บวงสรวงภาพยนตร์รัก 4 รส 4 ผู้กำกับ ฝัน-หวาน-อาย-จูบ
ได้ฤกษ์บวงสรวงภาพยนตร์เรื่องใหม่ของค่าย สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล และ บาแรมยู กันไปแล้ว เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา กับภาพยนตร์รักเรื่อง "ฝัน-หวาน-อาย-จูบ" ที่นำเอาภาพยนตร์สั้น 4 เรื่อง ของ 4 ผู้กำกับชื่อดัง มารวมไว้ด้วยกัน โดยภายในงานบวงสรวง มีผู้กำกับและนักแสดงนำของเรื่องมาร่วมพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคลนี้กันอย่างพร้อมเพรียง
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการถ่ายทอด 4 มุมมอง ของความรักที่แตกต่างกัน โดยเรื่องแรก "ฝัน" ได้ผู้กำกับฝีมือดี "มะเดี่ยว - ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล" รับหน้าที่กำกับการแสดงและเขียนบทภาพยนตร์ นำแสดงโดย นักแสดงเด็กหน้าใหม่ "เอิร์ท - จารุวิทย์ ลัยวิรัตน์" และ "เจน - เจนจิรา จำเนียรศรี" พร้อมด้วย "พิช - วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล" และเพื่อนพ้องจากวง "ออกัส" เรื่องถัดมา "หวาน" เป็นผลงานการกำกับของผู้กำกับร้อยล้าน "ปรัชญา ปิ่นแก้ว" ซึ่งเรื่องนี้ได้ "ชาคริต แย้มนาม" "นุก - สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา" "สายป่าน - อภิญญา สกุลเจริญสุข" และ "แชมป์ - วิศิษฐ์ ผ่องโสภา" แสดงนำ
ในขณะที่ผู้กำกับ "อ๊อด - บัณฑิต ทองดี" ที่เคยกำกับภาพยนตร์อย่าง "เฮี้ยน" และ "มนุษย์เหล็กไหล" ก็เปลี่ยนแนวมากำกับภาพยนตร์รัก ในชื่อ "อาย" รับบทนำโดยสาวหน้าหมวย "ตาล - กัญญา รัตนเพชร์" และพระเอกใหม่แกะกล่อง "บอย - ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์" ส่วนเรื่องสุดท้าย "จูบ" ที่มีหนุ่มคนดัง "โอ้ - มาริโอ้ เมาเร่อ" แสดงนำนั้น ได้ "ราเชนทร์ ลิ้มตระกูล" รับหน้าที่ผู้กำกับ
มะเดี่ยว กล่าวถึงที่มาของภาพยนตร์สั้น 4 เรื่อง 4 มุมมองที่เกี่ยวกับความรัก ว่า "ทางผู้ใหญ่ในสหมงคลฟิล์ม คิดไว้นานแล้ว คือมีความคิดว่าอยากจะรวมกันทำหนัง มีผู้กำกับหลายๆ คน แต่ทำหนังในคอนเซ็ปต์เดียวกันทั้งหมด และก็มาประจวบเหมาะตรงช่วงนี้พอดี คือรักแห่งสยามเสร็จ มีอะไรต่างๆ ที่งอกเงยมาจากตรงนั้นเยอะ และคิดว่างานนี้เป็นเหมือนงานที่เรามาทำสนุกๆ กัน"
ผู้กำกับคนดังจากภาพยนตร์ "รักแห่งสยาม" เล่าให้ฟังคร่าวๆ ถึงเรื่อง ฝัน ว่า "เรื่องนี้เป็นเรื่องของความฝัน เป็นการผจญภัยในความฝันของน้องผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นแนวแฟนตาซี ที่มีมิวสิคัลด้วย แต่อย่างอื่นต้องอุบไว้ก่อน จะได้เซอร์ไพรส์" เมื่อถามถึงเหตุผลในการเลือกนักแสดงเด็กมาเป็นตัวนำนั้น มะเดี่ยว ตอบว่า "เป็นเด็กๆ ก็ดูน่ารักดี เราอยากทำหนังน่ารักๆ บ้าง ทำหนังซีเรียสมาตลอด อย่างรักแห่งสยามก็ซีเรียส พอมาถึงเรื่องนี้เราก็อยากทำเรื่องที่สดใส ไม่ดรามาเลย เป็นแนวน่ารัก หวานแหวว ดูแล้วจะอมยิ้มทั้งเรื่อง รับรองว่าสนุกแน่นอน และคนดูก็น่าจะชอบกัน"
