกณฑ์รับใช้ชาติ จะมีระเบียบวินัย จะรู้จักรักชาติ ศาสนา องค์พระมหากษัตริย์ พูดง่ายๆ ว่าทหารเกณฑ์คือตัวสมานแผลแผ่นดินเลยนะครับ พอเขาปลดเกณฑ์ออกไป เขาจะมีความรู้สึกว่าระเบียบวินัยการรักประเทศชาติคืออย่างนี้ บ้านพ่อเมืองแม่เป็นอย่างนี้ หนังเรื่องนี้จะให้ก็คือเมื่อท่านได้ดูแล้วท่านจะรู้ว่าลูกเราไปเป็นทหารเกณฑ์ไม่ลำบากเลย สนุก ได้วิชาความรู้ ได้ระเบียบวินัยด้วยครับ"

ผู้กำกับอารมณ์ดียังเผยอีกว่าไม่รู้สึกกดดันถ้ารายได้ของเรื่องนี้อาจจะไม่เข้าเป้าร้อยล้านเหมือนภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ "ไม่กดดันหรอกครับ อะไรจะเกิดก็เกิด อะไรเป็นของเรามันก็ต้องเป็นของเรา ผมว่านอกจากฝีมือ วาสนาแล้ว อยู่ที่พรหมลิขิตด้วยครับ อะไรจะได้ก็คงจะได้ ประเทศชาติเราไม่มีอะไรแน่นอน ผมมีความรู้สึกเป็นห่วงประเทศชาติ ทำไมผมถึงต้องทำหนังทหาร ต้องไปรู้ซึ้งจริงๆ ทหารน่ารักทุกคนครับ ต้องขอบคุณทางกองทัพบกด้วยนะครับ ท่านโฆษกกองทัพบก ท่านสรรเสริญ แก้วกำเนิด แล้วก็อีกหลายๆ ท่านที่ผมไม่ได้เอ่ยชื่อ ท่านผู้พันที่อยู่ที่ค่ายสุรสีห์ อีกหลายท่านให้ความร่วมมือกับกองถ่ายเราดีมาก หนังเรื่องนี้ท่านดูแล้วท่านจะรักทหารครับ ทหารคือลูกของประชาชน แล้วทหารนั้นก็คือประชาชน ต้องมาดูเรื่องนี้ครับ"

แพรว ขอฝากภาพยนตร์ว่า "ขอฝากภาพยนตร์เรื่องแรกของแพรวด้วยนะคะ ทุกคนตั้งใจทำมากๆ ค่ะ อยากให้ทุกคนชอบกัน มาดูกันเยอะๆ นะคะ กองพันครึกครื้น ท.ทหารคึกคัก ค่ะ" ฝ่ายพระเอกก็บอกว่า "ต้องขอบคุณทุกๆ คนครับ ที่ให้โอกาสผม ทั้งแพรว ทั้งหลายๆ คนได้มาเล่น สนุกแน่นอนครับ อยากให้ทุกคนได้ไปชมกันนะครับ อุดหนุนหนังไทย ตอนนี้การเมืองเครียดๆ ดูหนังกันดีกว่าครับ" สุดท้าย อุ๋ย ขอเป็นตัวแทนกล่าวว่า "ฝากด้วยแล้วกันนะครับ หวังว่าเป็นเรื่องแรกแต่ไม่ใช่เรื่องสุดท้ายนะครับ ผมว่าน่าจะประทับใจกัน เล่นกันเต็มที่ครับ ถ้าเกิดเครียดๆ มาหลายๆ เรื่องก็มาดู ผมว่าเฮฮาหายเครียดแน่นอนครับ"

ชวนทุกคนมาร่วมรักชาติพร้อมเรียกเสียงฮาและรอยยิ้มกับ กองพันครึกครื้น ท.ทหารคึกคัก วันที่ 25 กุมภาพันธ์ นี้ ในโรงภาพยนตร์