เปิดตัวภาพยนตร์สุดระทึกกระตุกต่อมผวา รับน้องสยองขวัญ

เปิดตัวภาพยนตร์สุดระทึก "รับน้องสยองขวัญ" ของผู้กำกับ "ภาคภูมิ วงษ์จินดา" กันไปแล้วเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยมีรูปแบบของงานที่อาจทำให้ใครหลายคนที่ผ่านไปมาแถวโรงภาพยนตร์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สาขารัชโยธิน นึกว่ากำลังอยู่ในมหาวิทยาลัย เพราะมีซุ้มเกมต่างๆ เหมือนการรับน้องและเพลงเชียร์ที่ดัง คึกคัก และเป็นกันเองอยู่ตลอดเวลา

หลังจากสนุกสนานกับซุ้มเกมต่างๆ ภายในงานแล้ว พิธีกรของงาน 3 พี่น้อง สินเจริญบราเธอร์ ก็ออกมาต้อนรับทุกๆ คน และเปิดตัวนักแสดงนำในเรื่องทั้ง 17 ชีวิต โดยมีผู้ชาย 8 คน และผู้หญิง 9 คน ที่ออกมาพร้อมกับความสดใสร่าเริง เริ่มต้นการสัมภาษณ์ด้วยการให้แต่ละคนแนะนำตัวเองซึ่งชื่อจริงๆ ของแต่ละคนก็คือชื่อที่ใช้แสดงในเรื่องด้วย และก็เป็นความพิเศษของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ทุกคนจะไม่มีบท ไม่รู้บทบาทของตัวเองว่าจะต้องแสดงอะไรบ้าง เจออะไรบ้าง และตัวละครในเรื่องของแต่ละคน คือ การเล่นเป็นตัวเอง

ในการถ่ายทำนักแสดงทุกคนบอกว่าค่อนข้างยากและทรหดมากเพราะต้องถ่ายในป่า เจอทั้งเอ็ฟเฟ็กต์และสลิง แต่ก็ทำให้ทุกคนสนิทกัน เพราะอายุใกล้เคียงกัน และต้องถ่ายทำอยู่ด้วยกันตลอด บรรยากาศในการทำงานเลยค่อนข้างสนุกสนาน เฮฮา และทำให้ทุกคนเลยกลายเป็นเพื่อนกัน ในช่วงที่สัมภาษณ์นักแสดงและผู้กำกับจะพูดคุยหยอกล้อกันอยู่ตลอด แสดงให้เห็นความสนิทสนมซึ่งกันและกัน

ผู้กำกับ ภาคภูมิ วงษ์จินดา พูดถึงนักแสดงว่า "ค่อนข้างยากที่ต้องกำกับนักแสดงทั้งหมด เพราะก็อย่างที่เห็นกันอยู่ (หัวเราะ) บางคนก็ยังมีความเป็นเด็กยังเล่นยังซนอยู่ แต่เวลาทำงานพวกเขาก็ตั้งใจจริง"

"ไม้ - บวรพจน์ ใจกันทา" นักแสดงนำคนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ บอกว่า "รู้สึกดีใจที่ได้แสดงภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต และก็ได้เล่นอะไรที่แปลกใหม่เลย คือไม่มีบทตอนแรกก็งงๆ ว่าจะเล่นยังไงแต่พอทำความเข้าใจว่าผู้กำกับเขาต้องการแบบนี้เพื่อความสมจริงสมจังก็สามารถแสดงได้" ส่วนฉากที่ประทับใจในเรื่อง ไม้ บอกว่า "เป็นฉากช่วงแรกๆ ที่เพิ่งเข้าไปรับน้อง คือเป็นฉากที่ทุกคนสนุกสนานร้องเพลง เต้นกันประมาณนี้ เพราะหลังจากนั้นคือจะอีกเรื่องเลย และก็หวังว่าทุกคนที่เข้าไปดูจะชอบ"