ฟากผู้กำกับ ปรัชญา พูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "หลังจากที่เราคุยกันว่า เราจะทำหนังคนละมุมมองแล้ว ผู้กำกับทั้ง 4 คนก็มานั่งคุยกันว่า ใครจะพูดมุมอะไร อย่างมะเดี่ยวก็มีเรื่องในหัวชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนของผม อยากจะพูดเรื่องความรักที่มีมิติหน่อย และเป็นมุมมองความรักที่โตที่สุดใน 4 เรื่อง แต่ผมก็โยงเรื่องความรักให้มันเกาะกลุ่มกัน เพราะในภาพรวม นักแสดงเรื่องนี้ยังเป็นวัยเด็กอยู่ ผมก็พูดถึงความรักวัยผู้ใหญ่กับวัยเด็กนำมาโยงกัน ตัวหนังจะซึ้ง ถือเป็นเรื่องท้าทายระหว่างผมกับคนดู เพราะคนดูหนังแอ็กชั่นของผมมาเยอะแล้ว แล้วหนังโรแมนติกจะเป็นยังไง แต่ผมมั่นใจในมุมมองเรื่องความรักของผมว่าจะไม่เหมือนใคร เป็นความโรแมนติกที่มีสิ่งเหนือจริงเกิดขึ้น
สำหรับตัวแสดง นุกเป็นคนแรกที่เราคัดเลือกมา พอได้นุกมาเราก็ต้องหาคนที่จะมารับบทตอนเด็ก เลยมาลงตัวที่น้องสายป่าน เพราะหน้าคล้ายกัน ส่วนพระเอก เรานึกถึงผู้ชายที่ดูอบอุ่น เป็นคนรุ่นใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ผมคิดว่าชาคริตน่าจะเหมาะ จากนั้นก็เลือกดาราวัยรุ่นที่หน้าคล้ายกับชาคริต และคิดว่า แชมป์ ดูเหมาะที่สุดครับ"
มาถึงฝ่ายนักแสดง ชาคริต ได้กล่าวถึงเรื่อง หวาน ซึ่งเขาเล่น ว่า "เรื่องนี้เป็นแนวแมจิคัลเลิฟ หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นหนังแฟนตาซี แต่มันก็มีคนที่เป็นแบบนี้จริงๆ พวกเราอาจจะคิดว่าโอเวอร์ แต่จริงๆ ก็มีเกิดขึ้นนะ มันเกี่ยวกับสมองและความรู้สึก ในบทบาทของผมก็จะเป็นสามีคนหนึ่งที่ทำงานหนัก เพื่อจะสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว แต่สิ่งที่เราลืมไป คือสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ภรรยาเราต้องการ ก็เลยทำให้เกิดเรื่องราวขึ้นมาครับ"
ส่วนหนุ่ม โอ้ ก็พูดถึงบทบาทที่ได้รับในเรื่อง จูบ ว่า "คาแรกเตอร์เป็นเด็กวัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งจะแตกต่างจากเรื่องก่อนๆ ไปเลยครับ แต่รายละเอียดของหนังต้องขอเก็บเอาไว้ก่อนครับ ส่วนนางเอกก็ยังต้องรอสรุปกันอยู่ ผู้กำกับในเรื่องนี้คือพี่ราเชนทร์ โอ้ก็เคยเจอมาแล้วตอนไปถ่ายมิวสิกฯ ของ รักแห่งสยาม ซึ่งพี่เค้ามาช่วยกำกับให้ ในส่วนของการแสดงเรื่องนี้ผมจะทำเต็มที่ ให้ออกมาดีที่สุดเลยครับ"
ด้านสาว นุก ที่กลับมาเล่นภาพยนตร์อีกครั้ง หลังจากห่างหายไปร่วม 10 ปี ได้พูดภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ดีใจค่ะ ตื่นเต้น การถ่ายทำยังไม่เริ่ม ก็ต้องขอเวิร์กช็อปเยอะๆ แล้วก็ดีใจมากที่ได้ร่วมงานกับชาคริต ซึ่งไม่เคยร่วมงานกันมาก่อนด้วย คาแรกเตอร์ก็เป็นตัวเองเลยค่ะ วัยแต่งงาน มีครอบครัวแล้ว บทที่ได้รับค่อนข้างท้าทาย ต้องใช้ความพยายามสูง แต่ก็ยังบอกอะไรมากไม่ได้ค่ะ เอาเป็นว่าเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ซึ้งที่สุดใน 4 เรื่องเลยค่ะ"
ภาพยนตร์รัก 4 มุมมอง โดยผู้กำกับ 4 คน นั้น จะมีรสชาติของความรักในแบบใดบ้าง ต้องคอยติดตามชมกันในโรงภาพยนตร์ วันที่ 27 พฤศจิกายน นี้