พูดคุยกับ คริสโตเฟอร์ ลี เจ้าของบทบาทพ่อมด ซารูมาน
หากพูดถึงชื่อ "คริสโตเฟอร์ ลี" (Christopher Lee) คอภาพยนตร์รุ่นใหม่อาจจะไม่รู้จัก แต่หากเอ่ยถึงบทบาทของพ่อมด ซารูมาน จาก The Lord of the Rings คงทำให้หลายคนร้องอ๋อขึ้นมาได้ และนักแสดงหนุ่มใหญ่คนนี้ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่แวะมาเยี่ยมเยือนเมืองไทย เพื่อร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ครั้งนี้ด้วย
แม้วัยในวันนี้ของ คริสโตเฟอร์ จะล่วงเลยมาเกือบ 84 ปี แต่ประสบการณ์ที่คร่ำหวอดในวงการภาพยนตร์มาเนิ่นนาน ทำให้การพูดคุยกับเขาเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เต็มไปด้วยแง่มุมที่น่าสนใจ
จะมีสักกี่คนที่เคยรู้มาก่อนว่า คริสโตเฟอร์ ลี คนนี้แหละ ที่เป็นคนเดียวจากเรื่อง The Lord of the Rings ที่มีโอกาสได้เจอตัวจริงเสียงจริง เจ.อาร์.อาร์. โทลคีน ผู้เขียนหนังสือเรื่องราวแห่งแหวนอันโด่งดัง
"ผมได้พบกับ เจ.อาร์.อาร์. โทลคีน ในช่วงกลางปี 1950 ผมกำลังนั่งดื่มเบียร์อยู่ และเห็นเขาเข้ามาในร้าน ดูเหมือนในรูป เข้ามาพร้อมไปป์ โดยเพื่อนผมบอกว่าเคยเรียนกับเขาหรือกับลูกของเขานี่แหละ ก็เลยชวนกันเข้าไปทัก และได้แนะนำให้รู้จักกันแบบ How do you do? ตอนนั้นผมยังคิดในใจเลยว่าจะคุกเข่าดีไหม (ฮา)"
นอกจากบทบาทในภาพยนตร์ไตรภาคแล้ว คริสโตเฟอร์ ยังเคยแสดงเป็น เคานท์ ดูกู ในเรื่อง "Star Wars" อีกด้วย ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว เขาบอกว่ามันเปรียบเทียบกันไม่ได้ เพราะเรื่องหนึ่งเกิดบนโลก ส่วนอีกเรื่องหนึ่งเกิดในอวกาศ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ The Lord of the Rings เป็นภาพยนตร์ที่ดี คือได้มีการสร้างภาษาใหม่ ที่สามารถอ่านได้ เขียนได้จริงๆ โดยส่วนหนึ่ง คือ เควนยา (Quenya) อ้างอิงมาจากภาษาฟินดิช อีกส่วน คือ ซินดาริน (Sindarin) อ้างอิงมาจากภาษาเวลส์
หลังจากผ่านงานแสดงภาพยนตร์มาไม่ต่ำกว่า 50 เรื่อง เรื่องที่ คริสโตเฟอร์ คิดว่าแสดงได้ดีที่สุด ได้แก่ เรื่อง Jinnah ซึ่งเขารับบทเป็น โมฮัมเหม็ด อาลี ผู้ก่อตั้งประเทศปากีสถานผู้โด่งดัง "ผมไม่ได้บอกว่าเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ แต่เป็นหนังที่ผมคิดว่าแสดงดีที่สุด" คริสโตเฟอร์ เผย
"ผมแสดงหนังมา 60 ปี ได้แล้ว ตั้งแต่เด็ก ตอนนั้นแย่มาก เพราะไม่รู้อะไรเลย ไม่ว่าจะรับบทอะไรก็ตาม ก็ต้องเรียนรู้เอง ดีบ้างแย่บ้าง ทุกวันนี้หนังใช้ทุนสร้างเยอะมาก ต้องมีจินตนาการและสัญชาตญาณที่ดี ผมแสดงหนังเพราะชอบแสดง ไม่ใช่เพราะหวังรวยหรือชื่อเสียง" ส่วนสาเหตุที่เห็น คริสโตเฟอร์ รับบทร้ายอยู่เรื่อย เป็นเพราะบทน่าสนใจกว่า เหมือนกับที่นักแสดงดัง แอนโธนี ฮอปกินส์ เคยบอกว่า "ผมไม่ได้แสดงเป็นตัวร้าย แต่ผมแสดงเป็นคน"
เมื่อพูดถึงนักแสดงที่เป็นตำนานในวงการบันเทิง คริสโตเฟอร์ บอกว่าเขายกย่อง "เบตตี้ เดวิส" เป็นนักแสดงที่ดีที่สุดที่เคยร่วมงานด้วย โดยเขาทั้งสองเคยร่วมงานกันในภาพยนตร์เรื่อง "Return from Witch Mountain" ผลงานของ วอลต์ ดิสนีย์ ซึ่งออกฉายในปี ค.ศ.1978 แต่หากถามถึงผู้กำกับและนักแสดงที่ชื่นชอบ คริสโตเฟอร์ ตอบว่า "ทิม เบอร์ตัน" พ่วงด้วยนักแสดงคู่บุญอย่าง "จอห์นนี่ เด็ปป์" นั่นเอง
"การเล่นหนังในสมัยก่อน ทุกคนต้องทำงานหนัก ทำให้ดีที่สุดให้เป็นระดับเฟิร์สต์คลาส ระหว่างหลังเทกก็มีโอกาสคุยกันได้ แต่ปัจจุบันไม่สามารถทำได้ เพราะทุกคนมีตารางเวลาแน่นมาก จะไม่มีโอกาสได้คุยกัน ยกเว้นถ้าร่วมงานกับ ทิม เบอร์ตัน"
ผลงานภาพยนตร์ของ คริสโตเฟอร์ ที่มาร่วมฉายในเทศกาลนี้ด้วย คือหนึ่งในภาพยนตร์ชุด เจมส์ บอนด์ "The Man with the Golden Gun" โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ปักหลักถ่ายทำในเมืองไทย ฮ่องกง และ มาเก๊า ซึ่ง คริสโตเฟอร์ ได้พูดว่า "ใครที่คาดหวังจะได้เห็นภาพลักษณ์ของผมในหนังเหมือนกับผมในตอนนี้ คงจะผิดหวัง เพราะเรื่องนี้ออกฉายปี 1974 (ฮา)"
ปิดท้ายด้วยความคิดเห็นต่อเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ กรุงเทพฯ โดย คริสโตเฟอร์ กล่าวว่า "เป็นเรื่องสำคัญมาก ตอนที่ผมร่วมงานกับผู้กำกับ สตีเวน สปีลเบิร์ก เรื่อง 1941 (ปี 1979) ตอนนั้นผมไม่เห็นหนังจากเอเชียนัก อาจจะเพราะอุปสรรคทางภาษา แต่การมีเทศกาลหนังแบบนี้ ทำให้คนมีโอกาสดูหนังที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ และหนังจากเอเชียหลายเรื่องที่ดีๆ"
ติดตามภาพยนตร์ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 4 ได้จนถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ นี้ ที่ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ บัตรราคา 120 และ 140 บาท พิเศษสำหรับบัตรราคา 140 บาท ซื้อ 5 ใบ ในราคา 600 บาท และ 10 ใบ ราคา 1,000 บาท