วิลเลม เดโฟ ดาวร้ายฮอลลีวูด กับแง่มุมที่บางคนอาจยังไม่รู้
"วิลเลม เดโฟ" (Willem Dafoe) นักแสดงจากฮอลลีวูดกับหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ เชื่อได้ว่าหากใครได้เห็นคงต้องจำได้ โดยเฉพาะจากบทบาทร้าย นอร์แมน ออสบอร์น หรือ ก็อบลินตัวเขียว ในภาพยนตร์ "Spider-Man" ทั้ง 2 ภาค และผลงานภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง อาทิ "xXx: State of the Union" "Shadow of the Vampire" "Platoon" รวมไป "Inside Man" ที่กำลังจะเข้าฉายในไทยช่วงปลายเดือนนี้
นอกจากจะมีภาพยนตร์อย่าง "Manderlay" ซึ่งเป็นภาคต่อของเรื่อง Dogville ผลงานของผู้กำกับ ลาร์ส วอน ทรีเยร์ (Lars von Trier) และ "Before It Had a Name" ที่ วิลเลม เขียนบทและแสดงร่วมกับภรรยา จิเอดา โคลาแกรนด์ (Giada Colagrande) มาฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ประจำปี 2006 ตัวจริงเสียงจริงของ วิลเลม ก็ได้มาเยือนเมืองไทย เพื่อมาร่วมพูดคุยภายในงานด้วย เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
คิดอย่างไรบ้างกับภาพยนตร์เรื่อง Manderlay
"ผมเป็นแค่ส่วนหนึ่งของเรื่อง Manderlay เท่านั้น ไม่ใช่ว่าผมจะโดดเด่นกว่าใครทั้งหมด และผมคงไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นตัวแทนของนักแสดงทั้งเรื่อง ในการพูดถึงเรื่องนี้ได้ แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่ามันเป็นหนังที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะผู้กำกับที่เป็นคนละเอียดมากในการทำงาน"
แล้วเรื่อง Before It Had a Name ล่ะ
"ครับ เรื่องนี้ผมกับภรรยา ได้เขียนบทด้วยกัน และภรรยาก็เป็นผู้กำกับ เป็นหนังที่ทำด้วยตัวเองเลยประทับใจ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเหตุผลสำคัญที่ผมมางานในครั้งนี้เลย เพราะว่าเรื่องนี้ก็ฉายในเทศกาลด้วย ผมจึงมาเพื่อนำเสนอถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่ามันเป็นหนังที่น่าสนใจมากอย่างแน่นอน"
เคยปฏิเสธเรื่องไหนไป แล้วมารู้สึกเสียดายภายหลังบ้างไหม
"ไม่มี เพราะถ้าบทนั้นมีคนอื่นรับเล่นไปแล้ว ซึ่งผลออกมาดีเพราะว่าเค้าเล่น ถ้าผมได้เล่นก็อาจจะแย่ก็ได้ ส่วนใหญ่ไม่เสียดายอยู่แล้ว อาจจะมีอิจฉานิดหน่อย (หัวเราะ) คือถ้าชอบก็เล่น ไม่ชอบก็ไม่เล่น ก็แค่นั้นเอง"
การทำงานละครเวทีกับภาพยนตร์แตกต่างกันหรือไม่
"แล้วแต่สถานการณ์ครับ ขึ้นอยู่กับกระบวนการการทำงานของแต่ละงาน เราต้องเข้าใจว่าทำอะไรจะประสบความสำเร็จ บางงานก็ต้องศึกษาตัวละคร แต่บางงานก็ไม่ต้อง ถ้าให้เลือกระหว่างงานทั้งสองอย่างคงเลือกไม่ได้ เพราะว่าชอบทั้งสองอย่างเลย อย่างการเล่นละครเวทีก็มีการใช้พลังบางอย่างที่ไม่มีในภาพยนตร์ ได้เต้นบนเวทีด้วย"
ต้องไปเรียนเต้นเพิ่มเติมบ้างหรือเปล่า
"ไม่ได้เรียนครับ แต่ก็ยังเต้นได้อยู่ดี ผมเป็นคนที่ชอบการแสดงออกทางร่างกายมากกว่าต้องมีบทพูดนะ เพราะว่าร่างกายคนเรา สามารถที่จะสื่อสารออกไปได้จริงใจมากกว่า ไม่แปดเปื้อนโดยนัยบางอย่าง ที่การใช้ภาษามี"
ปัจจุบันนักแสดงฮอลลีวูดชอบพูดประเด็นทางการเมืองกันอย่างชัดเจน
"ก็แล้วแต่ว่าแต่ละคนเป็นยังไง เช่นบางคนคงจะคิดว่าต้องออกมาพูดอะไรบางอย่างแล้วล่ะ หรืออาจจะแค่ต้องการโปรโมตตัวเองมากกว่ามีจุดยืนในเรื่องนั้นจริงๆ ก็ได้ ซึ่งผมคิดว่านักแสดงนั้น ควรใช้ความสามารถ ควรจะเล่นหนังเพื่อสื่อข้อความออกมามากว่า ผมคิดว่าคนที่พูดอะไรได้ชัดๆ ว่าต้องการอะไร มักจะมีเหตุผลบางอย่างอยู่เบื้องหลังเสมอ"
การสนับสนุนของรัฐบาลสำหรับเทศกาลภาพยนตร์เป็นสิ่งที่ดีหรือไม่
"ส่วนตัวผมไม่ค่อยทราบ ไม่รู้ว่างานเทศกาลภาพยนตร์แบบนี้เป็นของรัฐบาลหรือเอกชน แต่ที่ผมให้ความสำคัญกับเทศกาล ก็เพราะว่ามันเป็นงานที่จะได้มีโอกาสชมหนังที่ปกติไม่มีโอกาสชม พวกหนังทุนต่ำเล็กๆ ที่ต้องแข่งขันในตลาดที่ใหญ่ๆ ที่ต้องใช้เงินมากจนเป็นการปิดกั้นความหลากหลายของหนัง ดังนั้นงานเทศกาลจึงเป็นข้อดีตรงนี้นั่นเอง"
แม้จะเป็นการพูดคุยเพียงสั้นๆ แบบตรงไปตรงมา แต่อย่างน้อยก็ทำให้ได้รู้ถึงทัศนคติและแง่มุมบางอย่างของ วิลเลม เดโฟ ชายหนุ่มที่มีประสบการณ์ในวงการภาพยนตร์มานานกว่า 2 ทศวรรษ รวมถึงความสามารถด้านอื่นที่หลากหลาย นอกจากการเป็นแค่ตัวร้ายฮอลลีวูด ที่ผู้ชมคงไม่อาจรู้ได้ เพียงแค่มองผ่านจอภาพยนตร์เท่านั้น