เปิดตัว โลงต่อตาย ภาพยนตร์สะท้อนวัฏจักรแห่งความตาย
"โลงต่อตาย" หรือ "The Coffin" ภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องราวความเชื่อและการท้าทายกับความตาย ภาพยนตร์ร่วมทุนสร้างระหว่าง 3 ชาติ ประเทศไทย ฮ่องกง และสิงคโปร์ ทั้งยังได้นักแสดงเอเชีย "คาเรน ม็อก" "แอนดรูว์ เหลียน" และ "อากิ ชิบูยะ" มาร่วมประชันฝีมือกับนักแสดงไทยอย่าง "อนันดา เอเวอริงแฮม" "มะหมี่ - นภคปภา นาคประสิทธิ์" "โอ๋ - ไมเคิล พูพาร์ท" ร่วมด้วยนักแสดงอีกมากมาย โดยทำการเปิดตัวภาพยนตร์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา
เริ่มต้นงานด้วยพิธีสวดธรรมบันดาล เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้กับภาพยนตร์ จากนั้นผู้อำนวยการสร้างอย่าง "ณภัทร ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม" และ "ศิวะพร ชมสุวรรณ" มาร่วมพูดคุยถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ โดย ศิวะพร กล่าวถึงที่มาของการร่วมทุนระหว่างสามชาติได้ เป็นเพราะว่าฝีมือของผู้กำกับ "เอกชัย เอื้อครองธรรม" ทำให้ทั้งฮ่องกงและสิงคโปร์ยินดีที่จะเข้ามาร่วมทุนด้วย
ส่วนทางด้านกระแสตอบรับในต่างประเทศนั้น ณภัทร บอกว่า "น่าจะไปได้ดี เพราะชื่อเสียงของเอเชียในเรื่องภาพยนตร์ เขามักจะพูดกัน 2 เรื่อง คือ แอ็กชั่นกับผี แล้วผีเอเชียก็เป็นหนังที่น่ากลัว เราได้ไปฉายที่เมืองคานส์ก็ได้กระแสตอบรับดีมากถึงขนาด คาเรน ม็อก เสียใจที่ไม่ได้มางานนี้ ต้องยอมรับว่าการไปฉายที่เมืองคานส์แล้วกระแสตอบรับดีแสดงว่าคนไทยได้รับคำชม ต้องปรบมือให้กับ เอกชัย ที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย"
จากนั้นก็มาพูดคุยกับผู้กำกับ เอกชัย และโปรดิวเซอร์ "ปุ๊ก - พันธุ์ธัมม์ ทองสังข์" ร่วมด้วยทีมนักแสดงไทยกันบ้าง เริ่มจาก อนันดา เล่าถึงความรู้สึกที่ต้องไปนอนในโลงว่า "จริงๆ แล้วผมเติบโตมากับความคิดที่เป็นวิทยาศาสตร์มาตลอด ก็เลยไม่ได้รู้สึกว่ามันจะน่ากลัวหรืออินกับพิธี แต่พอได้เข้าไปนอนในโลงจริงๆ ผมต้องยอมรับว่ามันเกิดความอึดอัดจริงๆ"
ด้าน มะหมี่ เล่าเรื่องอาถรรพ์ระหว่างถ่ายทำให้ฟังว่า "มีค่ะ เพราะว่าเราถ่ายเรื่องราวที่เกี่ยวกับความเชื่อ วิญญาณ มันก็มีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้น ตัวมะหมี่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรเหมือนกับเป็นคนที่สัมผัสทางด้านนี้ มีอะไรบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกถึงตรงนั้น ด้วยส่วนตัวมะหมี่ค่อนข้างเชื่อว่าถ้าบรรพบุรุษเราไม่เล่าเรื่องราวเหล่านี้ถ่ายทอดถึงเรา ก็คงไม่มีเรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นมะหมี่เชื่อว่าเรื่องราวเหล่านี้มีอยู่จริงจนตกทอดมาถึงเรา"
โปรดิวเซอร์ ปุ๊ก บอกถึงความคาดหวังว่า "การสร้างหนังเรื่องนี้ภาพสวย การถ่ายทำดี ดนตรี องค์ประกอบด้านโปดักชั่น ตั้งแต่ทำหนังไทยมาต้องยอมรับว่าหนังเรื่องนี้มีองค์ประกอบที่ดีมาก คงจะเป็นเพราะทีมงานที่เราใช้มีมาตรฐานสูง จริงๆ แล้วหนังเรื่องนี้ไม่ได้น่ากลัว แต่จะทำให้คนนั่งใกล้กันเพิ่มขึ้น ส่วนความคาดหวังอย่างเคยบอกไปตอนงานแถลงข่าวแล้วว่าหวังว่าจะเป็นหนังที่เป็นโลงต่อทุน ให้เป็นทุนสำหรับทำหนังเรื่องต่อไป"
มะหมี่ พูดว่า "สำหรับตัวมะหมี่เองคาดหวังว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีคนดูเยอะ โดยส่วนตัวคิดว่าแค่เห็นทีมนักแสดงที่คัดมาเป็นอย่างดีก็คุ้มมาก แล้วเราเน้นคุณภาพมากเลยกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ถ้าไม่ดูก็น่าเสียดาย ในหนังเรื่องนี้เขาจะสื่อมาบอกว่าถ้าเกิดคุณไปแก้แล้ว คุณรู้ไหมว่าการแก้ของคุณในบางครั้ง บางทีมันอาจจะมีผลอะไรที่ส่งกระทบมากับชีวิตคุณก็ได้ ก็ต้องไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วอาจจะเกิดไอเดียอะไรใหม่ๆ ขึ้นก็ได้"
ส่วน อนันดา ฝากข้อคิดของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ผมชอบไอเดียของคนที่ท้าความตาย ถึงแม้ว่ามันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกๆ คน แต่เราก็กลัวมันอยู่ดี แล้วผมว่าพอได้ดูหนังเรื่องนี้ เห็นตัวละครที่ต้องดิ้นรนกับความตาย ถึงเรารู้กันอยู่แล้วว่ายังไงก็ต้องตาย แต่พอดิ้นรนก็เหมือนกับเป็นการฝืนธรรมชาติ พอจบก็จะได้มุมมองอีกแบบหนึ่ง อาจจะปลงกับความตาย รู้ความหมายของคำว่าตายว่าคืออะไรกันแน่ บางทีอาจจะเป็นความสงบก็ได้" จากนั้นได้เวลาปิดท้ายงานกันด้วยเพลง "ยื้อ" จากวง "โปเตโต้" ที่ใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้
โลงต่อตาย พิธีกรรมแห่งการสะเดาะเคราะห์ หรือ ส่งต่อความน่ากลัว ร่วมพิสูจน์ได้ในโรงภาพยนตร์ พร้อมฉายแล้ววันนี้