และอีกคนคือ "ปีใหม่ - สุมนต์รันต์ วัฒนาเศลารัตต์" ซึ่งเคยผ่านงานแสดงมาแล้วบอกว่า "สำหรับเรื่องนี้ ใหม่ ว่ายากกว่าการแสดงที่ผ่านมา เพราะที่ผ่านมาเราจะรู้บทว่าเขาต้องการให้เราแสดงเป็นแบบนี้ เล่นอย่างนี้ คือเราจะรู้พื้นฐานว่าตัวละครตัวนี้เขาเป็นแบบนี้นะ นิสัยอย่างนี้นะ แต่เรื่องนี้ไม่มีคือเราต้องคิดเอง ตัดสินใจเองว่าเจอเหตุการณ์อย่างนี้เราจะต้องทำยังไง ซึ่งคาแรกเตอร์ในเรื่องนี้ก็เป็น ใหม่ ประมาณ 98 เปอร์เซ็นต์ ก็อยากฝากให้คนดูเรื่องนี้ติชมว่าชอบไม่ชอบ เพราะเป็นอะไรใหม่ๆ สำหรับวงการภาพยนตร์บ้านเรา นักแสดงกับผู้กำกับคิดแบบนี้แล้วคนดูคิดยังไง"

สำหรับเรื่องนี้หลายคนบอกว่าเป็นภาพยนตร์ที่ค่อนข้างรุนแรงดูไม่เหมาะสม ซึ่งผู้กำกับได้ให้ความเห็นว่า "มันก็ต้องมีอยู่แล้วสำหรับหนังแนวนี้ คือว่ามันเป็นหนังสยองขวัญ ก็ต้องมีฉากที่ดูรุนแรงบ้าง แต่หนังจริงๆ เราไม่ต้องการสื่อหรือสนับสนุนให้ทุกคนใช้ความรุนแรง ถ้าคนได้เข้าไปดูจนถึงตอนท้ายของเรื่องจะเข้าใจเองว่าหนังต้องการสื่ออะไร ก็เป็นส่วนหนึ่งของหนังที่แสดงให้เห็นแต่ไม่ใช่ทั้งหมด คือมันมีอะไรที่มากกว่านั้น อยากให้ทุกคนได้ลองเข้าไปดูเอง"

สำหรับความคาดหวังกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้กำกับบอกว่า "ทำหนังสยองขวัญก็อยากให้ดูรู้สึกกลัว รู้สึกเสียวไปกับมัน ไม่ใช่เข้าไปดูแล้วง่วงนอน คือต้องน่าติดตามน่าลุ้น นี่คือความคาดหวัง ส่วนสำหรับคนดูหลังจากที่ตัวเองได้ดูแล้วรอบพิเศษก็ค่อนข้างมั่นใจว่าคนดูชอบและถูกใจ เพราะเราเห็นคนดูเต็มโรงกรี๊ดกัน เห็นอาการตกใจเราก็รู้สึกดีขึ้น

ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เฉพาะวัยรุ่นหรือนักศึกษาที่ดูได้ คำว่ารับน้องเป็นแค่หน้าหนังเท่านั้น ลึกๆ มันมากกว่านั้นดูได้ทุกวัย แต่สำหรับเด็ก ผู้ปกครองก็ไม่สมควรพามาดูอยู่แล้ว เพราะค่อนข้างจะรุนแรงนิดนึง แต่สำหรับวัยอื่นๆ ก็ไม่ได้เป็นหนังที่ให้ร้ายหรือให้โทษอะไร ก็อยากให้ไปดูหนังอีกแนวนึงที่แปลกและก็เป็นการทดลองทำอะไรใหม่ๆ ของผมที่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไง แต่หลังจากออกมาแล้วมีคนได้ดูและผลตอบรับที่ค่อนข้างดี ก็อยากให้ทุกคนไปดูกันกับหนังแปลกๆ อีกเรื่อง"

ใครที่เป็นคอภาพยนตร์สยองขวัญ เตรียมกระตุกต่อมผวากับ รับน้องสยองขวัญ ได้วันที่ 10 พฤศจิกายน นี้ ทุกโรงภาพยนตร์