นายกฯ ชี้ข้อคิดจาก ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
"พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์" นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีและภริยา ได้เข้าชมภาพยนตร์เรื่องยิ่งใหญ่แห่งปี "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 1 องค์ประกันหงสา" ซึ่งเป็นช่วงปฐมวัย ที่โรงภาพยนตร์เอสเอฟ เวิลด์ ซีเนม่า เมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา โดยได้ให้สัมภาษณ์ว่า
"ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ได้รับทั้งความรู้ในเรื่องของประวัติศาสตร์และความบันเทิง ทางรัฐบาลเห็นว่าภาพยนตร์เรื่องนี้น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสอนประวัติศาสตร์ให้เยาวชนของเราได้ ซึ่งจะหารือกับทางกระทรวงศึกษาธิการต่อไปว่าจะใช้สิ่งที่ถือว่าเป็นทั้งความบันเทิง และเป็นทั้งเรื่องกึ่งประวัติศาสตร์นี้ ให้เป็นประโยชน์ทางการศึกษาในอนาคตได้อย่างไรบ้าง
สำหรับข้อคิดที่สำคัญที่ได้รับจากภาพยนตร์เรื่องนี้คือ คนไทยต้องรักและสามัคคีกัน ไม่ทรยศซึ่งกันและกัน ต้องสามัคคี ไม่ควรแตกความสามัคคี และไม่ควรแย่งชิงกัน คิดว่าทั้ง 3 ภาคของภาพยนตร์เรื่องนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อวงการภาพยนตร์ ทั้งยังได้ทราบจากท่านมุ้ย (ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล) ว่ารายได้ทั้งหมดจากการฉายภาพยนตร์เรื่องนี้จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลที่ทรงเจริญ พระชนมพรรษาครบ 80 พรรษาด้วย"
ภาพยนตร์แห่งอิสรภาพเรื่องนี้ เป็นตัวกระตุ้นตลาดหนังไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยยังคงมีกระแสความสนใจของผู้ชมทุกเพศทุกวัยอย่างต่อเนื่อง และเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ โดยภายใน 1 สัปดาห์หลังจากเข้าฉายเมื่อวันที่ 18 มกราคม ที่ผ่านมา มียอดรวมถึงกว่า 150 ล้านบาท จาก 4 วันแรก ได้ประมาณ 120 ล้านบาท ทั้งที่เริ่มฉายในต่างจังหวัดเมื่อ 20 มกราคม ส่วนช่วง 22 - 25 มกราคม มีรายได้วันละประมาณ 11 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นส่วนของกรุงเทพฯ ราว 6 ล้านบาทต่อวัน และต่างจังหวัดทั่วประเทศอีกประมาณ 5 ล้านบาทต่อวัน
ท่านมุ้ย กล่าวเพิ่มเติมว่า "แต่ที่เป็นปรากฏการณ์ใหม่อีกอย่างหนึ่งสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ คือการสร้างสถิติใหม่ของผู้ชมในภาคใต้ เพราะตามปกติของภาพยนตร์ไทยทั่วไปจะมีจำนวนผู้ชมและยอดรายได้ในภาคเหนือมากที่สุด รองลงมา คือ ภาคอีสาน ภาคใต้ ภาคกลาง และ ภาคตะวันออก ตามลำดับ แต่สำหรับเรื่องนี้ภาคใต้มีผู้ชมและยอดรายได้แซงขึ้นมาเท่ากับภาคอีสาน ในขณะที่ภาคกลางและภาคตะวันออกก็ไม่ได้ยอดตกลงไป เป็นการขยายฐานผู้ชมมากขึ้น และเป็นนิมิตหมายที่ดีที่พวกเราภูมิใจมากครับ ที่เป็นเช่นนี้เพราะฝ่ายต่างๆ ร่วมช่วยกัน ทั้งสื่อมวลชน บริษัทผู้สนับสนุนและผู้ชม ในขณะที่ทีมงานทุกฝ่ายและนักแสดงก็ตั้งใจและทุ่มเทกันอย่างเต็มที่"